รอง ผบ.ตร. ชี้ตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ปัญหาข้อพิพาทเกาะหลีเป๊ะ พบใครเกี่ยวข้องเตรียมดำเนินคดีอาญา ที่ผ่านมาไม่โทษใครทุกฝ่ายทำหน้าที่ แต่ไม่มีใครกล้าบังคับใช้กฎหมาย
วันนี้ (24 ม.ค. ) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ มีการประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาพิพาทเกาะหลีเป๊ะ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในฐานะประธานคณะกรรมการฯแก้ปัญหากล่าวว่า ข้อมูลจากดีเอสไอร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติทำข้อมูลครบแล้ว จากนี้เป็นหน้าที่ของกรมที่ดินรับไปดำเนินการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ต่อสำหรับกรณีที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาตัดสินว่ามีการรุกที่อุทยานแห่งชาติแล้วทั้งหมด 5 พื้นที่ โดยการสั่งดำเนินคดีครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการลงพื้นที่เพียงครั้งเดียวแต่เป็นการทำงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่องแล้ว มีการดูแผนที่และตรวจสอบจากพื้นที่จริง โดยในส่วน 60 ไร่เจ้าของไม่ออก นส.3 แล้ว กรมที่ดินเห็นพ้องต้องกันว่าเกิน รุกล้ำ ส่วนกรณี 80 ไร่ ก็จะมีเจ้าภาพคือ กรมที่ดิน กรมธนารักษ์ อุทยานฯ ดีเอสไอ ร่วมสืบสวน
“วันนั้นเราดูแล้วมีการกระทำความผิด 5 จุด จะต้องแจ้งความดำเนินคดีอาญา เรื่องบุกรุกพื้นที่รัฐ เมื่อเป็นคดีแล้ว ก็ต้องออกหมายเรียกเจ้าของที่ดังกล่าวมาแจ้งข้อกล่าวหารุกล้ำก็เป็นเป็นคดีอาญา ส่วนการเพิกถอนเป็นเรื่องของกรมที่ดิน ส่วน 80 ไร่ก็พบว่ามีการเกินจากที่ดินจริง เราจะส่งข้อมูลให้อธิบดีกรมที่ดิน คุยกันแล้ว วันนี้จะประชุมรายละเอียดการดำเนินการที่ผ่านมา ไม่ได้จบแค่ลงไปครั้งเดียว อาทิตย์หน้าเดี๋ยวลงอีก แต่การลงไม่ได้ลงแบบกองทัพ เก็บรายละเอียดย่อย ๆ ให้เกิดมักผล ไม่ใช่รูปแบบการประชุม”
ปัญหาหลีเป๊ะเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมานาน มีการตั้งคณะกรรมการหลายชุดในการแก้ปัญหาแม้ว่าที่ผ่านมาจะมีข้อมูลพบการออกเอกสารสิทธิมิชอบหลายจุด แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้จนถึงปัจจุบัน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล พูดถึงประเด็นนี้ว่า นี่เป็นปัญหาของเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่กล้าบังคับใช้กฎหมายเพราะกลัวถูกฟ้อง
“ผมก็เรียนแล้วว่าการที่ให้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐหัวหน้าส่วนราชการ เพื่อให้มารับผิดรับชอบตัดสิน ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะเพิกเฉย การแก้ไขปัญหาให้ประชาชน อยู่ที่องค์กรเหล่านี้ทั้งนั้นเพราะจำเป็นต้องใช้อำนาจหน้าที่ในการพิจารณา ตัดสิน ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐไม่ตัดสิน ประชาชน ไม่ได้รับการแก้ไขปัญหา เรื่องก็ไปหมักหมมที่รัฐบาลแต่ถ้าส่วนไหนไม่ทำ มีมติแล้วไม่ทำก็ต้องมีความบกพร่อง การเป็นเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ 157 “
ขณะที่กรรมการฯ ชุดนี้ เป็นคำสั่งแต่งตั้งของนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากรัฐบาลหมดวาระจะมีผลต่อการทำงานต่อเนื่องของคณะกรรมการชุดนี้หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เห็นว่าคำสั่งนี้จะยังมีผลและเชื่อว่ารัฐบาลทุกรัฐบาลจะให้ความสำคัญกับปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน สิ่งที่จะเห็นเป็นรูปธรรมภายใต้การนำของ “บิ๊กโจ๊ก” ภายในสัปดาห์หน้าจะมีการลงพื้นที่เกาะหลีเป๊ะอีกครั้ง เดินหน้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่พิสูจน์ยืนยันแล้วว่ามีการรุกที่อุทยานฯ จริง
“ศาลฎีกาพิพากษาแล้ว จบแล้ว มี 15 พื้นที่ ทำตามคำสั่งศาลเลย อันนี้ไม่ยาก เพียงแต่ว่าอดีตเราต่างหน่วยต่างทำ ไม่กล้าทำ ไม่มีการปฏิบัติ เราเรียกมาคุยกันหมดแล้ว กรมบังคับคดีมีหน้าที่ในการรื้อถอน ตำรวจนำ อุทยานฯ ชี้ ว่าพื้นที่ไหนเป็นของอุทยานฯ ศาลฎีกามีคำพิพากษาแล้ว สัปดาห์หน้ารื้อถอนตามคำสั่งศาลฎีกา”
ส่วนพื้นที่พิพาทระหว่างเอกชนกับโรงเรียนเกาะอาดัง ต.เกาะสาหร่าย ต้องมีการเดินสำรวจกันอีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีความพร้อมในการรังวัดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง