เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน โพสต์กังวล ความสมดุลระหว่าง “การแสดงความอาลัย” กับ “โอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาของเด็กและเยาวชน” งดกิจกรรมอาจส่งผลต่อบรรยากาศการเรียนรู้ ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการ ชี้แจงเพิ่มเติม กิจกรรมยังจัดได้ แต่ขอให้สำรวม สงบ เพื่อแสดงความอาลัยสูงสุด
26 ต.ค. 68 จากกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกหนังสือแจ้งให้หน่วยงานในสังกัดและสถานศึกษาทุกแห่งงดจัดงานที่มีบรรยากาศรื่นเริงทุกประเภทเป็นเวลา 1 ปี

ทำให้มีหลายเพจเฟซบุ๊กด้านสุขภาพเด็กและวัยรุ่น ออกมาแสดงความคิดเห็น และขอให้กระทรวงศึกษาธิการทบทวนแนวทาง โดยให้เหตุผลว่าอาจส่งผลต่อการเรียนรู้ และพัฒนาการของเด็ก ๆ หากหลายกิจกรรมถูกงดไป เช่น เพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน โดย พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น สำหรับเนื้อหาส่วนหนึ่งในโพสต์ ระบุว่า
“ส่วนตัวถึงแม้จะเห็นด้วยว่าเป็นประเพณีปฏิบัติ ที่แสดงถึงความอาลัยรักกับพระองค์ท่าน แต่ก็อยากให้ทางกระทรวงศึกษา พิจารณาถึงนโยบายดังกล่าวอย่างรอบคอบ เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่าง “การแสดงความอาลัย” กับ “โอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาของเด็กและเยาวชน”
ในโรงเรียน เด็ก ๆ จำเป็นต้องมีพื้นที่แห่งความสุขและสร้างสรรค์ ทั้งการเล่นดนตรี การแข่งกีฬาสี การแสดงละคร การจัดงานตามเทศกาลต่าง ๆ ที่สำคัญ หลายงานเด็ก ๆ มีการเตรียมการและซ้อมการแสดงมาตั้งแต่ต้นปีการศึกษา
การกำหนดรูปแบบการไว้ทุกข์ที่งดกิจกรรมรื่นเริง ยาวนานถึง 1 ปี ลดโอกาสการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ในการแสดงความเคารพและความอาลัย “ที่หลากหลาย” ที่สามารถทำได้ผ่านความสุข เช่น การเล่นดนตรีที่แสดงความระลึกถึง การจัดงาน เช่น ลอยกระทง งานปีใหม่ งานสงกรานต์ ที่ส่งเสริมงานศิลปะที่พระองค์ท่านให้การสนับสนุน ฯลฯ
เช่นเดียวกับเพจเข็นเด็กขึ้นภูเขา โดย พญ.เบญจพร ตันตสูติ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น ที่เห็นว่าประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ อาจกระทบกับการเรียนรู้ของเด็ก โดยเห็นว่าการแสดงออกถึงความอาลัยอาจไม่จำเป็นต้องงดความสุขของเด็ก ๆ ซึ่งเนื้อหาบางช่วงของเพจ ระบุว่า
“การเรียนรู้ของเด็กไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในห้องเรียนเท่านั้น กิจกรรมรื่นเริงในโรงเรียน เช่น งานวันเด็ก การแสดงศิลปะ ดนตรี กีฬา หรือกิจกรรมสร้างสรรค์ต่าง ๆ คือพื้นที่แห่งความสุข ที่ช่วยพัฒนาอารมณ์ สังคม ความคิดสร้างสรรค์ และความร่วมมือของเด็ก ๆ ค่ะ
การงดกิจกรรมเหล่านี้ทั้งหมดอาจส่งผลต่อบรรยากาศการเรียนรู้ และลดโอกาสที่เด็กจะได้ฝึกทักษะสำคัญในชีวิต
เราสามารถไว้อาลัยได้โดยไม่จำเป็นต้องงดความสุขของเด็กๆ ค่ะ เช่น จัดกิจกรรมที่แสดงความเคารพอย่างเหมาะสม หรือสอดแทรกการเรียนรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน ให้เด็กได้ระลึกถึงด้วยความเข้าใจและความรู้สึกจากใจ ความเคารพ และ ความรื่นเริง สามารถอยู่ร่วมกันได้ และนั่นคือสิ่งที่สังคมควรมอบให้กับการเรียนรู้ของเด็กทุกคน
ด้านกระทรวงศึกษาธิการได้ชี้แจงเพิ่มเติมโดยให้ความหมายและขอบเขตของกิจกรรม ว่ากิจกรรมที่ขอความร่วมมือให้งดจัด เช่น งานสังสรรค์ศิษย์เก่า งานเลี้ยงรับส่ง งานแสดงคอนเสิร์ต ขณะที่กิจกรรมที่จำเป็นต่อพัฒนาการผู้เรียนและบุคลากรหรืออยู่ในหลักสูตร สามารถดำเนินต่อได้ แต่ขอให้เน้นความสงบ สำรวมเพื่อแสดงความเคารพอย่างสูงสุด

