เปิดแคมเปญ “ก้าวไกล NEXT” วางยุทธศาสตร์ 7 มิติ หวัง กวาด ส.ส. มากที่สุด ทุกภาค ‘พิธา’ ย้ำจุดยืนรักษาความหวังประชาชน เปลี่ยนแปลงประเทศ
วันนี้ (7 ส.ค. 65) ที่อาคารอนาคตใหม่ หัวหมาก พรรคก้าวไกล แถลงเปิดแคมเปญ “ก้าวไกล NEXT” เตรียมพร้อมการเลือกตั้งครั้งใหญ่ นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล, ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล และ พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมนำเสนอทิศทางการปฏิรูปพรรคก้าวไกล
7 มิติ ปฏิรูปพรรค สู่อนาคตที่ก้าวไกลกว่าเดิม
พิธา กล่าวว่า แคมเปญ “ก้าวไกล NEXT” เกิดขึ้นเพื่อเป็นโอกาสปฏิรูปพรรคให้ดีมากขึ้น และเปิดพื้นที่ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เป็นภารกิจของการตามหาอนาคต เพราะมองว่าตลอดระยะเวลา 2 ปีกว่าที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลอาจจะยังทำงานได้ไม่เพียงพอ ต่อวิกฤตที่ประเทศเผชิญ ทั้ง สถานการณ์โควิด-19 ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และปัญหาค่าครองชีพ สินค้าราคาแพงที่ประชาชนเผชิญ จึงคิดว่าในอนาคตเราต้องทำงานให้หนักมากกว่านี้
“ไม่ใช่แค่การมองหาอนาคตอย่างเดียว แต่มันคือเรื่องในอดีตด้วย ความตั้งใจสำคัญ ที่เคยมีมาตั้งแต่ครั้งพรรคอนาคตใหม่ จะยังมีต่อไป คือ การยุติรัฐราชการรวมศูนย์ การทลายทุนผูกขาด และการปฏิรูปกองทัพ และสุดท้าย คือการทำพรรคการเมือง ให้เป็นพรรคของมวลชนอย่างแท้จริง ผ่านฐานรากที่เข้มแข็งที่เราทำมาตลอด”
สำหรับการปฏิรูปพรรคก้าวไกล พิธา บอกว่า พรรคได้ตั้งประเด็นไว้ 7 มิติ คือ 1.ผู้แทนฯ ที่อยากเห็น กระบวนการคัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ และการอบรมพัฒนา 2.สื่อของพรรค ช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ ออนแอร์ และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ 3.การนำเสนอนโยบาย การสื่อสาร กลุ่มเป้าหมาย และการจัดทำนโยบายที่หลากหลาย 4.งานสภา การร่างกฎหมาย การอภิปราย กรรมาธิการและการทำงานร่วมกับพรรคการเมืองฝ่ายค้าน
5.การทำงานเชิงพื้นที่ การเข้าถึงประชนฐานราก และการแก้ปัญหาในพื้นที่ การทำงานกับหน่วยงานราชการและชุมชน 6.งานสมาชิกและอาสาสมัคร การสร้างและพัฒนาอาสาสมัคร การมีส่วนร่วมของสมาชิกพรรค แคมเปญและวิธีการรับสมัคร และ 7.การระดมทุน ช่องทางการสนับสนุน และแคมเปญการระดมทุน
โดยทั้งหมดนี้จะเปิดกว้างให้ประชาชนได้เข้าร่วมใน 2 รูปแบบ คือ 1.การจัดทำกิจกรรมรับฟังความคิดเห็นในลักษณะของทาวน์ ฮอลล์ โดยผมและแกนนำพรรคก้าวไกลจะเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อพบปะประชาชน และ 2. ร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์ https://next.moveforwardparty.org โดยกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ มีวงคุยแรกนี้กับสื่อมวลชน จากนั้นจะตระเวนไปทุกภูมิภาค ก่อนที่จะมีเวทีใหญ่วันที่ 28 ส.ค.นี้
“ทั้งหมดที่เราระดมความเห็นนี้ ก็จะนำมาสู่การเปิดแคมเปญใหญ่ในวันที่ 9 เดือน 9 ซึ่งจะเป็นก้าวต่อไปของเราที่จะก้าวไกลกว่าเดิม จริงอยู่ว่าเราต้องการ ส.ส.เข้าสภาให้มากที่สุด แต่เราก็ต้องทำงานทางความคิดด้วย ทำให้คนชื่อว่าสังคมที่ก้าวหน้าเป็นไปได้ ยังมีความหวัง ในช่วงเวลาที่ประชาชนหมดหวังมากที่สุดตลอดหลายสิบปีมานี้”
ตั้งเป้าเป็นรัฐบาล กวาด ส.ส. ให้มากที่สุด ผ่านยุทธศาสตร์ใหม่
ชัยธวัช ตุลาธน กล่าวว่า ยุทธศาสตร์การเลือกตั้งครั้งหน้าของพรรคก้าวไกล มี 3 เป้าหมาย คือ 1.เพื่อเป็นรัฐบาลให้ได้ เพราะยอมรับว่าประเทศไทยภายใต้ระบอบประยุทธ์ 8 ปี ที่ผ่านมาตกต่ำทุกด้านทางรอดทางเดียวก่อนที่จะเกินเยียวยา คือ ฝ่ายประชาธิปไตยเข้าไปพลิกขั้วระบอบประยุทธ์ นี่คือทางออกเดียว ต้องผลักดันให้เกิดฉันทามติฝ่ายประชาธิปไตยในการเลือกตั้งครั้งหน้าให้ได้ 2.เพื่อขยายจำนวน ส.ส.เขตให้มากที่สุด และมี ส.ส.เขตอยู่ในทุกภูมิภาค เพราะเราต้องการเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และ ส.ส.เขตจะเป็นฐานที่มั่นในการทำงานกับประชาชนที่แข็งแกร่งที่สุดของพรรค และ 3.เพื่อต่อยอดและรักษาความหวัง ความเชื่อมั่น ว่าประชาชนสามารถร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ให้ก้าวหน้าได้ผ่านระบบรัฐสภา
“ชัยชนะหรือความล้มเหลวของพรรคก้าวไกลต่อการเลือกตั้งครั้งหน้า เป็นเดิมพันต่อความหวังและความเชื่อมั่นนี้ ทุกคะแนนเสียงที่เราได้รับจะเป็นทุกคะแนนเสียงที่เป็นคำตอบว่าประชาชนยังมีความหวัง และความเชื่อมั่นว่าการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวหน้าขึ้นสามารถเกิดขึ้นได้ผ่านระบบรัฐสภาและพรรคการเมืองของประชาชน”
เลขาธิการพรรคก้าวไกล ยอมรับว่า เพื่อเดินหน้าไปสู่เป้าหมายดังกล่าว มีสิ่งที่ต้องทำอยู่ 3 เรื่อง คือ 1.การเตรียมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ที่จะเป็นตัวแทนประชาชนให้ดีที่สุด พร้อม ๆ กับการสร้างรากฐานของพรรคให้เข้มแข็งหลังจากถูกทำลายสมัยที่เราเป็นพรรคอนาคตใหม่ เริ่มฟื้นฟูคณะกรรมการระดับจังหวัด กรรมการระดับเขต พร้อมกับการสรรหาว่าที่ผู้สมัครส.ส.กว่า 400 เขตและทดลองทำงานร่วมกันแล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้มั่นใจว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคจะดีขึ้นกว่าอนาคตใหม่อย่างมาก โดยเป็นหน้าใหม่เกือบทั้งหมด ทุกคนเข้าใจจุดยืนและวิถีการทำงานของพรรคก้าวไกลเป็นอย่างดี
2.การทำนโยบาย ซึ่งที่ผ่านมาเรามีการตั้งศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต หรือ Think Forward Center ซึ่งมี เดชรัตน์ สุขกำเนิด เป็นผู้อำนวยการ ทำงานประสานกับฝ่ายนโยบายของพรรคและคณะทำงานจังหวัดทั่วประเทศ เราจะมีนโยบายที่ตอบโจทย์ประเทศไทยทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ตอบโจทย์ทั้งระดับประเทศและระดับพื้นที่ และจะเป็นนโยบายที่ประสานนโยบายการเมือง หรือนโยบายที่จะเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ควบคู่ไปกับนโยบายที่เปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ก้าวหน้าและเป็นธรรมอย่างเป็นเอกภาพ
3.การปฏิรูปพรรคครั้งใหญ่ เพื่อที่จะนำไปสู่การเก็บบทเรียนความผิดพลาดและจุดแข็งหรือความสำเร็จในอดีต เพื่อให้พรรคก้าวไกลตอบสนองความต้องการประชาชนได้มากกว่า 3-4 ปีที่ผ่านมา นำไปสู่การรีเฟรซ ภาพลักษณ์ การจดจำ ต่อพี่น้องประชาชน ทำให้ตัวตนที่แข็งแรงอยู่แล้วชัดเจนมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็มีความสดใหม่เข้ากับสถานการณ์และอารมณ์พี่น้องในปัจจุบันมากขึ้น
“วันนี้ เราแตกต่างอย่างมากกับพรรคอนาคตใหม่ เพราะตอนนั้นเรามีกระแสสดใหม่ แต่คราวนี้เราไม่ใช่พรรคการเมืองใหม่ในสนามการเมืองไทยอีกแล้ว แต่เราเป็นพรรคการเมืองที่ได้พิสูจน์การทำงานให้ประชาชนได้เห็นแล้วว่า พรรคทำงานอย่างเป็นระบบ เป็นทีม มีประสิทธิภาพ ใช้ความรู้ ความเข้าใจ และกล้าหาญในการทำงาน”
ยันไม่ใช่เก่งแต่พูด ขอโอกาสบริหารประเทศ
หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยังตอบคำถามสื่อมวลชน กรณีถูกมองว่าเก่งแต่พูด แต่ไม่สามารถบริหารได้จริงนั้น ยืนยันว่า ที่ผ่านมา ส.ส.ของพรรคก้าวไกลทุกคน ทำหน้าที่โดยไม่ได้คิดว่าเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล แต่หากอยากรู้ว่าสามารถบริหารได้หรือไม่ ต้องพิสูจน์ผ่านการทำงาน เท่าที่สภาฯ จะอนุญาตให้ทำได้ และตลอด 2 ปีที่ผ่านมา พิสูจน์ว่าข้อเสนอแนะ และการทำหน้าที่ในสภาฯ นำไปสู่การแก้ปัญหาได้จริง
“อันนี้ต้องพิสูจน์ให้ดูผ่านการทำงาน แต่การสื่อสารถึงข้อเสนอเชิงนโยบาย กว่าจะสกัดออกมาได้ ว่าปัญหาคืออะไรการแก้ไขคืออะไร อย่างเป็นลำดับขั้นตอน ไม่ได้มาได้จากการไม่รู้ แต่ผ่านการศึกษามาแล้ว กว่าจะออกมาอย่างถ้วนถี่การสื่อสารได้ว่าจะแก้อย่างไร จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน”
ขณะที่ พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ เสริมว่า แม้จะยังไม่มีโอกาสได้เข้าไปบริหารประเทศ ในฐานะรัฐบาล แต่การทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกล ทั้งในคณะกรรมาธิการ การอภิปรายในสภา ล้วนสร้างความเชื่อมั่นในกับประชาชน ที่ก่อนหน้านี้พรรคเคยโดนดูถูกว่าเป็น ส.ส. หน้าใหม่ จะทำหน้าที่ในสภาฯ ได้หรือ ซึ่งปัจจุบันประชาชนได้รับคำตอบแล้วว่า ส.ส.ของพรรค ทำหน้าที่นี้ได้ดีหรือไม่
จุดยืน สถาบันฯ จัดวางตำแหน่ง ลดความขัดแย้ง แก้รัฐธรรมนูญ และงบประมาณ
ส่วนประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ นั้น พรรคก้าวไกลได้ทำหน้าที่อภิปราย และพูดความจริงอันน่ากระอักกระอ่วนของสังคมไทยผ่านสภาฯ มาโดยตลอด พูดถึงอย่างกล้าหาญ อย่างมีวุฒิภาวะ และสุภาพ โดยมองไปที่การแก้รัฐธรรมนูญ และระบบงบประมาณให้สามารถตรวจสอบได้ พร้อมต้องการจัดวางสถาบันฯ ไว้ในพื้นที่ซึ่งจะลดความขัดแย้งให้คนในประเทศ และหันไปคิดในเรื่องอื่นซึ่งส่งผลดีกว่า ทั้งการศึกษา เศรษฐกิจ และเรื่องปากท้อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกิจกรรมในช่วงท้าย พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้แนะนำเว็บไซต์ https://next.moveforwardparty.org ขั้นตอนการร่วมแสดงความคิดเห็นในรูปแบบออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทาวน์ฮอลล์กับสื่อมวลชน เพื่อให้ข้อคิดเห็นในการปฏิรูปพรรคก้าวไกลด้วย