ศปถ. เผย ‘ซิ่ง-เมาแล้วขับ’ ยังเป็นสาเหตุหลัก ‘รถจักรยานยนต์’ เกิดเหตุเยอะสุด พบเที่ยงคืน ถึง ตี 2 ช่วงเวลาเสี่ยงอุบัติเหตุ น่าห่วงเจ็บ-ตาย อยู่ในช่วงอายุ 20 – 29 ปี ด้าน ปภ. กำชับทุกส่วน คุมเข้ม ดูแลประชาชนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ หลังหยุดยาว
วันนี้ (2 ม.ค. 68) ภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เพื่อรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 เปิดเผยว่า วันนี้เป็นแรกของการเปิดทำงานหลังจากเทศกาลปีใหม่ ซึ่งประชาชนบางส่วนได้เดินทางกลับถึงกรุงเทพมหานคร และจังหวัดเขตเศรษฐกิจในภาคต่าง ๆ แล้ว ขณะเดียวกันก็ยังมีประชาชนบางส่วนที่ยังอยู่ในระหว่างการเดินทางกลับ ทำให้เส้นทางสายหลัก เส้นทางสายรอง รวมไปถึงถนนในชุมชนหมู่บ้าน ยังคงมีปริมาณรถหนาแน่น
โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาหลังการเฉลิมฉลองปีใหม่ ประชาชนบางส่วนได้เดินทางกลับทันทีทำให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะเกิดความเหนื่อยล้า พักผ่อนไม่เพียงพอ มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มสูงขึ้น จึงได้ประสานทุกจังหวัดให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างเข้มข้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน โดยให้เข้มข้นการตั้งด่านตรวจจุดตรวจ จุดสกัด บนถนนสายหลักเป็นระยะ ๆ ตลอดเส้นทาง เพื่อกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับรถเร็ว การดื่มแล้วขับ การไม่สวมหมวกนิรภัย และการไม่คาดเข้มขัดนิรภัย หากพบผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุจากพฤติกรรมเสี่ยงดังกล่าว
นอกจากนี้ ให้ขนส่งจังหวัดดูแลความปลอดภัยรถโดยสารสาธารณะ และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่ใช้รถโดยสารสาธารณะในการเดินทาง ขอให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมรถบริการรับ – ส่งผู้โดยสารจากสถานีขนส่งต่าง ๆ ให้เพียงพอต่อการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยว และตรวจสอบความพร้อมของพนักงานขับรถและรถขนส่งสินค้า โดยจะต้องเปลี่ยนคนขับให้ปฏิบัติงานติดต่อกันไม่เกิน 4 ชั่วโมง หยุดพักขับรถไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมงก่อนขับรถต่อได้อีกไม่เกิน 4 ชั่วโมง หรือมีพนักงานขับรถอย่างน้อย 2 คน เพื่อผลัดกันทำหน้าที่ และให้มีการตรวจสอบสภาพรถให้อยู่ในสภาพปลอดภัยก่อนเดินทาง
“ศปถ. ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับรถเร็วซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุสูงสุดต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 6 โดยเน้นย้ำให้ใช้กลไกพื้นที่ โดยเฉพาะการตั้งด่านชุมชนหรือด่านครอบครัว เพื่อป้องปรามผู้มีพฤติกรรมเสี่ยง ทั้งนี้ ขอฝากให้ประชาชนขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด สวมใส่อุปกรณ์นิรภัยทั้งหมวกนิรภัยและเข็มขัดนิรภัย และมีน้ำใจกับผู้ร่วมใช้เส้นทาง ตรวจสอบความพร้อมของยานพาหนะ เส้นทางการเดินทาง รวมถึงสภาพอากาศก่อนออกเดินทาง หากขับรถเป็นเวลานาน มีความรู้สึกง่วงหรืออ่อนเพลีย ให้จอดพัก ณ จุดบริการประชาชน หรือจุดพักรถที่ทางราชการจัดสรรไว้ให้ตลอดเส้นทางการเดินทาง สำหรับประชาชนที่พบเห็นหรือประสบอุบัติเหตุ สามารถแจ้งเหตุได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 หรือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อนผ่าน Line@1784DDPM เพื่อประสานการให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป”
ภาสกร บุญญลักษม์
สำหรับข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ประจำวันที่ 1 มกราคม 2568 ซึ่งเป็นวันที่ 6 ของการรณรงค์ “ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2568 โดย ปภ. และความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 1 มกราคม 2568 เกิดอุบัติเหตุ 339 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 346 คน เสียชีวิต 50 คน
- สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 38.94, ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 31.56, ทัศนวิสัยไม่ดี ร้อยละ 16.81
- ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 86.42
- ส่วนใหญ่ เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 81.12, ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 40.71, ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 30.09
- ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 00.01 – 01.00 น., เวลา 01.01-02.00 น. และ เวลา 18.01-19.00 น.
- ผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 20 – 29 ปี ร้อยละ 24.49
- จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี 24 ครั้ง นอกจากนี้ สุราษฎร์ธานี ยังมีผู้บาดเจ็บสูงสุด 36 คน และมีผู้เสียชีวิตสูงสุด 7 คน
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 6 วันของการรณรงค์ (27 ธันวาคม 2567 – 1 มกราคม 2568) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,739 ครั้ง, บาดเจ็บรวม 1,694 คน, มีผู้เสียชีวิต รวม 272 คน โดยจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 8 จังหวัด
จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (63 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (73 คน) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี (จังหวัดละ 12 คน )