เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาฯ จี้ รัฐบาล เร่งคลอด พ.ร.บ.กัญชา

‘สมศักดิ์’ ยันไม่คัดค้าน แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย เน้นใช้ทางการแพทย์เป็นหลัก ด้าน ‘เครือข่ายเยาวชนฯ’ เสนอดึงกลับเข้าบัญชียาเสพติดชั่วคราว หวั่นร่าง พ.ร.บ. ใช้เวลานาน ยิ่งยืดเยื้อ ยิ่งขยายสุญญากาศกัญชา​​​​​​​​​​​​​​​​

วันนี้ (20 พ.ค. 68) เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย เตรียมยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาโดยเร็วที่สุด เพราะเวลาผ่านมานานเกือบ 1 ปีแล้ว นับตั้งแต่เริ่มจัดทำร่างฯ

ประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย เปิดเผยกับ The Active ว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.กัญชา ฉบับที่จัดทำโดยกระทรวงสาธารณสุขได้ผ่านขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทั้งในรูปแบบออนไลน์และออนไซต์ครบถ้วนแล้ว เหลือเพียงขั้นตอนการนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อส่งต่อไปยังรัฐสภา

“ตอนนี้ร่างเสร็จหมดแล้ว รับฟังความเห็นทั้งทางออนไลน์และออนไซต์เรียบร้อย แต่ปัญหาคือ กระทรวงสาธารณสุขยังไม่ส่งร่างเข้าสู่ ครม. ทั้งที่ขั้นตอนตามกฎหมายผ่านมาครบแล้ว ซึ่งเนื้อหาสาระตัวร่างฯ ที่กระทรวงฯ จัดทำ รับได้ 90% เพราะอิงจากร่างของคณะกรรมาธิการในสมัยก่อน มีเพียงบางประเด็นเท่านั้นที่อาจเห็นต่างกัน ซึ่งสามารถไปพูดคุยกันต่อในชั้นกรรมาธิการได้”

ประสิทธิ์ชัย หนูนวล

ประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย (ภาพ : Hfocus)

สำหรับสถานะของกัญชาภายใต้กฎหมายในปัจจุบัน ประสิทธิ์ชัย บอกว่า แม้ก่อนหน้านี้คณะกรรมการควบคุมยาเสพติด มีมติให้นำกัญชากลับเข้าเป็นยาเสพติดประเภท 5 แต่การดำเนินการยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ซึ่งต้องพิจารณาเรื่องนี้ยังไม่ได้นำเข้าที่ประชุม

“ตอนนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานซึ่งเป็นประธาน ป.ป.ส. ได้ตั้งคำถามกลับไปยังคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดว่า ในเมื่อพวกคุณเป็นคนปลดกัญชาออกเอง แล้ววันนี้จะเอากลับมาใหม่ มีข้อเท็จจริงใหม่อะไรบ้าง ? ทำให้เรื่องนี้ไม่ถูกบรรจุเข้าสู่วาระของ ป.ป.ส. จึงยังไม่มีการกลับมาเป็นยาเสพติดตามกฎหมาย”

ประสิทธิ์ชัย หนูนวล

เมื่อถามถึงความคาดหวังต่อการผลักดันร่าง พ.ร.บ.กัญชาเข้าสู่สภาฯ ในสมัยประชุมที่จะมาถึง ประสิทธิ์ชัย ย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือให้ร่างกฎหมายผ่านขั้นตอน ครม. ให้ทัน เพื่อเข้าสู่สภาฯ โดยเร็ว

“เข้าใจว่าตอนนี้อาจมีร่างกฎหมายอื่น เช่นเรื่องกาสิโน ที่อยู่ในคิวก่อนหน้า แต่ถึงอย่างไรก็อยากให้รัฐบาลนี้ผลักดัน พ.ร.บ.กัญชาให้แล้วเสร็จ เพราะนี่คือกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับประชาชนจำนวนมาก ทั้งระบบการผลิต การแปรรูป การตลาด และการคุ้มครองผู้บริโภค ต้องมีกรอบกฎหมายที่ชัดเจนรองรับ”

ประสิทธิ์ชัย หนูนวล

‘สมศักดิ์’ ยัน กัญชา ในมุม สธ. ต้องเน้นการแพทย์เป็นหลัก

ด้าน สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีกลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องให้เร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติกัญชาเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ว่า กระทรวงฯ ได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยเฉพาะในประเด็นการใช้กัญชานำออกนอกประเทศ ซึ่งได้สั่งการให้ตรวจสอบว่ามีการดำเนินการถูกต้องตามระเบียบกฎหมายหรือไม่ หากพบว่าไม่เป็นไปตามข้อกำหนด ก็จะต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด

“ตอนนี้ให้ตรวจสอบเรื่องการนำกัญชาออกนอกประเทศ เช่น ขึ้นเครื่องบินหรือส่งไปต่างประเทศว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือเปล่า ถ้าไม่ถูกต้องก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจัง อย่าปล่อยผ่านโดยเด็ดขาด กรมแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกก็ต้องเข้มงวด ต้องทำงานให้เข้มแข็งตรงจุดนี้”

สมศักดิ์ เทพสุทิน

ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้สนับสนุนกัญชาจะมาเร่งรัดการผลักดันร่างกฎหมาย สมศักดิ์ บอกว่า ตนไม่สามารถถูกกดดันได้ เพราะต้องทำหน้าที่ตามกรอบกฎหมาย และ ขอยืนยันว่าไม่ได้มีท่าทีคัดค้านกัญชาอย่างไร้เหตุผล

การที่ผมไม่ผลักดันเร็ว ไม่ใช่เพราะผมค้านกัญชา แต่ต้องให้กระบวนการเป็นไปตามกฎหมาย ผมไม่สามารถเร่งรัฐสภาได้ ร่าง พ.ร.บ. นี้เคยเข้าสภาฯ มาแล้วก็ยังไม่ผ่านสักที เรื่องพวกนี้ต้องดูภาพรวม ไม่ใช่จะผลักดันตามใจใครคนเดียว”

สมศักดิ์ เทพสุทิน

รมว.สธ. ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า การใช้กัญชาในมุมของกระทรวงสาธารณสุขนั้น ต้องเน้นในด้านการแพทย์เป็นหลัก และหากจะออกเป็นกฎหมาย ก็ควรพิจารณาให้รอบคอบว่าจะเป็นกฎหมายลักษณะใด

“เรื่องกัญชาเนี่ย มันเป็นเรื่องส่วนรวม ไม่ใช่แค่ใครจะค้านหรือไม่ค้าน เราเห็นว่าการใช้เพื่อการแพทย์เป็นสิ่งที่เหมาะสม ส่วนในทางกฎหมาย จะให้ออกเป็นกฎหมายคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย หรือกฎหมายควบคุมเฉพาะอย่าง ก็ต้องให้ผู้รู้มาตัดสินใจให้ถูกต้อง”

สมศักดิ์ เทพสุทิน

เครือข่ายเยาวชน เสนอดึงกัญชากลับเข้าบัญชียาเสพติด

ขณะที่ ยศกร ขุนภักดี ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชน YNAC ให้ความเห็นต่อความเคลื่อนไหวของเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาในการยื่นหนังสือเร่งรัดรัฐบาลให้ออก พ.ร.บ.กัญชา ว่า โดยหลักการแล้วเห็นด้วยว่าควรมีกฎหมายมาควบคุม แต่ห่วงว่าหากใช้กระบวนการตามระบบรัฐสภา อาจต้องใช้เวลานาน

“ไม่ใช่ว่าเราไม่เห็นด้วยกับการมีกฎหมาย จริง ๆ แล้วเราเห็นด้วยว่าต้องมี พ.ร.บ.กัญชา เพียงแต่สิ่งที่กังวลคือกระบวนการออกกฎหมายมันใช้เวลานาน อาจต้องรอเป็นปีหรือมากกว่านั้น อย่างที่เห็นกับร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับกาสิโนหรือ Entertainment Complex ที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะผ่านในสมัยนี้หรือไม่”

ยศกร ขุนภักดี

ยศกร เสนอว่า หากเป้าหมายหลักคือลดผลกระทบต่อสังคมในช่วงที่กัญชายังไม่มีกรอบควบคุมที่ชัดเจน วิธีที่รวดเร็วและเป็นไปได้มากกว่าในระยะสั้น คือ การใช้กลไกทางปกครอง เช่น การออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข หรือการปรับบัญชียาเสพติดให้กัญชาอยู่ใน “ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 แบบมีข้อยกเว้น” ตามบัญชียาเสพติดแนบท้ายประกาศ

“ถ้าให้กัญชาเข้าไปอยู่ในยาเสพติดประเภท 5 แบบมีเงื่อนไข พร้อมมีมาตรการเยียวยาและการคุ้มครองผู้ใช้ ก็จะช่วยลดผลกระทบได้ทันที ไม่ต้องรอ พ.ร.บ. ที่ยังไม่รู้จะเสร็จเมื่อไร”

ยศกร ขุนภักดี

ยศกร ยังกล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.กัญชา ที่เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ผลักดันว่า ยังไม่แน่ใจว่าร่างที่เสนอมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง เพราะมีหลายฉบับถูกยื่นเข้าสภา ซึ่งหากไม่มีการกลั่นกรองหรือสื่อสารต่อสาธารณะให้ชัดเจน ก็อาจไม่สามารถตอบโจทย์ได้จริง และใช้เวลายาวนานเกินไป

ในความแย่ที่สุด การมีกฎหมายก็ยังดีกว่าไม่มี แต่สิ่งสำคัญคือต้องจับตาดูเนื้อหาของกฎหมายให้ดีว่าแต่ละมาตรามีการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้และควบคุมการใช้เพื่อสาธารณะอย่างแท้จริงหรือไม่”

ยศกร ขุนภักดี

ยศกร ยังกล่าวถึงบทบาทของภาคประชาชน ว่า ทางเครือข่าย YNAC และภาคีอื่น ๆ ได้เคยยื่น ร่าง พ.ร.บ.ภาคประชาชนว่าด้วยการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ ไปแล้ว โดยมีผู้ร่วมลงชื่อกว่า 10,000 รายชื่อ แต่ก็เข้าใจว่าการผลักดันให้กฎหมายฉบับนี้เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภายังต้องใช้เวลานาน และขึ้นอยู่กับการจัดลำดับความสำคัญของรัฐบาลและรัฐสภา

“เราก็พร้อมจะติดตามและตรวจสอบร่าง พ.ร.บ.ในทุกขั้นตอน ถ้าหากเข้าสู่สภาฯ จริงก็จะดูแต่ละมาตราอย่างใกล้ชิด เพราะเราอยากเห็นกฎหมายที่ออกมาแล้วใช้งานได้จริง ไม่ใช่แค่ผ่านไปตามกระบวนการแล้วไม่มีผลอะไรกับชีวิตคน”

ยศกร ขุนภักดี

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active