พร้อมเดินหน้าสร้างหลักเขตแดนใหม่ ทดแทนหลักเขตแดนเดิมที่ชำรุด สูญหาย เตรียมนำผล JBC เสนอรัฐบาลพิจารณา ขณะที่ปมสร้างรั้วชายแดน ฝั่งกัมพูชายังไม่พร้อมหารือ นัดประชุม JBC ครั้งหน้า สัปดาห์แรกของเดือนมกราคม 2569 ที่เมืองเสียมราฐ
เมื่อเวลาประมาณ 00.49 น. (คืนวันที่ 22 ต.ค. 68) ผู้สื่อข่าว Thai PBS รายงานว่า ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา พร้อมด้วย เบญจมินทร์ สุกาญจนัจธี อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ JBC หลังหารือกับ ฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดน และหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา

ประศาสน์ ระบุว่า ที่ประชุม 2 วันที่ผ่านมา ได้หารือ กรณีบ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว จ.สระแก้ว เป็นเรื่องเร่งด่วน และใช้ระยะเวลาในการหารือนานที่สุด แต่ยังลงรายละเอียดไม่ได้ จนกว่าจะเสนอรัฐบาลโดยทางการกัมพูชา ได้แลกเปลี่ยนข้อมูล
เบื้องต้นได้เห็นตรงกันว่า หลังจากนี้จะเข้าไปสำรวจบ้านหนองจาน-บ้านหนองหญ้าแก้ว เพื่อวางตำแหน่งทั้งของไทยและกัมพูชา ที่มีการอ้างสิทธิ เมื่อได้แนวพื้นที่ขั้นต้นมาแล้ว รัฐบาลจะแต่งตั้งผู้รับผิดชอบมาดูแล
ทั้งนี้จะเร่งดำเนินการสำรวจเขตแดน คาดว่าใช้ระยะเวลาราว 6 สัปดาห์ เนื่องจากการลงพื้นที่สำรวจต้องคำนึงถึงความปลอดภัย เพราะบางจุดยังเป็นพื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิด
ส่วนกรณีการรุกล้ำพื้นที่บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ยังไม่ได้มีการหารือในครั้งนี้ แต่จะรอการหารือในโอกาสต่อไป

ปธ.คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ยังเปิดเผยว่า ในที่ประชุมได้เสนอให้มีการพิจารณาการสร้างรั้ว เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดน ยาเสพติด แต่ผู้แทนฝ่ายกัมพูชา ระบุว่าไม่มีอำนาจในการหารือกรณีนี้ จึงได้นำประเด็นออกจากการหารือ แต่ไทยก็ได้อธิบายถึงความจำเป็น โดยใช้เวลาราว 30 นาที เพื่อให้ผู้แทนกัมพูชา ได้นำสารไปส่งต่อให้กับผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้อง
สำหรับการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นที่มณีจันทร์รีสอร์ท จ.จันทบุรี ระหว่าง วันที่ 21 – 22 ต.ค. 2568 ทั้งนี้ที่ประชุมทั้ง 2 ฝ่าย ได้มีตกลงร่วมกันหลายประเด็น ได้แก่
- ทั้ง 2 ฝ่ายได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมาธิการเทคนิคร่วม (Joint Technical Sub-Commission: JTSC) ดำเนินการสร้างหลักเขตแดนใหม่ เพื่อทดแทนหลักเขตแดนเดิมที่ชำรุดหรือสูญหาย จำนวน 15 หลัก ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายมีความเห็นตรงกันแล้ว ให้กลับคืนสู่ที่ตั้งและตำแหน่งเดิม
- ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงที่จะจัดทำหลักเขตแดนเพื่อเปลี่ยนหรือทดแทนหลักเขตแดนเดิมที่จมน้ำ จำนวน 3 หลัก โดยจะกำหนดตำแหน่งที่ตั้งใหม่ร่วมกันในภายหลัง
- ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องให้เร่งรัดการแก้ไข Terms of Reference 2003 (TOR 2003) เกี่ยวกับการจัดทำแผนที่ภาพถ่าย (Orthophoto Maps) เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ เช่น Light Detection and Ranging (LiDAR) มาใช้ในการทำแผนที่ภาพถ่าย เพื่อให้การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ระหว่างหลักเขตแดนที่ 42 ถึง 47 บริเวณบ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว ประกอบด้วย
– หารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับคำแนะนำทางเทคนิค (Technical Instruction: TI) สำหรับการสำรวจและวางหมุดชั่วคราวในพื้นที่ภูมิประเทศที่มีความเร่งด่วนในบริเวณหลักเขตแดนที่ 42 ถึง 47
-เมื่อทั้ง 2 ฝ่ายดำเนินการสำรวจและวางหมุดชั่วคราวเสร็จสิ้นแล้ว จะนำผลการสำรวจดังกล่าวเสนอต่อรัฐบาลเพื่อขอความเห็นชอบ เพื่อกำหนดกลไกที่เหมาะสมสำหรับการปรับการถือครองที่ดินของทั้ง 2 ฝ่ายต่อไป
-การวางหมุดชั่วคราวนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการสำรวจเท่านั้นและจะไม่กระทบต่อสิทธิของไทยและกัมพูชาในเรื่องเขตแดนทางบกตามกฎหมายระหว่างประเทศ
- ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะกำชับให้หน่วยงานท้องถิ่น ทั้งฝ่ายทหารและพลเรือน รับประกันความปลอดภัยให้กับชุดสำรวจจากทุ่นระเบิด ตามข้อ 3 ของ MOU 2543 และเพื่อให้ชุดสำรวจสามารถปฏิบัติงานได้โดยปราศจากการขัดขวางและการยั่วยุที่อาจส่งผลให้เกิดความตึงเครียดเพิ่มเติมในบริเวณดังกล่าว
พร้อมกันนี้ยังเห็นพ้องการประชุม JBC ครั้งต่อไปในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม 2569 ที่เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา