‘พระพยอม’ ยอมรับ 30 ปี วัดดูแล เลี้ยงดูเด็กวัด ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้ ยืนยัน กุฏิไฟไหม้ไม่ได้ล็อก คาดเด็กแอบมาเล่นกลางดึก ขณะที่ ตำรวจ เร่งหาสาเหตุ ส่งร่างเด็กชันสูตร
กรณีเหตุการณ์ไฟไหม้กุฏิวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี เมื่อกลางดึกของวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้เด็กวัด 3 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยพบว่าผู้เสียชีวิตเป็น เด็กฝาแฝด อายุ 11 ปี และอีกคนคือ เด็กอายุ 9 ปี ซึ่งก็เป็นเด็กฝาแฝดอีกคนที่ The Active เคยไปสัมภาษณ์และถ่ายทอดชีวิตเด็กวัด เมื่อช่วงวันเด็กที่ผ่านมา
อ่านเพิ่ม : ชีวิต “เด็กวัด”… ฟ้าหลังฝน มี “โอกาส” ซ่อนอยู่ ?
ภายหลังเกิดเหตุ ล่าสุดวันนี้ (23 พ.ค. 67) นิลวดี มโนสา หรือ แม่ขาวหมู ผู้ปฏิบัติธรรมวัดสวนแก้ว และผู้ดูแลเด็กวัดสวนแก้ว เปิดเผยกับ The Active ว่า ที่ผ่านมามีเด็กที่อยู่ในความดูแลรวม 5 คน โดยเด็กที่เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ เป็นเด็กแฝดอายุ 11 ปี ซึ่ง 2 คนนี้เพิ่งมาอยู่วัดได้ไม่นาน ขณะเดียวกันมีเด็กแฝดอายุ 9 ปีอีกคู่ ซึ่งคนน้องคือคนที่เสียชีวิต และเป็นคนเดียวกันกับที่เคยให้สัมภาษณ์กับทาง The Active ไปก่อนหน้านี้
สำหรับในคืนเกิดเหตุเบื้องต้น แม่ขาวหมู ให้ข้อมูลว่า ปกติเธอไม่ได้พักค้างที่วัด แต่มี ดวงใจ มั่นวงศ์ หรือ แม่ขาวดวง ที่คอยช่วยดูแลเด็ก ร่วมกับแม่ขาวคนอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่สูงวัยกันเกือบทุกคน ตามปกติเด็ก ๆ จะนอนอยู่ในอาคารตึกส้ม ที่อยู่ข้างกับกุฏิที่เกิดเหตุ คาดว่า เด็ก ๆ อาจจะแอบออกมาเล่นที่กุฏิ หลังจากทุกคนปิดไฟหลับกันหมดแล้ว กระทั่งมารู้เรื่องกันช่วงเที่ยงคืน ซึ่งกุฎิที่ไฟไหม้ ก็เป็นพื้นที่เล่นของพวกเขาที่มีหมอน ผ้าห่ม ตุ๊กตา พัดลม ที่ไปเล่นกันบ่อย ๆ ส่วนสาเหตุยังไม่มีใครรู้ เพราะขณะไฟไหม้อาจเพราะฝนตกหนัก แม่ขาวอายุมากจึงไม่ได้ยินเสียง
“แม่ขาวดวงเขาเสียใจมาก ยังนั่งร้องไห้อยู่เลย เพราะเขารักของเขา ส่วนแฝดคนพี่ก็เสียใจ ตอนนี้ครอบครัวเด็กแฝดอายุ 11 ปี มาที่วัดแล้ว ส่วนอีกคน ยังติดต่อครอบครัวไม่ได้เลย…”
นิลวดี มโนสา
แม่ขาวหมู เล่าอีกว่า ช่วงปิดเทอมฤดูร้อนที่ผ่านมา พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ให้เด็กวัดทั้ง 5 คนบวชเรียน เป็นสามเณรในโครงการของสำนักพุทธฯ เพิ่งสึกมาช่วงเปิดเทอมนี้ และยังบอกอีกว่า เด็กแฝดที่รับมาดูแลใหม่ เป็นเด็กที่เคยแยกกันอยู่มาก่อน คนหนึ่งอยู่กำแพงเพชร อีกคนอยู่นนทบุรี คนตัวโตไม่รู้หนังสือเลย ต้องให้เรียนที่วัดกับแม่ขาวที่เป็นครู ส่วนอีกคนเพิ่งพาไปสมัครเรียน เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมานี้เอง และเข้าเรียนได้แค่วันเดียว ก่อนมาเกิดเรื่องเศร้าขึ้นในวันวิสาขบูชา
ขณะที่ พระราชธรรมนิเทศ (พระพยอม กัลยาโณ) เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ระบุ การพิสูจน์หลักฐานเป็นหน้าที่ของตำรวจ ซึ่งทางวัดอุปการะเด็กมาก 20-30 รุ่น หลายคนมีงานทำ มีครอบครัว ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ที่วัดมี รปภ. หลายคน พอเห็นก็รีบช่วยกันดับไฟ ส่วนเรื่องประตูล็อกนั้น ยืนยันว่า ไม่เป็นตามข่าวที่เสนอไป หากกล่าวแบบนั้นเหมือนฆาตรกรรมชัด ๆ
พระพยอม บอกอีกว่า เลี้ยงเด็กมา 20-30 ปี ผ่านมาเป็น 400-500 คน มีทั้งเด็กที่ประสบความสำเร็จ มีทั้งที่ติดคุก เสียชีวิตไปบ้าง แต่ไม่เคยเกิดเหตุไฟไหม้ โดยวัดมีเป้าหมายช่วยเหลือเด็กที่ครอบครัวไม่มีกำลังที่จะดูแลส่งเสียเล่าเรียน เพิ่งส่งเรียนตัดเสื้อผ้าให้ 2 คน เพิ่งไปโรงเรียนมาแล้วมาเสียชีวิต ปีหนึ่งตั้งงบประมาณ ไว้ 3-4 ล้านบาท สนับสนุนการศึกษาเด็ก โดยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นกับเด็กเล็ก เป็นเหตุสุดวิสัยที่จะควบคุมได้ แม่ขาวทุกคน เมตตาเด็ก ๆ ดูแล พาไปเรียน ใช้เงินจากมูลนิธิวัดทั้งนั้น ไม่มีเรื่องอะไรแอบแฝงกับเด็กแน่นอน
“วันเวียนเทียนเสร็จ ต่างคนต่างแยกย้ายกัน แต่เด็กเขาชอบเล่นแท็บเล็ต เราเคยเห็นเขาเล่นกัน เราเคยเห็นข่าวว่าถ้าเล่นแท็บเล็ตต้องอย่าเสียบสาย ต้องเอาออก เราก็เคยเห็นเด็กบอกถ้าไม่อยากให้แบตหมด ต้องเสียบเล่น เขาเคยพูด แต่เราไม่รู้ว่าเหตุการณ์จริงมันเสียบอะไรไว้ตรงไหนหรือเปล่า บางวันเด็กอาจจะแอบไปเล่นกัน”
พระพยอม กัลยาโณ
พระพยอม บอกด้วยว่า เด็กไปเล่นกัน 5 คน แต่อีก 2 คนไปนอนก่อน เพราะง่วง 2 คนนี้เลยรอด ไม่เช่นนั้นอาจกลายเป็น 5 ศพ
ตำรวจ ยืนยัน ประตูกุฏิไม่ได้ล็อก
พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี เปิดเผยยืนยันชัดเจนว่า กุฏิที่เกิดเหตุไฟไหม้ไม่ได้ล็อก ซึ่งจะต้องสอบสวนให้ได้รายละเอียดว่า ในเมื่อไม่ได้ล็อกแล้วทำไมเด็กจึงไม่ได้ออกจากกุฎิ อาจจะเป็นการสำลักควัน หรื อาจมีไฟฟ้าช็อต เพราะว่าโครงสร้างของกุฎิเป็นโลหะ เสา คาน เป็นโลหะทั้งหมด แผ่นฝาเป็นสังกะสีซึ่งเป็นตัวนำกระแสไฟฟ้าได้ ตรงนี้ต้องพิสูจน์อีกครั้ง ส่วนภายในมีเศษของโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ตหรือไม่นั้น เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อได้ได้คำตอบที่แน่ชัด
“ไม่อยากอยู่กับพ่อแม่” ความจริงที่เด็กวัดสะท้อน
สำหรับแฝดคนน้อง อายุ 9 ปี ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งเคยให้สัมภาษณ์ไว้กับ The Active ก่อนหน้านี้ เขาเล่าว่า ชอบเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ชอบเล่นคอมพิวเตอร์ และชอบเล่นเกม เมื่อถามถึงความฝันโตขึ้นอยากเป็นอะไร เขากระซิบเสียงเบา ๆ ว่า “ยังไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย เพราะครูไม่เคยถาม”
เขายังบอกด้วยว่า อยู่ที่วัดสวนแก้วสนุกมาก เมื่อถามว่าอยากกลับบ้านไหม ? เขาปฏิเสธทันที “ไม่อยากกลับบ้าน ไม่อยากอยู่กับพ่อแม่” นั่นอาจเป็นเพราะได้เล่นซนตามวัย มีเพื่อน มีพื้นที่ให้วิ่งเล่น ได้มีหลายอย่าง ในแบบที่เขาไม่เคยได้รับจากครอบครัว แต่อย่างน้อย คือ การได้รับความรักจากแม่ขาว ได้เรียน ได้เล่น