สัญญาณดี! กัมพูชา​ ตอบรับร่วมมือไทย ‘เก็บกู้ทุ่นระเบิด’

พร้อมปราบสแกมเมอร์ ตั้ง TBC คุยระดับท้องถิ่น ด้าน “พล.อ.ณัฐพล” ชี้ สถานการณ์ยังไม่จบ แค่คลี่คลาย เร่งกำหนดกรอบการพูดคุย

วันนี้ (23 ส.ค.2568) ยังคงต้องจับตาสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม้ล่าสุดจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เมื่อกัมพูชาตอบรับ 3 ข้อเสนอเพิ่มเติมของไทย ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา หรือ RBC ระหว่างกองทัพภาคที่ 1 กับฝ่ายทหารของกัมพูชาเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา

พลเอกณัฐพล​ นาค​พาณิชย์​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ ชี้แจงว่า สถานการณ์ชายแดนเวลานี้ ยังไม่จบ แค่คลี่คลาย

“หากเป็นความคิดของตนมองว่า ยังไม่จบ แต่ใช้คำว่าสถานการณ์​คลี่คลาย​ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่คลี่คลายไปได้เรื่อยๆ​ และ ปัจจุบันทั้งศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา​ หรือ​ ศบ.ทก.​และ​คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee – GBC) GBC กำลังกำหนดฉากทัศน์ว่า หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร​ จากที่เดิมไม่มีการกำหนดฉากทัศน์เพราะไม่คิดว่า เหตุการณ์จะบานปลายขนาดนี้” 

ซึ่งเมื่อเหตุการณ์บานปลายถึงขั้นนี้แล้ว การพูดคุยกันโดยไม่มีกรอบ คงไม่เหมาะสม จึงต้องมีการกำหนดฉากทัศน์ขึ้นมา เพื่อให้ทุกหน่วยอยู่ในฉากทัศน์ที่กำหนด​ พร้อมยืนยันว่าฉากทัศน์ดังกล่าว จะต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ​ หรือ​ สมช.​ และที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก่อน

โดยยืนยันว่า การทำงานของ ศบ.ทก. และ GBC ไม่ได้ทำงานเพียงลำพัง แต่ทำงานตามขั้นตอน และไม่ได้รวบอำนาจจาก ครม.และ สมช.มาใช้ 


สัญญาณจากส่วนกลาง มีแนวโน้มที่ดี กัมพูชา​ ตอบรับ ร่วมมือไทยเก็บกู้ทุ่นระเบิด

กรณีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค​ หรือ​ RBC ไทย-กัมพูชา ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 ที่เห็นพ้อง 13 ข้อตกลงหยุดยิง คณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC​

ทางกัมพูชา ตอบรับ 3 ข้อเสนอเพิ่มเติมจากฝ่ายไทย คือ ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด ปราบสแกมเมอร์ และการจัดตั้งคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นกลไกรองรับคณะ RBC ในการแก้ไขปัญหาระดับพื้นที่ แน่นอนเป็นการส่งสัญญาณที่ดี หลังระดับนโยบายพูดคุยกันในเวที GBC 

แต่ยังต้องมาประเมินในขั้นของการพูดคุยในระดับ RBC​ ซึ่งทีมพูดคุย RBC ของฝั่งกัมพูชา จะมีอยู่ทีมเดียว ต้องรอคุยทีละพื้นที่ โดยเมื่อวันที่ 15-16 ส.ค. ฝั่งกัมพูชาได้มีการประชุมร่วมกับที่กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ที่จังหวัดตราด 

ในวันที่ 21-22 ส.ค. มีการประชุม กับทางกองทัพภาคที่ 1 ที่จังหวัดสระแก้ว 

ในวันที่ 25-27 ส.ค. จะไปประชุมในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 จึงมีความแตกต่างจากของเรา ที่ใช้คนละหน่วยในการพูดคุย 

ดังนั้นการพัฒนาการพูดคุยจากจังหวัดตราด มาถึงจังหวัดสระแก้ว คงตีความได้ว่า เป็นการพัฒนาจากส่วนกลาง แสดงว่ามีแนวโน้มเป็นไปในแนวทางที่ดี ซึ่งเราไม่ได้คาดหวังความสำเร็จในเวลาอันสั้น เพราะการพูดคุยการหยุดยิงในหลายประเทศใช้ระยะเวลานานเป็นปี ทาง ศบ.ทก.และ GBC ก็คิดว่าจะต้องใช้เวลาซักระยะหนึ่งคงไม่เร็ว 

แต่ผ่านมา 15 วัน แล้วมาถึงจุดนี้ได้ คิดว่าทำได้เร็ว แม้นว่าจะยังไม่เกิดผลเป็นรูปธรรมก็ตาม แต่ขอให้กัมพูชา เข้ามาสู่การพูดคุย เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมารัฐบาลและ ศบ.ทก.มีความเป็นห่วงว่าทางกัมพูชาไม่เข้ามาสู่การพูดคุย แต่ปัจจุบันนี้ทางกัมพูชาได้เข้ามาสู่คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม​ หรือ​ ​JBC​ / GBC​ และ​ RBC แล้ว

ส่วนกรณีที่นายนง ซากาล โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ออกมาพูดในเรื่องของความร่วมมือกับไทยในการเก็บกู้วัตถุระเบิดนั้น เป็นสัญญาณจากส่วนกลาง พยายามทำบรรยากาศให้ดีขึ้น แต่ในบรรยากาศที่มีความหวาดระแวง ที่มีการยั่วยุ เราก็ต้องทำความเข้าใจกัน อย่างในวันนี้ การประชุมของกองทัพภาคที่ 1 เป็นผลประชุมที่ดีมาก เพราะมีการตั้งชุดประสานงานติดต่อกัน  

เมื่อถามว่าทางกัมพูชา ยังไม่ตอบรับในเรื่องของ การจัดระเบียบชายแดนเพราะต้องไปคุยในระดับที่สูงกว่านี้ พลเอกณัฐพล กล่าว เรื่องนี้คงเป็นขั้นต่อไป เพราะการประชุมไม่จำเป็นที่จะประชุมครั้งเดียวจบ ก็อาจจะมีการประชุมครั้งต่อไปอีก เพราะฉะนั้นรายละเอียดอะไร ที่ประชาชนต้องการ ขอให้สื่อสารผ่านสื่อมวลชนมา ทาง ศบ.ทก.และ GBC​ จะเก็บรวบรวมข้อมูลไว้ แล้วแจ้งให้ทาง RBC​ ดำเนินการต่อไป

ผลการประชุม RBC 22 ส.ค.68

ส่วนผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ กองทัพภาคที่ 1 กับ ภูมิภาคทหารที่ 5 วันที่ 22 สิงหาคม ​การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค(RBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ ในครั้งนี้ทั้งสองฝ่ายได้ประชุมตกลงกันด้วยดี และเห็นชอบในการปฏิบัติตามข้อตกลงของการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทั้ง 13 ประเด็น

นอกจากนี้ ยังได้มีการหารือในเรื่องสำคัญเพิ่มเติม เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจ และการแก้ไขปัญหา ที่มีความสำคัญที่ส่งผลต่อประชาชนทั้งสองประเทศให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น

​1. ​ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน ที่จะดำเนินการร่วมมือในเรื่อง การกำจัดทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม โดยพิจารณาให้มีการหารือร่วมกันในการประชุม GBC ครั้งต่อไป

​2.​ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน ที่จะร่วมมือและประสานงานกันในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยให้ใช้เวทีของมหาดไทย กัมพูชา ในการได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย และเห็นควรเสนอให้มีการหารือร่วมกันในการประชุม GBC ครั้งต่อไป

​3. ​ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นชอบในการให้มีกลไกแก้ไขปัญหา ด้วยการจัดตั้งชุดประสานงาน (Coordinating Group: CG)  และ คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น (Township Border Committee : TBC)  เพื่อเป็นกลไกรองรับของคณะ RBC ในการแก้ไขปัญหา ในระดับพื้นที่

​4. ​ในเรื่องการแก้ไขปัญหาการละเมิด MOU 43  ฝ่ายกัมพูชาขอให้ใช้กลไกอื่นๆ หารือเนื่องจากไม่อยู่ในอำนาจของ RBC โดยฝ่ายไทยยืนยันเสนอให้ฝ่ายกัมพูชาได้ทราบว่าเป็นพื้นที่ที่สำคัญ และได้แจ้งเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของฝ่ายไทยในการแก้ไขปัญหา

​ผลการประชุมครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองประเทศในการร่วมมือกันรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน เพื่อนำไปสู่ความมั่นคงและความสงบสุขของประชาชนทั้งสองประเทศ และตอบสนองผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สมัย วิสามัญ เมื่อวันที่ 7 ส.ค.68 ที่ผ่านมา

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active