“ครูแล่ม” เปิดใจ ทีมถึงทางตันเกือบไม่ได้ส่งเด็กไปแข่งขัน มั่นใจเงินบริจาค จากผู้ชมจะช่วยพาเด็ก ๆ ให้ไปแข่ง 2 รายการที่ตั้งใจได้ วอนหน่วยงานท้องถิ่นให้ความสำคัญด้านกีฬาเป็นโอกาสทางการศึกษาสำหรับเด็กด้อยโอกาส
17 พ.ย.65 มูลนิธิไทยพีเอส ส่งมอบเงินบริจาคจากผู้ชมจำนวน 16,956 บาท เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับทีมวอลเลย์บอลโรงเรียนเมืองเตาวิทยาคม อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม โดยมี สวานิตย์ ศิริบูรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเมืองเตาวิทยาคม บุตรดา สาโสก ครูผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอล และคณะผู้บริหาร เป็นผู้รับมอบในการใช้เงินบริจาคบริหารจัดการทีมร่วมกัน
บุตรดา สาโสก หรือ ครูแล่ม กล่าวว่า เวลานี้เด็ก ๆ อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการฝึกซ้อมไปเพื่อแข่งขันรายการใหญ่ 2 รายการ แต่เนื่องจากเงินในการทำทีม ที่เป็นทั้งค่าเดินทาง ค่าอาหาร เหลือพอสำหรับไปแข่งได้ 1 รายการเท่านั้น จึงจำเป็นต้องตัดสินใจให้ทีมแข่งชุดใหญ่ซึ่งมีโอกาสเข้ารอบลึกมากกว่า แต่หลังจากได้รับเงินบริจาคจากผู้ชมก็เชื่อมั่นว่าจะสามารถพาเด็ก ๆ ทั้งหมดไปแข่งขันทั้งสองรายการตามที่ตั้งใจไว้ได้
“กราบขอบพระคุณผู้ชมทุกท่านที่ช่วยเหลือเข้ามา สัญญาว่าเราจะใช้เงินทุกบาทอย่างคุ้มค่า ทั้ง 2 รายการนี้มีความสำคัญกับเด็กมาก ๆ อย่างตุ๊ต๊ะ นี่เป็นรายการแรกของเขา แต่พอรู้ว่าเราคงไม่ได้ส่งในรุ่นของเขาไป เขาก็แอบมีน้ำตา ครูก็ร้องไห้นะ เพราะขนาดครูยังอยากไปเลย ทุกคนพยามยามฝึกซ้อมเพื่อหวังจะเข้าไปถึงรอบลึก ๆ เก็บไว้เป็นหลักฐานสมัครเรียนโควตานักกีฬา มันจึงเป็นทั้งการพิสูจน์ความสามารถ และเป็นใบเบิกทางในการศึกษาสำหรับเด็กครอบครัวยากจน ตอนนี้ได้ไปแล้วทุกคนก็ดีใจมาก”
บุตรดา สาโสก หรือ ครูแล่ม
ด้าน สวานิตย์ ศิริบูรณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเมืองเตาวิทยาคม กล่าวว่า ทางโรงเรียนพยายามที่จะส่งเสริมให้เด็กที่มีความสามารถด้านกีฬาได้มีโอกาสทำตามความฝัน ซึ่งทีมของครูแล่มมีผลงานที่ดี สร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนมาโดยตลอด แต่เนื่องจากงบประมาณมีจำกัดทำให้สนับสนุนได้ไม่เพียงพอ ที่ผ่านมาได้เขียนโครงการไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม ขอให้เมืองเตาวิทยาคมเป็นโรงเรียนลักษณะพิเศษ เพื่อทำให้มีงบประมาณมาช่วยเหลือได้มากขึ้น แต่ยังไม่ได้ประกาศออกมา
ทีมวอลเลย์บอลโรงเรียนเมืองเตาวิทยาคม เป็นหนึ่งในเรื่องราวของสารดคี “คนจนเมือง ซีซั่น 3” ตอน“นักสู้ครูข้ามขอบ” โดยมี บุตรดา สาโสก หรือ ครูแล่ม อดีตนักกีฬาวอลเลย์บอลที่ผันตัวเองมาเป็นโค้ชให้กับเด็ก ๆ 28 คน ด้วยเงินเดือนครูอัตราจ้าง 8,000 บาท และรายรับจากโรงเรียน 10,000 บาทรวม 18,000 บาท สวนทางกับค่าใช้จ่ายต่อเดือนนับแสนบาท กลายเป็นภาระหนักหนาที่ครูแล่มแบกไว้นานนับสิบปี แต่ไม่สามารถจะละทิ้งได้ เนื่องจากเส้นทางนี้คือโอกาสทางการศึกษาสำหรับเด็กด้อยโอกาสและอาจพลิกชีวิตของเด็กคนหนึ่งให้หลุดพ้นจากวังวนของความยากจนข้ามรุ่นได้