ศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมากวินิจฉัยความเป็นนายกรัฐมนตรีของ ‘พล.อ. ประยุทธ์’ ยังไม่สิ้นสุดลง โดยเริ่มนับตั้งแต่ 6 เม.ย. 60 ก้าวไกล ออกแถลงการณ์ “คำวินิจฉัยศาล รธน. ทำให้ประชาชนไทยสิ้นหวัง”
วันนี้ (30 ก.ย. 2565) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย ตามที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสอง ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่ หรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก (6 ต่อ 3) วินิจฉัยว่า ผู้ถูกร้องดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามความในมาตรา 264 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 นับแต่วันที่ 6 เมษายน 2560 ถึงวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ผู้ถูกร้องดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรียังไม่ครบกำหนดเวลา ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 158 วรรคสี่ ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีผู้ถูกร้องไม่สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 170
วรรคสอง ประกอบมาตรา 258 วรรคสี่
ประยุทธ์ ขอบคุณกำลังใจจากประชาชน ย้ำ เดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจ-โครงสร้างพื้นฐาน พลิกโฉมประเทศไทย
หลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยเสร็จสิ้น พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เผยแพร่ข้อความบนเฟซบุ๊ก ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-chaเมื่อเวลา15.44 น. ระบุว่า ขอแสดงความเคารพอย่างสูง ต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและขอขอบคุณพี่น้องประชาชนสำหรับกำลังใจและความปรารถนาดีที่มอบให้มาโดยตลอดตลอด ระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ถือเป็นโอกาสให้ได้พิจารณาและตระหนักมากขึ้นว่าจะต้องใช้เวลาอันมีค่าที่มีอยู่อย่างจำกัดของรัฐบาล ในการติดตามและผลักดันโครงการสำคัญต่าง ๆ มากมายที่ได้ริเริ่มเอาไว้ ให้เดินหน้าและเสร็จสมบูรณ์ สร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับบ้านเมือง และสร้างอนาคตให้กับลูกหลาน
พร้อมระบุอีกว่า จะมุ่งมั่นในภารกิจการพลิกโฉมประเทศ ตามกลยุทธ์ 3 แกน ที่เคยกล่าวไว้ให้สำเร็จเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด สำหรับเรื่องการเมืองและประเด็นต่าง ๆ รายวันได้มอบให้เป็นหน้าที่ของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ชี้แจงทำความเข้าใจต่อไป
โพสต์ดังกล่าว พล.อ. ประยุทธ์ ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ 3 แกน คือ การขับเคลื่อนเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศให้เสร็จสมบูรณ์ ทั้งถนน ทางรถไฟ สนามบิน ท่าเรือ ฯลฯ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ที่จะช่วยสร้างโอกาสให้กับประชาชนทั่วประเทศในด้านต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น พร้อมย้ำว่า เมื่อโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เสร็จสมบูรณ์ จะสามารถพลิกโฉมประเทศไทย และนำพาประเทศให้ก้าวไปสู่ยุคทองแห่งความเจริญรุ่งเรืองของคนไทยทุกคน
“…เราเดินหน้ามาไกลและถูกทิศทางแล้วครับ เราต้องช่วยกันทำให้เสร็จครับ”
ก้าวไกล ออกแถลงการณ์ “คำวินิจฉัยศาล รธน. ทำให้ประชาชนไทยสิ้นหวัง”
ขณะที่พรรคก้าวไกล ออกแถลงการณ์ต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคดี “8 ปี ประยุทธ์” คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ เป็นอีกครั้งที่ทำให้ประชาชนไทยรู้สึกสิ้นหวัง สาระสำคัญ ระบุว่า แม้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะขาดความชอบธรรมทางการเมืองและความสามารถในการบริหารประเทศท่ามกลางวิกฤตที่รุมเร้า แต่ยังสามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปได้ พร้อมตั้งคำถามว่า คำวินิจฉัยในวันนี้ยิ่งตอกย้ำให้ประชาชนเคลือบแคลงใจ ว่าสถาบันตุลาการของบ้านเมืองที่ควรทำหน้าที่ตรวจสอบควบคุมความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ กลับกำลังปกป้องคุ้มครองการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร มากกว่าปกป้องคุ้มครองหลักการและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่
โดยเชิญชวนประชาชนเปลี่ยนความผิดหวังเป็นพลัง เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง พร้อมกับการผลักดันการทำประชามติในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
“พรรคก้าวไกลจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนอีกครั้ง มาร่วมกันเข้าชื่อเพื่อให้มีการจัดทำประชามติเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในวันเดียวกับวันเลือกตั้ง เพื่อทำให้วันเลือกตั้งไม่เป็นเพียงโอกาสในการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีหรือเปลี่ยนขั้วรัฐบาล แต่เป็นโอกาสในการเปลี่ยนโครงสร้างและกติกาของประเทศ ให้อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน”