ตึงเครียดชายแดน! กัมพูชาโจมตี รพ.พนมดงรัก ปชช.เจ็บ-ตาย

สธ.อพยพผู้ป่วย รับมือฉุกเฉินระดับ 2 หลังทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงใส่ชายแดนไทย จรวด BM-21 ตกใส่ชุมชน-โรงพยาบาลพนมดงรัก จ.สุรินทร์ ชาวบ้านเสียชีวิต – เด็กบาดเจ็บสาหัส ทหารไทยเจ็บ 7 นาย ย้ายผู้ป่วยกว่า 70 คนออกจากเขตปะทะ ด้านกาชาดศรีสะเกษ เผยสถานการณ์เลือดในพื้นที่เริ่มตึงตัวขอรับบริจาคด่วน

วันนี้ 24 กรกฎาคม 2568 สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาเกิดความตึงเครียดอย่างหนัก เมื่อเวลา 11.54 น. กองทัพภาคที่ 2 รายงานผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊กว่า กองกำลังจากกัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีโรงพยาบาลพนมดงรัก จ.สุรินทร์ ส่งผลให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บในพื้นที่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เร่งเข้าช่วยเหลือและอพยพประชาชนออกจากเขตอันตราย

ขณะที่ จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ยืนยันว่า กัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน โดยมีการบิน โดรนเข้าสู่เขตแดนไทยเพื่อยั่วยุ จากนั้นใช้อาวุธหนักยิงใส่ทหารไทย และโจมตีพื้นที่พลเรือนอย่างต่อเนื่อง โดยมีการใช้ จรวดหลายลำกล้องขนาด 122 มม. (BM-21) ยิงเข้ามายังเขตชุมชน อ.พนมดงรัก

จากการโจมตีดังกล่าว มีประชาชนชาวบ้านเสียชีวิต 1 คน และเด็กอายุ 5 ขวบได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมสมาชิกในครอบครัวอีก 2 คน ขณะเดียวกันมีรายงาน ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 7 คน

ฝ่ายความมั่นคงได้เร่ง อพยพประชาชนเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัย โดย ศบ.ทก. ได้มอบอำนาจให้กองกำลังส่วนหน้าตัดสินใจตอบโต้ตามสถานการณ์ พร้อมกันนี้ได้ ปิดด่านชายแดนทั้งหมดตั้งแต่เวลา 08.00 น. ของวันเดียวกัน

ด้าน สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข บอกว่า ได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ โดยมีการย้ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยง ได้แก่

รพ.พนมดงรัก ขนาด 30 เตียง ย้ายผู้ป่วย 19 คนไปโรงพยาบาลอื่น และให้กลับบ้านอีก 19 คน

รพ.กาบเชิง ขนาด 60 เตียง เคลื่อนย้ายผู้ป่วยแล้ว 56 คน

ขณะนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ (สสจ.) ได้ยกระดับสถานการณ์เป็น “ภาวะฉุกเฉินระดับ 2” และจะมีการประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (PHEOC) เวลา 13.00 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อประเมินและสั่งการในประเด็นทั้งน้ำท่วมและเหตุปะทะชายแดน

นอกจากนี้ สธ.ได้ส่งทีม MCATT (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team) ลงพื้นที่ให้บริการดูแลจิตใจประชาชน ทั้งการคัดกรองอาการเครียด เปิดศูนย์ให้คำปรึกษาทั้งแบบ Walk-in และออนไลน์ รวมถึงสั่งการให้สำรองเวชภัณฑ์และจัดระบบส่งยาถึงบ้านสำหรับกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรังที่อพยพออกจากพื้นที่

นายสมศักดิ์ย้ำว่า การทำงานของ สธ.จะดำเนินควบคู่กับฝ่ายความมั่นคง เพื่อให้การอพยพและดูแลผู้ได้รับผลกระทบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยจะประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพร้อมลงพื้นที่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ภายในสัปดาห์นี้

ศรีสะเกษต้องการเลือดด่วน! 9 โรงพยาบาลเปิดรับบริจาค

ในเวลาเดียวกัน เหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษได้โพสต์แจ้งเตือนว่า สถานการณ์เลือดในพื้นที่เริ่มตึงตัวอย่างมาก โดยขอรับบริจาคโลหิตเป็นการเร่งด่วนผ่านโรงพยาบาลในจังหวัดศรีสะเกษ ดังนี้

  1. โรงพยาบาลศรีสะเกษ
  2. โรงพยาบาลขุขันธ์
  3. โรงพยาบาลปรางค์กู่
  4. โรงพยาบาลราษีไศล
  5. โรงพยาบาลขุนหาญ
  6. โรงพยาบาลกันทรลักษ์
  7. โรงพยาบาลอุทุมพรพิสัย
  8. โรงพยาบาลกันทรารมย์
  9. โรงพยาบาลศรีรัตนะ

ประชาชนที่สะดวกบริจาคสามารถเดินทางไปที่โรงพยาบาลใกล้บ้านได้ทันที

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active