เครือข่าย ‘ครูขอสอน’ และ กลุ่มครูในโลกออนไลน์ ชวนครูทั่วประเทศแต่งดำตลอดสัปดาห์นี้ ไว้อาลัยต่อการจากไปของ ‘ครูมัท’ ข้าราชการครู วัย 39 ปี จาก จ.บุรีรัมย์ หลังเผชิญความเครียดสะสมจากภาระงาน และระบบการบริหารภายในโรงเรียน ที่ขาดประสิทธิภาพ พร้อมเรียกร้อง กระทรวงศึกษาธิการ เร่งทบทวน แก้ไขปัญหาภาระงานครูอย่างจริงจัง

กรณีการจากไปของ ‘ครูมัท’ ไม่เพียงความโศกเศร้า แต่ได้จุดกระแสการตั้งคำถามถึงระบบการศึกษาไทยอีกครั้ง หลังจดหมายฉบับสุดท้ายของเธอถูกเผยแพร่ ซึ่งเนื้อหาในจดหมาย ครูมัทได้บรรยายถึงความทุกข์จากการต้องรับผิดชอบงานที่คั่งค้างจำนวนมาก โดยเฉพาะงานด้านการเงินและบัญชี ซึ่งอ้างถึงระบบการเงินในโรงเรียน ที่พบการเบิกจ่ายล่วงหน้า แล้วค่อยมาเคลียร์เอกสารภายหลัง และในกรณีที่เกิดความผิดพลาด กลับเป็นเธอที่ต้องแบกรับความผิดเพียงลำพัง
ในจดหมาย ครูมัท ยังระบุว่า ความเครียดของเธอมาจากระบบที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งทำให้เธอกลายเป็น “คนผิด” ทั้งที่เป็นเพียงผู้ปฏิบัติตามคำสั่ง เทียบกับการที่ครูหลายคนต้องทำงานที่เกินขอบเขตของหน้าที่ครู และถูกผลักให้รับผิดชอบทุกอย่าง ทั้งจากระบบราชการและจากผู้บริหารโรงเรียน
“ฝากถึงกระทรวงให้ช่วยเห็นใจครูการเงินและพัสดุด้วยนะคะ
ข้อความส่วนหนึ่งในจดหมายของ ‘ครูมัท’
อย่าให้ต้องทำงานหนักและเสี่ยงชีวิตแบบนี้เลย ลาก่อน”
ข้อมูลจาก เครือข่ายครูขอสอน เคยเปิดเผยผลสำรวจว่า ครูไทยกว่า 95% ทำงานเกิน 8 ชั่วโมงต่อวัน และกว่า 58% ต้องทำงานที่ไม่ใช่การสอนมากกว่า 6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ส่งผลให้ครูหลายคนไม่สามารถให้เวลากับการออกแบบการเรียนการสอนได้เต็มที่ และต้องเผชิญความเครียดเรื้อรังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นอกจากภาระงานแล้ว ครูจำนวนไม่น้อยยังต้องแบกรับภาระทางการเงินบางส่วนเอง อันเนื่องมาจากความคาดหวังให้ “เสียสละ” เพื่อโรงเรียน หลายคนต้องใช้ทรัพย์สินส่วนตัวเพื่อให้งานเดินหน้าได้ และบางครั้งต้องเป็นผู้รับผิดแทนระบบ แม้จะไม่มีอำนาจตัดสินใจโดยตรง
เครือข่ายครูขอสอน ระบุว่า ปัญหาภาระงานของครูไม่สามารถแก้ได้ด้วยการลดงานแบบแยกส่วนเพียงชั่วคราว แต่ต้องเริ่มที่การปฏิรูปโครงสร้างการบริหารแบบรวมศูนย์ของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ส่งนโยบายจากส่วนกลางโดยไม่คำนึงถึงบริบทของแต่ละโรงเรียน และวัฒนธรรมราชการที่ยึดติดกับเอกสารมากกว่าคุณภาพการเรียนรู้
กรณีของครูมัท ยังสะท้อนให้เห็นว่า แม้ครูจะทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ แต่ระบบที่ไม่เอื้ออำนวยกลับเป็นภาระที่บั่นทอนกำลังใจและศักยภาพของพวกเขา ข้อเรียกร้องให้แต่งดำไว้อาลัยครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงเพื่อไว้อาลัยต่อบุคคลหนึ่ง แต่เป็นการส่งเสียงถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่กดทับวิชาชีพครูทั่วประเทศ
กระทรวงศึกษาธิการ เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง
ด้าน สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องครูมัทแล้ว โดย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเตรียมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง พร้อมยอมรับว่าปัญหาภาระงานครูยังคงมีอยู่ แม้จะมีนโยบายลดภาระงานมาก่อนหน้านี้ แต่ในทางปฏิบัติยังไม่สามารถแก้ไขได้จริง โดยเฉพาะในโรงเรียนขนาดเล็กที่ครูมีจำนวนน้อยแต่ต้องบริหารงบประมาณจำนวนมาก
สิริพงศ์ ยังระบุว่า ศธ.อยู่ระหว่างพิจารณาของบประมาณเพื่อจ้างเจ้าหน้าที่ธุรการ เพื่อให้ครูได้ทำหน้าที่สอนเต็มที่ และเตรียมอบรมผู้บริหารโรงเรียนให้เข้าใจการบริหารด้านบุคคล วิชาการ และงบประมาณ ซึ่งจะช่วยลดภาระการบริหารที่ตกอยู่กับครูผู้สอนโดยตรง
ในขณะเดียวกัน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ออกมาแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของครูมัท ผ่านโพสต์ทางเฟซบุ๊ก พร้อมย้ำว่าจะไม่เพิกเฉยต่อสิ่งที่เกิดขึ้น และจะทบทวนแนวทางสนับสนุนครูให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้นในอนาคต
