จับกระแสประชาช็อค เพื่อไทยปิดดีลพรรค 2 ลุง?

‘รศ.โอฬาร’ ชี้ นักการเมืองรุ่นใหม่ ไม่สมควรเอาอย่าง “การเมืองแบบเก่า” สัญญาประชาชนที่ไม่สามารถอ้างได้ว่าเป็น “เทคนิค” แนะ “เพื่อไทย” ต้องชัดเจน ฟื้นความเชื่อมั่น ทำ MOU รัฐบาลใหม่ บอกกลไกการร่าง รธน. ไม่ให้ซ้ำรอย รธน. 60

ท่ามกลางกระแสข่าวปิดดีลจัดตั้งรัฐบาล นำโดย “พรรคเพื่อไทย” ที่มี “พรรค 2 ลุง” หรือ พรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ทำให้กระแส #ประชาช็อค #ตาสว่าง #เพื่อการโฆษณาเท่านั้น #รัฐบาลเพื่อไทย ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์พรรคเพื่อไทยที่กำลังทำหน้าที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะคำพูดที่ถูกตั้งคำถามจากคอการเมือง เช่น

สุทิน คลังแสง ระบุเรื่องการจับมือข้ามขั้วว่า “ไม่ได้ข้ามขั้ว เขามาหาเราเอง”

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว กล่าวถึงการหาเสียง “ไล่หนู ตีงูเห่า” ว่าเป็นเพียง “เทคนิตการหาเสียง เพื่อให้ได้คะแนนเสียงเท่านั้น แต่ไม่ได้เป็นศัตรูกับทุกพรรคการเมือง”

และ ภูมิธรรม เวชชยชัย ระบุถึงการจับมือครั้งนี้ที่ “ไม่ได้ข้ามขั้ว แต่สลายขั้ว

ขณะที่ล่าสุด มีกระแสข่าวจากการให้สัมภาษณ์ของ เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ในรายการใต้เตียงการเมือง ว่า การร่วมรัฐบาล 2 ลุง เป็นเรื่องของคณะเจรจา เพราะเพื่อไทยไม่ได้แลนด์สไลด์ จึงจำเป็นต้องนำพาประเทศฝ่าวิกฤตด้วยการมีอำนาจรัฐในมือและต้องอยู่กับความเป็นจริง คู่ขนานไปกับการเคลื่อนไหวผ่านเพจพรรคเพื่อไทย ที่พยายามโพสต์นโยบายที่เตรียมจะเดินหน้า ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญประชาชน ผ่าน สสร. และนโยบาย Digital wallet 10,000 บาท

วัดใจ “เพื่อไทย” มีโอกาสได้เป็นนายกฯ ?

รศ.โอฬาร ถิ่นบางเตียว คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา มองว่าแม้เพื่อไทย “เศรษฐา 1” จะมีโอกาสได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีค่อนข้างสูง เปิดโอกาสให้ ทักษิณ ชินวัตร ได้มีอำนาจต่อรองการเดินทางกลับประเทศไทยสูง แต่ปัญหาที่ตามมา คือ ความไม่พอใจของสังคม ที่ไม่พอใจกับขั้วอำนาจเก่าที่เคยทำลายกระบวนการประชาธิปไตย การเดินหน้าของเพื่อไทยจึงมีราคาที่ต้องจ่าย

โอฬาร วิเคราะห์ตัวบุคคลของแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยว่า แต่ละคนก็จะมีแรงเสียดทานกันคนละมุม อย่าง นายเศรษฐา ก็ดูมีความเป็นอิสระ มีวัยวุฒิ คุณวุฒิ แต่บุคลิกการทำงานก็อาจจะยังมีนักการเมืองบางส่วนที่ไม่ชอบในลีลาการทำงาน ไม่ค่อยเป็นมิตรกับนักการเมือง ไม่มีบารมีทางการเมือง และอาจกลายเป็นนอมินีในอนาคต จากกรณีนายทักษิณกลับไทย หากเหรียญออกที่ นายเศรษฐา ก็น่าจะต้องผ่านการต่อรองกันอย่างเข้มข้น

ขณะที่ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร แม้จะเด็กกว่า แต่ก็มีบารมีจากนายทักษิณ ซึ่งถือว่าเป็นทั้งจุดแข็ง จุดอ่อนในเวลาเดียวกัน เพราะอาจถูกจับเป็นตัวประกันทางการเมือง ลากสู่ชะตากรรมเดียวกันกับพ่อและอา อย่าง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ส่วนท่าทีของ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ตอนนี้ยังไม่ปรากฏอย่างเป็นทางการในรัฐบาล “เศรษฐา 1” โอฬารวิเคราะห์ว่า น่าจะเป็นท่าทีที่ลดแรงกดดันของสังคม แม้จะหลบอยู่ฉากหลัง และให้น้องชายขึ้นมาแทน ก็คือ พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ จะดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี โดยยังไม่ชัดเจนว่าจะควบตำแหน่งอะไรหรือไม่ โดยรายชื่อกระทรวงจะมีความชัดเจน หลังจากโหวตนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้นลงไปแล้ว แต่ก็ยังตัดออกจากโอกาสการเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ในเวลานี้

ส่วนสัดส่วนของรัฐมนตรีคำนวณมาเบื้องต้นคือ 9 พรรค ต่อ 1 รัฐมนตรี ยังไม่สามารถตอบได้ว่าพรรคเพื่อไทยอยู่ในสถานะได้เปรียบ หรือเสียเปรียบ เพราะยังไม่ลงตัว และไม่ได้จัดสรรกันด้วยโควตาเพียงอย่างเดียว ยังมีความต้องการจากนักการเมือง และกลุ่มทุนที่คุมพรรค โดยคนที่เคาะตำแหน่งตัวจริง ก็มักจะเป็น “เจ้าของพรรคตัวจริงที่ให้เงินให้ทุน”

ผิดหวัง “เพื่อไทย” กลืนน้ำลาย นักการเมืองใหม่ ไม่ควรเอาอย่าง แนะเร่งฟื้นความเชื่อมั่น

ส่วนกรณีที่ เพื่อไทยกลืนน้ำลายตัวเอง หลายครั้ง โอฬาร มองเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง โดยนักการเมืองรุ่นใหม่ไม่สมควรดูเป็นตัวอย่าง สิ่งที่ “เพื่อไทย” ทำ เป็น “การเมืองรุ่นเก่า” เพราะการสื่อสารทางการเมืองของนักการเมืองผ่านการสื่อสารสาธารณะ คือ สัญญากับประชาชน อ้างว้าเป็นเทคนิคการหาเสียงไม่ได้ แก้เกี้ยว ปฏิเสธคำพูดของตัวเอง ของสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางคน ต้องมีความรับผิดชอบทางการเมือง 

ที่ผ่านมา เพื่อไทย กลืนน้ำลายตัวเองมาตลอด ไม่ใช่เฉพาะในยุคปัจจุบันเท่านั้น แต่มวลชนเพื่อไทยก็มักจะปลอบใจตัวเอง แต่ปฏิกิริยาล่าสุดของประชาช็อค การเผาเสื้อแดง และอื่น ๆ อีกมากมาย สะท้อนว่า มวลชนบางกลุ่มมีความคิดที่ไปไกลกว่าความเป็น พรรคเพื่อไทย และพร้อมที่จะเปลี่ยนจุดยืนตรงข้ามกับรัฐบาลชุดนี้

เวลาที่เหลือ เพื่อไทย อาจจะต้องพิสูจน์ความจริงใจ เพราะต้นทุนของการข้ามขั้ว ย้ายข้างมีสูง แนะให้เริ่มสร้างวาระเชิงนโยบายชุดใหม่ และระบุแนวทางการทำงานที่ชัดเจน โดยเฉพาะการกำหนดกลไก กระบวนการร่างรัฐธรรมที่ประกาศให้ประชาชนรับรู้อย่างโปร่งใส่ โอฬาร จึงมีข้อเสนอให้ เพื่อไทย ฟื้นความเชื่อมั่นประชาชน โดยแบ่งเป็น 2 วาระ คือ

  • ทำ MOU ให้ชัดเจน เอาวาระสำคัญของแต่ละพรรคมาวางเป็นนโยบายชุดใหม่
  • ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยบอกกลไกและกระบวนการที่ชัดเจน ไม่ให้กลายเป็น ร่างรัฐธรรมนูญ 2560 เวอร์ชั่น 2 โดยกำหนดให้ประชาชน และฝ่ายค้านมีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญ และให้ฝ่ายรัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนโดยไม่เข้าไปแทรกแซง เพื่อแก้วิกฤตการเมืองระยะยาวอย่างแท้จริง

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active