แนะทางออก รัฐออกบัตรทำงาน หนุนผู้ลี้ภัยได้ทำงานเลี้ยงตัวเอง หลังงบฯ ช่วยเหลือสิทธิมนุษยชนจากสหรัฐฯ ถูกตัดเกลี้ยง IRC – TBC ยุติบทบาท ใน 9 ศูนย์พักพิงชายแดน ขณะที่ รพ.รัฐ ชายแดน หวั่นรับภาระหนัก จากวิกฤตสุขภาพ
จากกรณีที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกา ยุติการสนับสนุนงบประมาณด้านสิทธิมนุษยชน ส่งผลให้ 2 องค์กรหลัก คือ The Border Consortium (TBC) และ International Rescue Committee (IRC) ต้องยุติการให้ความช่วยเหลือในศูนย์พักพิงชั่วคราว 9 แห่งใน จ.ตาก บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ภายในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ลี้ภัยกว่า 100,000 คน ทั้งในด้านอาหาร ที่อยู่อาศัย และระบบสาธารณสุข โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก
วันนี้ (16 ก.ค. 68) นพ.ธวัชชัย ยิ่งทวีศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลท่าสองยาง จ.ตาก ซึ่งมีศูนย์พักพิงชัวคราวบ้านแม่หละฯ อยู่ในพื้นที่ เปิดเผยกับ The Active ว่า สถานการณ์เริ่มส่อเค้าวิกฤตตั้งแต่ช่วงต้นปี 2568 โดย IRC ได้ระงับการสนับสนุนด้านสาธารณสุขเป็นเวลา 3 เดือน ระหว่างกุมภาพันธ์-เมษายน ก่อนจะประกาศยุติบทบาททั้งหมดในเดือนกรกฎาคม ส่งผลให้โรงพยาบาลต้องเข้าไปดูแลแทนในหลายภารกิจ โดยเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉิน แต่ไม่รวมถึงบริการวางแผนครอบครัวซึ่งถูกตัดไปตั้งแต่ต้น

แม้เจ้าหน้าที่ภายในศูนย์พักพิงจำนวนกว่า 400 คน จะยังคงปฏิบัติงานได้ในเดือนสิงหาคม ภายใต้เงินเดือนจาก IRC ที่จ่ายต่ออีกระยะหนึ่ง แต่หลังจากนั้นยังไม่มีความชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้สนับสนุนต่อ โรงพยาบาลจึงเตรียมปรับแผนเพื่อรับมือกับภาระที่อาจเพิ่มขึ้น ทั้งในด้านการดูแลผู้ป่วย การส่งต่อ และระบบสุขภาพชุมชนที่เกี่ยวข้อง
“เรามีกรณีเด็กแรกเกิดที่น้ำหนักตัวกว่า 5 กิโลกรัม ซึ่งเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนหากคลอดเองไม่ได้ ต้องผ่าตัดโดยทีมแพทย์ในโรงพยาบาล กรณีแบบนี้สะท้อนว่าระบบส่งต่อจากศูนย์ยังจำเป็นอย่างมาก”
นพ.ธวัชชัย ยิ่งทวีศักดิ์
นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่า การตัดงบฯ สนับสนุนอาหารที่เริ่มมีผลตั้งแต่กรกฎาคม จะเร่งให้ผู้ลี้ภัยออกไปหางานทำภายนอกศูนย์มากขึ้น โดยข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ขณะนี้มีผู้ลี้ภัยในศูนย์ฯ ราว 28,000 คน โดยกว่า 20,000 คนอยู่ในวัยแรงงาน ซึ่งหากไม่มีแผนจัดการที่ชัดเจน อาจทำให้เด็กต้องออกจากโรงเรียนเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว และเกิดปัญหาสังคมตามมา

เสนอออกบัตรอนุญาต ‘ผู้ลี้ภัย’ ทำงานในพื้นที่
นพ.ธวัชชัย จึงเสนอว่า รัฐบาลไทยควรกำหนดทิศทางที่ชัดเจนว่าจะบริหารจัดการศูนย์พักพิงเหล่านี้อย่างไรในระยะยาว หากจะคงไว้ก็ควรมีแผนสนับสนุนด้านสุขภาพ การศึกษา และสวัสดิการพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง แต่หากจะยุติบทบาทศูนย์ฯ ก็ต้องวางแผนการส่งตัวกลับประเทศ หรือจัดสถานะทางกฎหมายให้สามารถทำงานและดำรงชีวิตได้ในไทยอย่างไม่เป็นภาระสังคม
สำหรับข้อเสนอเฉพาะหน้า ที่ ผอ.รพ.ท่าสองยาง ระบุคือ การออกบัตรอนุญาตให้ทำงานเฉพาะพื้นที่ เช่น ใน 5 อำเภอชายแดน เพื่อให้ผู้ลี้ภัยสามารถหารายได้เลี้ยงชีพ และดูแลตนเองได้โดยไม่พึ่งพาความช่วยเหลือจากรัฐมากเกินไป พร้อมหวังว่าหน่วยงานด้านความมั่นคง และมหาดไทย จะพิจารณาแนวทางร่วมกันในระยะเร่งด่วน
“ถ้าเขาได้ทำงาน เขาก็จะมีรายได้ ซื้อประกันสุขภาพ ส่งลูกเรียนหนังสือได้เอง ไม่เป็นภาระกับระบบรัฐทั้งหมด”
นพ.ธวัชชัย ยิ่งทวีศักดิ์