เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน จี้ ขยายผลจากกรณี “กำนันนก” สืบหาใครคุมซุ้มบ้านใหญ่ ติง นโยบายรัฐบาลเศรษฐา พูดถึงคอร์รัปชั่นครึ่งบรรทัด ให้ความสำคัญน้อยเกินไป
ตลอดสัปดาห์นี้ เรื่อง 2 นายตำรวจเสียชีวิต สะเทือนวงการสีกากี ถูกตั้งคำถามไปถึงระบบตำรวจที่ผู้บังคับบัญชา ปล่อยให้ตำรวจชั้นผู้น้อยอยู่กับผู้มีอิทธิพล เรื่องนี้ลามไปถึงปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน เพราะตัวผู้ถูกกล่าวหาอย่างกำนันนก มีพิรุธเกี่ยวโยงกับการฮั้วประมูลของการของรัฐหลายรายการ ทำให้เราเห็นโครงข่ายของผู้มีอิทธิพล ที่ผูกโยงอยู่กับ ตำรวจ
ประเด็นนี้แม้ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะเน้นย้ำให้ความสำคัญกับทุกฝ่าย แต่การมอบหมายให้ ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ขึ้นทะเบียนผู้มีอิทธิพล หรือ การทำลิสต์รายชื่อผู้มีอิทธิพล ก็ยังเป็นคำถามอีกว่าจะทลายไปถึง กลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ได้จริง ๆ หรือไม่
The Active สัมภาษณ์ มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ระบุ ประเด็น ลิสต์ผู้มีอิทธิพล มีมานานแล้ว ข้าราชการ นักการเมือง ท้องถิ่น ได้ยินมานานแล้ว แต่ คดีนี้ไม่ควรจบแค่ระดับ “กำนัน” จะเป็นต้องขยายผลไปในระดับจังหวัดว่ามีนักการเมืองคนไหนที่คุมซุ้มบ้านใหญ่ระดับจังหวัดนครปฐม ถ้าขยายผลไปเล่นงานระดับจังหวัดได้จะเป็นความสุขของข้าราชการจำนวนมาก เรื่องส่วยสินบน ส่วยรถบรรทุกก็จะหมดไป แล้วนำโมเดลนี้ไปขยายผลต่อในจังหวัดอื่นๆ “อย่าไปเสียเวลาศึกษากันนานเป็นเดือน ๆ มัวแต่ทำลิสต์รายชื่อ จนทำให้เรื่องนี้เงียบ และช้าเกินไป”
มานะ ย้ำว่า การฮั้วประมูลเกิดขึ้นมานาน ไม่ได้มีแค่ใน จ.นครปฐม แต่มีทั่วประเทศ และเป็นมาช้านาน แม้ไทยจะมีหน่วยงานที่ดูแลเรื่องนี้อย่าง กรมบัญชีกลาง, สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.), คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.), ต่อให้มี พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้าง,กรมการฮั้วประมูล แต่ก็ยังมีกระบวนการอย่างเปิดเผยโจ๋งครึ่ม ทั้งรูปแบบของข้าราชการเป็นตัวกลาง และที่เอกชนจัดการกันเอง มีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง
กรณี กำนันนก ข้อมูลที่ปรากฎเป็นเรื่องที่น่ากลัวเพราะนอกจากประเด็นการฆ่าตำรวจ, การโยกย้ายตำแหน่ง ยังพบว่าตัวเลขวงเงินที่ 2 บริษัทของกำนันนก ได้รับเป็นหลักพันล้าน เทียบเท่ากับ “ผู้เหมาชั้นพิเศษของกรมบัญชีกลาง” ตรงนี้สิ่งที่มองเห็น คือ งานเยอะขนาดนี้-ไม่น่าจะทำได้ด้วยตัวเอง มีการขายงาน ขายช่วงงานให้กับบริษัทอื่นหรือไม่ ถ้ามีถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เป็นหน้าที่ของหน่วยงานรัฐต้องตรวจสอบ เพราะงานที่ได้ ประมูลงานได้ต่ำกว่า ราคากลางเพียง 0.001% ราคา 4 แสนกว่าถูกกว่า 500 บาท เข้าข่ายการฮั้วประมูลอย่างแน่นอน
การปราบปรามผู้มีอิทธิพล เป็นเรื่องที่เอกชน สมรู้ร่วมคิดกับ ข้าราช และมีรูปแบบที่ข้าราชการไม่รู้ตัว ขณะเดียวกันระบบภาครัฐก็ขาดความโปร่งใส หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่ดิ้นรนตรวจสอบ ปัญหาคอร์รัปชัน เป็นเรื่องใหญ่ที่เริ่มจากฮั้วประมูล การวิ่งเต้นเส้นสาย ส่วย และธุรกิจสีดำ การต่อต้านคอรัปชั่น จึงไม่ควรแบ่งฝ่ายค้าน รัฐบาล ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกลต่อต้านคอรับชั่นหลายประเด็น อยากให้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านได้เต็มที่ ขณะที่รัฐบาลเองก็ควรให้ความสำคัญ แต่ยิ่งน่าใจหาย เมื่อนโยบายคอร์รัปชัน ในรัฐบาลเศรษฐา สั้นนิดเดียว หากจะให้ประเมินคำแถลงถือว่าไม่ผ่าน ไม่รู้เพราะทำไม่เป็น ไม่ทำ หรือกลัวลิ้นพันคอ… อ.มานะกล่าว
DSI ลุยสอบ 1,544 โครงการ กำนันนก พบแล้ว! ส่อฮั้วประมูลชัดเจน 2 โครงการ
ขณะที่ ร.ต.อ. สุรวุฒิ รังไสย์ ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI แถลงเปิดเผยข้อมูลตรวจสอบทุจริต กรณี ประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก พบพิรุธ 2 บริษัทของกำนันนก คือ บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ก่อสร้าง จำกัด และ บริษัท ป.รวีกนกก่อสร้าง จำกัด เกี่ยวโยงกับโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ 1,544 โครงการ งบโดยประมาณ 7,500 ล้านบาท ที่ทำสัญญาจริง 6,900 ล้านบาท
กองฮั้วประมูล ภายใต้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI มีอำนาจ และหน้าที่สืบสวนคดีความผิดฮั้วประมูลที่มีมูลค่ามากกว่า 30 ล้านบาทขึ้นไป เบื้องต้น พบพิรุธเข้าข่ายชัดเจน ได้รับข้อมูลเข้าข่ายความผิดสมยอมราคากันได้ คือ โครงการสร้างทางหลวงหมายเลข 375-376 ตั้งงบ 300 ล้านบาท ราคากลาง 290 ล้านบาท แต่ประมูลกันในราคาต่ำอยู่ที่ 240 ล้านบาท หรือเรียกว่าการปั่นราคา ข้อพิรุธเหล่านี้ก็จะถูกนำไปดำเนินการ
ร.ต.อ. สุรวุฒิ อธิบายว่า วิธีการฮั้วประมูลสมัยโบราณ ปี 2542 เวลาซื้อซองจะมีทหารอุ้มคนซื้อซองดึงออกมา โดยผู้ทำคดีนี้ครั้งแรก คือ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รมว.กระทรวงยุติธรรม แต่การฮั้วในปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นระบบการประมูลอิเล็กทรอนิกส์ (E-bidding) ทุกคนที่ซื้อซองจะคีย์เข้าไปในระบบ และกำหนดวันที่จะไปเสนอราคากัน เพราะฉะนั้น ต้องมีเครือข่ายที่รับรู้ถึงการซื้อซอง เพราะโครงการที่พบพิรุธมีการยื่นทั้งหมด 32 รายที่ยื่น แต่พอถึงวันประมูลจริงมีแค่ 3 รายเท่านั้น
ปฎิบัติการฟ้าแลบค้น 21 จุด เครือข่าย ‘กำนันนก’ เช็กบิลกลุ่มอิทธิพล
ในทางคดีวันนี้มีปฏิบัติการสายฟ้าแลบเปิดยุทธการปูพรมลุยค้น 21 จุดนครปฐม ขยายผลสาวไส้ต้นตอเครือข่ายกำนันนก -ประวีณ จันทร์คล้าย เช็กบิลอิทธิพลเถื่อนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมาย โดยมีตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยตำรวจสืบสวนภูธรภาค 7 และ เจ้าหน้าที่สำนักงาน ปปท. ป.ป.ช. เข้าตรวจค้นบ้านในอำเภอเมืองนครปฐม และอำเภอกำแพงแสน พบบางบ้านเป็นนอมมินีให้กับกำนันนกเปิดบริษัทเพื่อยื่นฮั้วประมูลงาน และอีกหลังที่อยู่ใกล้กันก็ยังตรวจพบ ปืนมีทะเบียน 3 กระบอก และรถยนต์หรู 1 คัน แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานยืนยันบ้านเป้าหมายการตรวจค้นครั้งนี้เกี่ยวข้องกำนันนกหรือไม่