ย้ำ เกี่ยวข้องจริยธรรม ไล่ออกได้ต้องขาดราชการ 15 วัน เชื่อเตรียมเจอแรงกดดันมหาศาล พร้อมโทษทางสังคม ต้องรับสภาพผลกระทบต่อการเติบโตทางสายงาน ขณะที่ นายกฯ ยัน ข้อเสนอริบเงินบำเหน็จ บำนาญ ขอดูตามระเบียบ
วันนี้ (29 ต.ค. 67) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงข้อเสนอให้ตัดเงินบำนาญ และบำเหน็จ ข้าราชการที่หนีคดีตากใบ ว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบอยู่ ได้สั่งการ และคุยกันเรียบร้อยแล้วว่าอยู่ระหว่างการทำระเบียบ
เมื่อถามต่อว่ามีระเบียบที่สามารถริบเงินดังกล่าวได้หรือไม่ แพทองธาร หันมามอง อนุทิน ก่อนที่จะกล่าวต่อว่า ขอเวลาสักนิด ต้องดูในข้อรายละเอียดก่อน แต่ทราบเรื่องหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
ส่วนมีแนวโน้มที่จะลงพื้นที่ชายแดนภาคใต้เพื่อให้กำลังใจกับผู้เสียหายหรือไม่ นายกฯ บอกว่า จริง ๆ มีแผนจะลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่แล้ว แต่ขอดูอีกทีว่าจะไปจังหวัดใด
เมื่อถามถึงกรณีที่ปลัดอำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับในคดีตากใบและกลับมาทำงานหลังจากคดีหมดอายุความลงนั้น แพทองธาร ย้ำว่า เรื่องนี้ขอให้ อนุทินเป็นคนตอบ
เมื่อถามต่อว่าจะกระทบกับความเชื่อมั่น ของระบบราชการไทยหรือไม่ นายกฯ ยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
เมื่อถามย้ำว่ากรณีปลัดท่าอุเทน สะท้อนถึงภาพความเชื่อมั่น ความมั่นคงของหน่วยงานของรัฐ เพราะเมื่อหมดอายุความผู้ต้องหาก็กลับมาทำงานทันที นายกฯ ยอมรับ ก็ต้องตรวจสอบกันต่อไป แต่ก็ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศต่อ แต่ในเรื่องนี้ก็เข้าใจได้
‘อนุทิน’ สั่ง ปลัด มท. สอบ ‘ปลัดอำเภอท่าอุเทน’ ลาราชการ หนีหมายจับคดีตากใบ
ก่อนหน้านั้น อนุทิน ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งเท่าที่ทราบเขายื่นหนังสือลาพักผ่อน แต่หลังจากทราบว่าโดนหมายจับ ก็ได้สั่งยกเลิกใบลาดังกล่าว และสั่งให้กลับมารายงานตัว แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้มา โดยเท่าที่ทราบน่าจะขาดราชการ 6 วัน แต่ตามระเบียบแล้วต้องขาด 15 วัน ถึงจะไล่ออกจากราชการได้ ซึ่งต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อให้ความเป็นธรรม ว่า เพราะเหตุใดถึงไม่มารายงานตัว ซึ่งต้องฟังคำอธิบายของเขาด้วย เพราะตอนที่ลายังไม่มีหมายจับ
“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับจริยธรรมข้าราชการ อย่างที่เคยบอกไปแล้ว คนกลุ่มนี้จะอยู่สบาย ๆ คงไม่ใช่ ต้องรับแรงกดดันมหาศาล เมื่อเจอชื่อก็จะ ร้องเอ๊ะ ได้เลย ซึ่งถือเป็นโทษทางสังคม แต่การลงโทษอื่น ๆ ต้องเป็นไปตามระเบียบ และเชื่อว่าจะกระทบต่อการเติบโตทางสายงาน เมื่อถึงจุดหนึ่ง ไปยืนยันให้ความเป็นธรรม เราไม่ได้กลั่นแกล้งใครอยู่แล้ว”
อนุทิน ชาญวีรกูล
อนุทิน ระบุด้วยว่า ตามหนังสือใบลาได้ระบุ “ลาพักผ่อน” และมีหนังสือจากนายอำเภอท่าอุเทน ได้ชี้แจงผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ไปแล้วว่า อนุมัติไปวันไหน และเมื่อรู้ว่ามีหมายจับก็ได้สั่งยกเลิก และเรียกมารายงานตัว ซึ่งเป็นมูลเหตุที่ต้องสอบถาม พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวน
ส่วนที่มีการเสนอให้ตัดบำเหน็จบำนาญนั้น อนุทิน บอกว่า ทุกอย่างจะต้องดำเนินการตามกฎระเบียบ จะลงโทษอะไรใครต้องมีระเบียบรองรับ ไม่เช่นนั้นคนที่ไปลงโทษเขาจะถูกฟ้องได้
เมื่อถามว่าจะสั่งย้ายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส หรือไม่ อนุทิน หัวเราะก่อนตอบว่า ถ้าตนสั่ง ตนก็ผิด เพราะเป็นการไปก้าวก่ายข้าราชการประจำ ซึ่งเรื่องนี้อยู่ที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย หากจะมีการย้ายข้าราชการระดับ 9 ไม่ต้องปรึกษารัฐมนตรีฯ