ข่าวลบ กลบความคุ้นเคยไม่ได้หลัง”ลูกพีช”ชนะเลือกตั้งขึ้นแท่น ส.ท.

แต่นักรัฐศาสตร์เชื่อ ชัยชนะไม่ได้อยู่นาน จุดขายแค่”ลูกใคร”อาจไม่พอ ขณะผลเลือกตั้งเทศบาลสะท้อน”ผู้นำท้องถิ่น”สำคัญกว่า”กระแสพรรค”ช่องว่างของคะแนนไม่แลนสไลด์ นัยยะไม่ชัดตัดสินการเมืองระดับชาติ

วันนี้ (12 พ.ค.2568) แม้ยังไม่มีการรับรองผลการเลือกตั้งเทศบาลอย่างเป็นทางการ แต่นักรัฐศาสตร์ ชี้ ภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลรอบนี้ พิสูจน์ชัดว่า เครือข่ายอุปถัมภ์ยังเป็นเรื่องสำคัญ กระแสพรรคการเมืองมีผลไม่มากนัก เมื่อ ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ส่วนใหญ่ “แชมป์เก่ายังเป็นบ้านใหญ่” ขณะพรรคประชาชน พรรคการเมืองเดียวที่ส่งผู้สมัครอย่างเป็นทางการพร้อมชูจุดขายนโยบายพัฒนาท้องถิ่น ก็ยังไม่สามารถชนะในระดับเทศบาลนครได้เลย แต่กูรูการเมือง มองว่า ผลคะแนนรอบนี้ก็ไม่ค่อยมีผล หรือ ปูทางไปถึงการเมืองระดับชาติมากนัก เพราะการเมืองระดับชาติ มองในมุมอุดมการณ์ ระดับท้องถิ่น คือ การเข้าไปแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันระดับพื้นที่ 

ส่วน กรณีของ “ลูกพีช” หรือ สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) ตำบลธัญบุรี ทีมธัญบุรีก้าวหน้า ลูกชายของ “นายกเบี้ยว” หรือ กฤษฎา หลีนวรัตน์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี ที่มีกรณีอุบัติเหตุและตกเป็นข่าวอยู่ในความสนใจของสังคม จนกลายเป็นข้อสังเกตว่า อาจจะทำให้พลาก ตำแหน่ง ส.ท.ในการเลือกตั้งรอบนี้หรือไม่ แต่สุดท้าย ตระกูลหลีนวรัตน์ ก็ยังคงครองแชมป์ มีคะแนนนำทิ้งคู่แข่งเช่นเดิม

ปุรวิชญ์ วัฒนสุข นักรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เห็นตรงกับ รศ.ยุทธพร อิสรชัย นักรัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ซึ่งวิเคราะห์ถึงผลที่ออกมา เพราะ “หลีนวรัตน์” เป็นตระกูลการเมืองที่อยู่มายาวนาน ผลการเลือกตั้งสะท้อนว่าภาพเชิงลบไม่ได้กลบความคุ้นเคยของคนในพื้นที่ ขณะที่การเลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี เป็นเทศบาลขนาดเล็กระดับตำบล และเป็นลักษณะของเมืองใหม่

พื้นที่ธัญบุรี คือ เขตเมืองใหม่ ที่มีคนชั้นกลางเข้าไปอาศัยอยู่จำนวนมากในลักษณะ หมู่บ้านจัดสรร เป็นกลุ่มคนหนึ่งที่ค่อนข้างอินกับข่าวสารของ “ลูกพีช-สมิทธิพัฒน์” ซึ่ง ปุรวิชญ์ เป็นหนึ่งคนที่อยู่ในพื้นที่ธัญบุรี แต่ไม่เคยเห็นการลงพื้นที่หาเสียงของบ้านใหญ่ แต่สำคัญกว่า คือการเชื่อมกับผู้นำชุมชน ทำให้กระแสข่าวที่ผ่านมาไม่ได้ชี้ขาดต่อการเลือกตั้งช่วงโค้งสุดท้าย

ชัยชนะจากผลไม่เป็นทางการที่ชนะมากว่า 1,000 คะแนน ก็ถือว่ากระแสไม่ได้ตัดสินตัวผู้นำเทศบาล แต่ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีผล เพราะหากไม่มีผลกระทบจริง ตระกูลที่ทำงานในพื้นที่ท้องถิ่นมาอย่างต่อเนื่องควรจะแลนสไลด์ หรือ “ลูกพีช” อาจจะต้องชนะขาดได้มากกว่านี้

สมรภูมิท้องถิ่น ไม่สื่อนัยยะ การเมืองระดับชาติ

การเลือกตั้งท้องถิ่น อบจ. เทศบาล อบต. คือ เรื่องของคนที่อยู่ในพื้นที่ จริงๆ ใช้วิธีการเจาะเข้าถึงคนเหล่านี้ การเลือกตั้งท้องถิ่นอาจจะมีผลน้อยกว่าการเลือกตั้งในระดับชาติ แม้จะมีความพยายามใช้กระแส ในหลายพื้นที่ก็ยังเป็นเรื่องของคนในพื้นที่ ขณะเดียวกันประชาชนก็ยังไม่ได้ตื่นตัวมากเหมือนการเลือกตั้งใหญ่ ไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้า และนอกเขต

การเลือกตั้งท้องถิ่นทั้ง อบจ.และเทศบาล มีพรรคการเมืองที่ลงไปช่วยหาเสียง มีการติดโลโก้ที่บ่งบอกถึงความเป็นพรรคชัดเจน เช่น พรรคประชาชน ซึ่งเป็นพรรคที่เล่นกับกระแสสังคม และใช้ยุทธศาสตร์นี้ในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น แต่รอบนี้ก็ยังไม่สามารถชนะได้มากนัก สะท้อนว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นกระแสยังคงจุดติดยาก และการใช้เพียงแค่การเคาะประตูบ้าน ปราศรัยก็ยังไม่สามารถเรียกคะแนนเสียงได้

ขณะที่ รศ.ยุทธพร มองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทย ยังคงมีที่นั่งในระดับท้องถิ่นขนาดใหญ่ มากกว่า พรรคประชาชน ที่ส่งผู้สมัครไปถึง 15 แห่ง แต่ไม่สำเร็จ ยังไม่สามารถปักธงได้จริงจังในการเมืองระดับท้องถิ่น แต่ถึงอย่างไร ผลการเลือกตั้งท้องถิ่น ก็ไม่ได้มีนัยยะไปถึงการเมืองระดับชาติ เพียงแต่ความน่าสนใจของการเลือกตั้งท้องถิ่น คือ การสนับสนุนจากพรรคการเมืองที่หลากหลาย ขณะที่การเมืองระดับชาติ กับ ระดับท้องถิ่นก็มีมุมคิดคนละแบบ จึงไม่มีข้อสรุปว่า การเมืองท้องถิ่น กับ การเมืองระดับชาติ จะเป็นตัวแปรซึ่งกันและกัน

คุณสมบัติ นายกเล็ก “เทศบาล” ที่อยู่นาน

นักรัฐศาสตร์ ย้ำว่า ภาพรวมของสมรภูมิท้องถิ่นยังคงอยู่ที่ผลงานที่จับต้องได้ หากประชาชนอยากจะเปลี่ยนก็อาจจะทำให้พื้นที่นั้นได้ผู้นำหน้าใหม่ แต่หากผลงานยังคงมีให้เห็น ก็อาจจะยังรักษาเก้าอี้ไว้ได้ เช่น นายสมนึก ธนเดชากุล ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี อดีตนายกเทศมนตรี 9 สมัย และได้อีกสมัยเป็นสมัยที่ 10

แต่ท้ายที่สุดแล้ว นายสมนึก ก็ไม่ได้ชนะขาดลอยเหมือนในอดีต พ่ายแพ้ให้กับผู้สมัครของพรรคประชาชน ซึ่งก็เป็นผลมาจากบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ที่ต้องเลือกทั้งตัวนายกเทศมนตรี และทีม ส.ท. สะท้อนว่า ผลงานที่นายกเล็ก เคยทำไว้ เช่น การป้องกันนนทบุรีจากน้ำท่วมในปี 2554 ขณะที่ยุคปัจจุบันมีคนหลากหลาย Generations ที่มีความคาดหวังต่อการเปลี่ยนแปลง อาจเป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนออกมาเป็นตัวเลขของชัยชนะที่ไม่แลนสไลด์

ตัวอย่างนี้ และอีกหลายสนามการเลือกตั้งรอบนี้ สะท้อนภาพรวมแทบไม่ต่างจากเดิม แต่สิ่งที่น่าสนใจ คือ ช่องว่างระหว่างคะแนน ของคนชนะ กับ คนเกือบชนะ บางพื้นที่มีช่องว่างไม่ถล่มทลาย ไม่แพ้เยอะ หากจะพูดนัยยะการเมืองระดับชาติ อาจไม่ได้สะท้อนนัยยะชัดเจนว่าจะตัดสินผู้แพ้ ผู้ชนะระดับชาติต่อไป ทางที่ 1 มุมชนะ ไม่ชนะตลอดไป หากไม่ทำงานจริง, ทางที่ 2 คนแพ้ ในอนาคตอาจจะชนะ โดย คุณสมบัติพื้นฐานของนักการเมืองระดับชาติ และท้องถิ่น เหมือนกัน ต้องมีจิตสำนึกสาธารณะ โปร่งใส ทำงานได้มากกว่าประโยชน์ส่วนตัว เอาประโยชน์ส่วนร่วม คนที่ทำงานการเมืองท้องถิ่น มุมต่อการเลือกไม่เหมือนกับการเมืองระดับชาติ

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active