สมาชิกพรรคมาไม่ครบองค์ประชุม รอพิจารณาเลือกใหม่ ขณะที่ แกนนำพรรค-สส. ประสานเสียง ร่วมรัฐบาล ‘เพื่อไทย’ หรือไม่ ให้รอมติพรรค ย้ำยังไม่โดนจีบ ‘จุรินทร์’ ขออย่าเพิ่งเดาไปเอง พรรคต้องฟังเสียงสมาชิก ไม่มีใครสั่งได้ ไร้กลุ่ม สส.ก่อหวอดขอไปร่วมรัฐบาล
วันนี้ (6 ส.ค.66) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น พรรคประชาธิปัตย์ จัดการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2566 โดย ผู้สื่อข่าว Thai PBS รายงาน ว่า มีแกนนำพรรคเข้าร่วมประชุม อาทิ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรค, เฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค และ อดีตหัวหน้าพรรคทั้ง 3 คน คือ ชวน หลีกภัย, บัญญัติ บรรทัดฐาน และ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รวมทั้งแกนนำพรรค สส. อดีต สส. และสาขาพรรค ที่เป็นองค์ประชุม
โรคเลื่อน! องค์ประชุมไม่ครบ ปชป.ยังไร้ หน.พรรค-กก.บห.ชุดใหม่
แต่เมื่อถึงกำหนดเริ่มประชุม น.ต.สุธรรม ระหงษ์ ผอ.พรรคได้แจ้ง ว่า มีองค์ประชุม 210 คน ซึ่งถือว่าไม่ครบองค์ประชุม เพราะตามข้อบังคับพรรค จะต้องมีองค์ประชุม 250 คนขึ้นไป ซึ่งภายหลังรอเวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง ก็มีสมาชิกพรรค มาร่วมประชุมเพิ่มเป็น 223 คนเท่านั้น จึงถือว่าไม่ครบองค์ประชุม ทำให้รักษาการกรรมการบริหารพรรค จะพิจารณาวันเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่อีกครั้ง จากนั้นสมาชิกก็ได้แยกย้ายเดินทางกลับ ขณะที่บางส่วนยังคงจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงการประชุมล่มกันอย่างเคร่งเครียด
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนการประชุมล่ม แกนนำพรรคหลายคนได้ให้ความเห็นในประเด็นความชัดเจน และแนวโน้มความเป็นไปได้การร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่
อย่าง ชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำถึงจุดยืนของพรรคต่อการร่วมรัฐบาล ว่า ต้องขึ้นอยู่กับมติของพรรค ที่ต้องเป็นไปตามข้อบังคับพรรค ส่วนใครที่ไปพบ พูดคุย ก็ถือเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ใช่เรื่องของพรรค ทั้งนี้ตนได้สอบถามคนที่เป็นข่าวว่าเดินทางไปฮ่องกงแล้ว ซึ่งคำตอบก็ตามที่เคยได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว
‘บัญญัติ’ ขอเร่งกอบกู้พรรคก่อน คิดร่วมรัฐบาล ‘เพื่อไทย’
บัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ระบุมีสาขาพรรคหลายภาคเริ่มพูดกันว่าไม่น่าจะไปร่วมรัฐบาล เวลานี้ควรมานั่งวิเคราะห์ ว่า จะเร่งฟื้นฟู กอบกู้พรรค และ ทำงานหนักในสภาฯ อย่างจริงจัง ซึ่งถ้าได้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จะได้นำข้อเสนอไปพิจารณา
“พรรคประชาธิปัตย์ มีความเป็นประชาธิปไตยภายในพรรค เมื่อสมาชิกพูดอะไร ผู้บริหารก็จะรับฟัง เมื่อนำมาวิเคราะห์และมีเหตุผล ก็น่าที่จะคล้อยตาม ความคิดที่ไม่อยากให้พรรคไปร่วมรัฐบาล เป็นความคิดของสมาชิก จากหลายภาคซึ่งที่สุดหากที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคมีมติให้เข้าร่วมรัฐบาล ก็คงเป็นเรื่องของมติพรรค แต่ในอดีตที่ผ่านมาต้องยอมรับความจริง ว่า คณะกรรมการบริหารพรรคมักจะฟังเสียงสมาชิกเป็นสิ่งสำคัญ”
บัญญัติ บรรทัดฐาน
เมื่อถามว่าถ้าเป็นมติพรรคแม้ไม่เห็นด้วย ก็ พร้อม ปฏิบัติ ใช่หรือไม่ บัญญัติ บอกว่า แน่นอน มติพรรคก็คือมติพรรค แต่ต้องฟังความเห็นอย่างรอบด้าน
ส่วนหากร่วมรัฐบาลแล้ว การเลือกตั้งครั้งหน้าจะทำให้เหลือที่นั่ง สส.กี่ที่นั่งนั้น บัญญัติ ยอมรับ เรื่องนี้พูดเหมือนสมาชิกพรรค เช่นเดียวกับที่ พรรคประชาธิปัตย์ จะไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยนั้น ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ ต่อต้านระบอบทักษิณ ค่อนข้างจริงจังรุนแรง และวันนี้ระบอบดังกล่าวยังอยู่หรือไม่ ควรจะต้องพิจารณา ซึ่งเป็นเรื่องที่กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ต้องพิจารณาด้วย
ทางด้าน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ขอแสดงความเห็นประเด็นการเมืองเรื่องการตั้งรัฐบาล
‘จุรินทร์’ เตือนลูกพรรคนิ่ง อย่าผลีผลาม
ขณะที่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เชื่อว่า สถานการณ์การเมืองยังไม่นิ่งและยังไม่มีอะไรชัดเจน ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องนิ่งเป็นเหมือนกัน และต้องไม่ผลีผลามพิจารณาตัดสินใจอะไร ทั้งหมดต้องยึดอุดมการณ์ของพรรค และประโยชน์สูงสุดของบ้านเมืองเป็นหลักนี่คือสิ่งที่ควรจะเป็น
ส่วนกระแสข่าวว่า สส.ฝั่ง เฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค จะโหวตให้ แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยนั้น จุรินทร์ บอกว่า อย่าพึ่งไปคาดการณ์ เพราะทุกอย่างจะยุติในที่ประชุมร่วมระหว่างกรรมการบริหารพรรค และ สส.พรรคอยู่แล้ว
“เมื่อถึงเวลามติพรรค ก็จะเป็นที่ยุติ แต่การบริหารงานในพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นไปตามวิถีประชาธิปไตยเพราะไม่มีเจ้าของ ไม่มีใครมาสั่งได้ มันไม่ง่ายเหมือนบางพรรค ที่ใครคนใดคนหนึ่งคนเดียวสั่งได้ แล้วจบ แต่ประชาธิปปัตย์ เป็นพรรคในวิถีประชาธิปไตย ฉะนั้นต้องอาศัยมติพรรค หรือข้อยุติในที่ประชุม อันนี้อย่ามองว่าเป็นข้อด้อย เพราะเป็นจุดแข็งของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เช่นนั้นเราอยู่ไม่ได้มาถึงทุกวันนี้”
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์
‘ชัยชนะ’ โต้ไม่มีกลุ่ม สส.ก่อหวอดไปรวมรัฐบาล ‘เพื่อไทย’
ชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช ย้ำว่า ยังไม่เคยมีใครบอกเลยว่าจะร่วมรัฐบาล ก่อนจะยืนยันว่าการจะตัดสินใจร่วมรัฐบาลต้องเป็นไปตามข้อบังคับ ต้องประชุมร่วมกันของ สส. และกรรมการบริหารพรรค เพื่อมีมติ ส่วนที่เป็นข่าวออกมาตอนนี้ก็เป็นข่าว ส่วนตัวมองว่ายังไม่ถึงขั้นนั้น
สำหรับอุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์จะร่วมกับพรรคเพื่อไทยได้จริงหรือไม่ ชัยชนะ บอกว่า ต้องดูว่าสิ่งที่พรรคเพื่อไทยเสนอ ขัดต่ออุดมการณ์พรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ ถ้าไม่ขัดต่อจุดยืนพรรคที่ยึดมั่นในเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อต้านพรรคการเมืองที่แก้ไขมาตรา 112 ไม่มีพรรคก้าวไกล รวมถึงไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย และหาทางออกให้กับประเทศให้ได้ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมเป็นทั้งสองฝ่ายทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์จะขจัดกับคำว่าไม่เอาทักษิณได้อย่างไร ชัยชนะ ระบุ ยังมาไม่ถึง และถ้ามาไม่ถึงแล้วพูดไปก็คงไม่ได้ อีกทั้งพรรคเพื่อไทย ก็ยังไม่ได้เทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์มา จะบอกว่าไม่เอาคนโน้นคนนี้มันไม่ใช่ เพราะหลักการประชาธิปัตย์รู้อยู่แล้วว่าคืออะไร
ส่วนที่มีความพยายาม ก่อกลุ่มขึ้นมาของพรรคประชาธิปัตย์เพื่อที่จะไปร่วมรัฐบาล ชัยชนะ ยืนยันว่า ไม่มี ตนก็เป็น สส.ที่ยังยืนอยู่ตรงนี้ ข่าวก็คือข่าว และในข้อเท็จจริง ก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันในที่ประชุมพรรค เพราะวาระ โหวตนายกรัฐมนตรี ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาก่อนในวันที่ 16 สิงหาคม หลังจากนั้นพรรคประชาธิปัตย์ จึงจะได้มาประชุมร่วมกันว่าเป็นอย่างไร