ทำไม ? ‘สมศักดิ์’ ไม่กลัวทัวร์ลง ถ้าวีโต้! มติแพทยสภา ปมชั้น 14 ทักษิณ 

  • รมว.สธ. ยังไม่ได้รับหนังสือมติแพทยสภาอย่างเป็นทางการ แต่เตรียมพิจารณาอย่างรอบคอบภายใน 15 วัน แม้จะมีสายสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทย
  • ทีมแพทย์ที่ถูกลงโทษยื่นขอความเป็นธรรม โดยอ้างว่ามีข้อมูลใหม่ที่แพทยสภายังไม่พิจารณา และพยายามสร้างกรอบเรื่องเล่าใหม่ เพื่อมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของ รมว.สธ.
  • คำตัดสินของ รมว.สธ. เป็นบททดสอบความโปร่งใส และอิสระของระบบ จับตา วีโต้ มติเดิม กระทบต่อความน่าเชื่อถือของวงการแพทย์ และอาจถูกมองว่าเป็นการแทรกแซงทางการเมืองหรือไม่ ?

ท่ามกลางกระแสสังคมที่จับตาอย่างใกล้ชิดต่อกรณีแพทยสภา มีมติให้ลงโทษแพทย์ 3 คน จากกรณีการรักษา ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คำถามสำคัญกำลังพุ่งเป้าไปที่ สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะ สภานายกพิเศษแพทยสภา ซึ่งมีอำนาจให้ความเห็นต่อมติดังกล่าว ว่าจะยึดตามมติเดิม หรือ วีโต้ ให้ทบทวน!

‘ยังไม่ได้รับหนังสือ’ แต่ต้องเตรียมตอบคำถามสังคม

สมศักดิ์ ยืนยันต่อสื่อมวลชนเมื่อ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือมติแพทยสภาอย่างเป็นทางการ แต่รับทราบจากข่าวว่าเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของสาธารณะ พร้อมย้ำว่า เมื่อหนังสือส่งมาถึง จะพิจารณาอย่างรอบคอบภายใน 15 วันตามกรอบเวลา และอาจตั้งคณะทำงานส่วนตัวขึ้นมาช่วยกลั่นกรองข้อมูลก่อนให้ความเห็น

สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

รมว.สธ. ย้ำชัดว่า ไม่ได้รู้สึกกดดัน พร้อมตอบทุกคำถามจากสังคม และยึดหลักเหตุผลเป็นที่ตั้ง แม้จะมีความเชื่อมโยงทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทย และรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร ระบุว่า “ยิ่งต้องทำงานให้ละเอียด” เพราะประสบการณ์การเมืองกว่า 40 ปี ทำให้รู้ว่าความชัดเจน และเหตุผลเท่านั้นจะรักษาความน่าเชื่อถือได้

ทีมหมอทักษิณ เคลื่อนไหว ยื่นขอความเป็นธรรม

เนติธร หลินหะตระกูล ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท. นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ  หนึ่งในแพทย์ที่ถูกลงโทษ เดินทางมายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษฯ โดยอ้างว่าข้อมูลที่แพทยสภาใช้ในการวินิจฉัยยังไม่ครบถ้วน และมีข้อมูลใหม่ที่ชี้ว่าผู้ป่วยมีอาการวิกฤตจริงในช่วงเวลานั้น พร้อมแนบหลักฐานจากเวชระเบียนมายืนยัน

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ แม้จะมาก่อนที่ รมว.สาธารณสุข จะได้รับหนังสือมติแพทยสภาอย่างเป็นทางการ แต่สะท้อนว่า ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังพยายามสร้าง กรอบเรื่องเล่า ที่แตกต่างจากสิ่งที่แพทยสภาชี้ไว้ เพื่อให้มีน้ำหนักต่อการพิจารณาของรัฐมนตรี หรือไม่ ?

15 วันของความไว้วางใจ และคำถามเรื่องความโปร่งใส ?

แม้ รมว.สาธารณสุข ประกาศชัดว่า “ไม่กลัวทัวร์ลง” และจะไม่ยื้อเวลา แต่ความกังวลในหมู่ประชาชนยังคงอยู่ เพราะประเด็นนี้แตะต้องทั้งความน่าเชื่อถือของวิชาชีพแพทย์ และความเป็นธรรมของกลไกรัฐบาลที่มีสายสัมพันธ์ทางการเมืองกับผู้ได้รับการรักษา

กรอบเวลา 15 วันหลังได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการ กลายเป็นเส้นตายสำคัญที่ต้องจับตา เพราะหาก รมว.สาธารณสุขให้ความเห็น “ไม่เห็นด้วย” กับมติแพทยสภา หรือ วีโต้ กลับไป จะต้องผ่านการลงมติของคณะกรรมการแพทยสภาอีกครั้ง โดยใช้เสียง 2 ใน 3 ในการยืนยัน หรือกลับมติ

ศึกในวงการแพทย์ที่กลายเป็นศึกทางการเมือง ?

กรณีนี้สะท้อนความเปราะบางของเส้นแบ่งระหว่าง วิชาชีพแพทย์ กับ ผลประโยชน์ทางการเมือง การตัดสินใจของ รมต.สมศักดิ์ จึงไม่ใช่แค่การรับรองหรือโต้แย้งมติแพทยสภา แต่คือบททดสอบความเป็นอิสระของกระทรวงสาธารณสุข และมาตรฐานจริยธรรมวิชาชีพที่ควรอยู่เหนืออิทธิพลใด ๆ

เมื่อสังคมกำลังเฝ้ารอดูว่า “ใครจะวีโต้ใคร ?” คำตอบสุดท้ายจึงไม่ใช่แค่คำตัดสินของรัฐมนตรีคนหนึ่งเท่านั้น หากแต่เป็นคำตอบต่อความไว้วางใจในระบบ และการพิสูจน์ว่า หลักวิชาชีพ จะหนักแน่นพอต้านแรงดึงดูดของ การเมือง ได้จริงหรือไม่ ?

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active