จับทิศทาง ‘การเมืองไทย’ : The Active รวบยอดเหตุการณ์สำคัญวันนี้ (4 ก.ย. 68) 

10.20 น.
‘ณัฐพงษ์’ เรียกร้อง ‘ภูมิธรรม’ ให้ความชัดเจนการยื่นยุบสภา ชี้ หากยังไม่ชัดเจน ปชน. พร้อมเดินหน้าโหวตนายกฯ 5 ก.ย.นี้

วันนี้ (4 ก.ย.68) ผู้สื่อข่าว Thai PBS รายงานว่า ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน แถลงระบุว่า หลังจากที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรจุระเบียบวาระการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในการประชุมในวันที่ 5 กันยายนนี้ เรียบร้อยแล้ว ประกอบกับพรรคเพื่อไทยได้มีมติในการเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตามระเบียบวาระที่จะถึงนี้ แต่กลับมีกระแสข่าวเมื่อวานเกิดขึ้นว่าทางรัฐบาลเตรียมที่จะเสนอความเห็นเพิ่มเติม ต่อสำนักองคมนตรี เพื่อยืนยันว่ารัฐบาลปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีมีอำนาจในการทูลเกล้าฯ ยุบสภา พรรคประชาชน มีความเห็นต่อกรณีดังกล่าว

โดยยืนยันว่า การปฎิบัติหน้าที่แทนนายกฯ หรือรักษาการนายกรัฐมนตรี มีอำนาจในการยุบสภา แต่อย่างไรก็ตาม ทางพรรคประชาชนไม่ได้มีอำนาจตีความในเรื่องนี้ แต่เป็นอำนาจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้คือ สภาพความไม่ชัดเจน จากการที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรบรรจุระเบียบวาระเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 กันยายน กับกรณีที่รัฐบาลได้ดำเนินการอยู่ แต่สิ่งที่วันนี้มีความชัดเจนแล้วคือระเบียบ วาระกำลังเดินหน้าสู่การโหวตนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย. 68) แต่สิ่งที่ยังไม่ชัดเจนคือ พรรคเพื่อไทย หรือภูมิธรรม ยังคงเดินหน้ากระบวนการยุบสภาอยู่หรือไม่

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน

ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดข้อกังวล หรือความขัดแย้งในข้อกฎหมายหรือการดำเนินการต่อจากนี้ จึงเรียกร้องไปยัง ภูมิธรรม และรัฐบาลให้เกิดความชัดเจน เพื่อการเดินหน้าประชุมในวันพรุ่งนี้เป็นไปด้วยความถูกต้องที่สุด

“อยากได้ความชัดเจนว่าตอนนี้รัฐบาลยังคงเดินหน้ากระบวนการยุบสภาอยู่หรือไม่ อย่างไรก็แล้วแต่ถ้ากระบวนการหรือการโหวตนายก หรือการยุบสภา ยังคงไม่เกิดความชัดเจนอยู่แบบนี้ต่อไป เห็นควรว่าควรจะต้องตามระเบียบวาระที่ได้มีการบรรจุวาระการประชุม โดยใช้อำนาจประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ได้บรรจุไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยต่อไปในวันพรุ่งนี้”

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ

เรียกร้องถอนแจ้งความ ‘ภูมิธรรม’ เดินหน้าหาทางออกประเทศ

ณัฐพงษ์ ยังย้ำถึงการดำเนินคดีมาตรา 112 กล่าวโทษ ภูมิธรรม โดย สุรทิน พิจารณ์ และการดำเนินคดีกล่าวโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 โดย ศุภชัย ใจสมุทร โดยพรรคประชาชนไม่เห็นด้วยที่ใช้เครื่องมือทางกฎหมายในการดำเนินคดีดังกล่าว ดังนั้น อยากเรียกร้องขอให้ทั้ง2คน ถอนคำกล่าวโทษในการดำเนินคดีดังกล่าว เพื่อสร้างบรรยากาศที่เราสามารถหาทางออกให้กับประเทศได้ เพราะไม่เห็นด้วยกับการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้ง หรือดำเนินการนิติสงครามไม่ว่ากับฝ่ายใด

ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อ ชัยเกษม นิติสิริ โหวตนายกรัฐมนตรีแข่งในวันพรุ่งนี้ มองว่า การดำเนินการของพรรคเพื่อไทยอาจมีการย้อนแย้งในตัวเอง ทั้งที่พรรคเสนอแคนดิเดตนายกฯ แต่กลับมีกระแสข่าวว่ายังดำเนินการเรื่องการยุบสภา เป็นสิ่งที่ต้องเรียกร้องเพื่อขอความชัดเจนจากภูมิธรรม ว่า ตกลงยุติการยื่นยุบสภาแล้วหรือไม่ และได้ยินกระแสข่าวว่ามีการนำความเห็นประกอบเพิ่มเติมไปยังสำนักองคมนตรี จึงต้องการความชัดเจนในตอนนี้ ว่า ยุติการยื่นยุบสภาแล้วหรือไม่ แล้วเดินหน้าสู่กระบวนการโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่

พร้อมย้ำว่า มติของพรรคประชาชนสนับสนุน อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใด ยังยืนยันอย่างหนักแน่นอีกหนึ่งครั้ง ว่ามติของพรรคประชาชนที่รับฟังความเห็นอย่างรอบด้าน ได้ไตร่ตรองและทบทวนอย่างดีแล้ว แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้อยู่ในสภาพสิ่งที่พรรคเห็นว่าอำนาจของรักษาการนายกรัฐมนตรีมีอำนาจในการยุบสภา แต่รัฐบาลยังมีการกระทำที่ย้อนแย้งและเกิดความไม่ชัดเจน จึงต้องการให้มีความชัดเจนก่อน หากรัฐบาลยังคาราคาซังไม่ทำให้เกิดความชัดเจน พรรคประชาชนเห็นว่าควรเดินหน้าโหวตนายกรัฐมนตรีตามวาระในวันพรุ่งนี้

“ในนามพรรคประชาชนแสดงจุดยืนในเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง การที่พรรคประชาชนจะเป็นนั่งร้านตามข้อสังเกตหรือไม่ อยู่ที่การแสดงออกของพรรคประชาชนเองในสภาฯ ซึ่งเป็นการแสดงออกให้เห็นว่า ใช้เสียงที่มีในการกำกับทิศทางทางออกทางการเมืองได้อย่างไร ยอมรับว่า ภายนอกสภาพรรคประชาชนไม่สามารถไปห้ามคนที่จะยื่นฟ้องร้องได้”

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ

หัวหน้าพรรคประชาชน ยังย้ำว่า การเซ็น MOA ระหว่างพรรคประชาชนกับพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้เป็นการร่วมรัฐบาล แต่เมื่อเห็นว่ารัฐบาลทำไม่ถูกต้องขัดกับหลักการก็จะใช้เสียง 143 สส.ในการกำกับทิศทางให้รัฐบาลเดินไปในทิศทางที่คิดว่าถูกต้อง และจากการแถลงข่าวครั้งนี้ เชื่อว่าพรรคภูมิใจไทย และพรรคร่วม จะได้เห็นสัญญาณที่ได้ส่งไป และหากมีกระฝ่าฝืนข้อตกลงก็พร้อมที่จะดำเนินการยื่นอภิปรายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ทันที เช่น การแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมเพื่อล้างคดีให้กับกลุ่มผลประโยชน์พวกพ้องเอง เป็นสิ่งที่ภาคประชาชนยอมรับไม่ได้

ส่วนหลังการเลือกตั้งครั้งใหม่ยังไม่ได้คิดไปไกลว่าจะจับมือกับพรรคการเมืองใด แต่คิดตอนนี้ในการเดินหน้านำไปสู่การยุบสภา พร้อมกับการเปิดประตูสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สิ่งที่เกิดขึ้นจากนั้น คือ การเสนอนโยบายและรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เพื่อให้ได้ สส. ในสภาฯ มากที่สุดถึงบอกได้ว่าหน้าตาของรัฐบาลในอนาคตจะเป็นอย่างไร ตอนนี้สิ่งที่สามารถบอกได้ในนามหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมที่จะลงสนามการเลือกตั้ง และเป้าหมายคือการได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร

10.30 น.
‘ศุภชัย’ ถอนแจ้งความ ม.157 ‘ภูมิธรรม’ ปมยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา

ศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงการไปแจ้งความดำเนินคดี ภูมิธรรม ว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้บรรจุระเบียบวาระให้มีการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีแล้ว นั่นหมายความว่า ความพยายามที่จะยื่นยุบสภาอีกได้ยุติลง ซึ่งประเทศก็จะเดินหน้าต่อไปได้เป็นไปตามครรลองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

จึงตัดสินใจว่า ตนไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดีอาญากับ ภูมิธรรม อีกต่อไป และจะดำเนินการถอนคำร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน

10.50 น.
‘สุรทิน’ ยัน เอาผิด ม.112 ‘ภูมิธรรม’ ไม่มีอำนาจยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา ย้ำ ไม่มีใบสั่งจากใคร

ด้าน สุรทิน พิจารณ์ สส. บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ กล่าวถึงการแจ้งความเอาผิด ภูมิธรรม ในความผิดตามมาตรา 112 กรณียื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา ว่า ตนในฐานะเป็นพสกนิกร มีความรักสถาบัน คิดว่า สิ่งที่ ภูมิธรรม ดำเนินการ เป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท จึงดำเนินการ เพื่อปกป้องสถาบัน ยืนยัน มีความคิดแค่นั้นจริง ๆ

โดยเห็นว่า ภูมิธรรม ไม่มีอำนาจทูลเกล้าฯ ยุบสภา ซึ่งทางเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้แนะนำแล้วว่า ไม่สามารถที่จะยื่นยุบสภาได้ แต่ยังฝ่าฝืนไปดำเนินการ

“การยื่นแจ้งความ ภูมิธรรมไม่ได้คุยกับใคร และไม่ได้สนใจใคร เรื่องยกมือก็เป็นเรื่องของ สส. แต่การไปแจ้งความ ย้ำว่าทำไป เพราะความเป็นพสกนิกรและมีความจงรักภักดีต่อสถาบัน ไม่ได้มีอย่างอื่น ส่วนใครจะมองประเด็นไหนไม่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกของตน ซึ่งตำรวจก็มีการประชุมเรื่องใหญ่ เพราะมีการไปแจ้งความในมาตรา 112 ซึ่งเป็นการดำเนินการตามหน้าที่ของเจ้าพนักงาน และยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่มีใบสั่งจากใคร”

สุรทิน พิจารณ์

11.58 น.
‘เพื่อไทย’ รับการเมืองถึงทางตัน เสนอหากสภาฯ โหวต ‘ชัยเกษม’ นั่งนายกฯ หลังแถลงนโยบายพร้อมยุบสภาทันที

สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล พร้อมด้วย สส. พรรคเพื่อไทยบางส่วน ให้สัมภาษณ์ ยืนยันว่าในการกำหนดนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย. 68) จะส่งชื่อ ชัยเกษม นิติสิริ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 และยืนยันอำนาจหน้าที่มั่นใจว่าอำนาจของ ภูมิธรรม เวชชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีในการยื่นทูลเกล้าฯ ถวายคำแนะนำในการยุบสภาสามารถทำได้ พร้อมยืนยัน ข้อเสนอสุดท้าย ถ้าในวันที่ 5 ก.ย.นี้ มีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี หากเสียงส่วนใหญ่จะมอบความไว้วางใจให้ ชัยเกษม นิติสิริ ซึ่งเป็นแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากเข้าเฝ้าถวายสัตย์ แถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว จะประกาศยุบสภาทันที

สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย

“คือข้อเสนอสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย อะไรจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ก็คอยติดตามดูว่าจะเป็นอย่างไร แต่พรุ่งนี้ยืนยันพรรคเพื่อไทยเสนอชื่ออาจารย์ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย”

สรวงศ์ เทียนทอง

เลขาธิการพรรคเพื่อไทย บอกว่า ไม่ได้เป็นข้อเรียกร้องให้พรรคใดมาสนับสนุน แต่คือสิ่งที่ได้คุยกันแล้วว่า เป็นทางออกที่ดีที่สุดของประเทศในตอนนี้ ซึ่งจากที่มีการพูดคุยกันระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน มีการพูดคุยกันแล้ว แต่ทั้งหมดเดินมาถึงวันนี้ได้ นั้น พรรคเพื่อไทยมีความตั้งใจและความบริสุทธิ์ใจอย่างยิ่ง ที่จะคืนอำนาจให้กับพี่น้องประชาชน วันนี้ยื่นข้อเสนอสุดท้ายให้กับพรรคการเมืองทุกพรรคที่อยู่ในสภาผู้แทนราษฎร

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยป้องกันไม่ให้ อนุทิน ชาญวีรกุล เป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่ สรวงศ์ ระบุว่า แล้วแต่วิจารณญาณของ สส. และในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคน ยืนยันที่จะเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนสุดท้าย คือ ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32

เมื่อถามว่านายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ได้แถลงเมื่อช่วงเช้าต้องการให้ชี้แจงชัดเจนเกี่ยวกับการยุบสภา สรวงศ์ ย้ำว่า มาชี้แจงครั้งนี้ในฐานะนิติบัญญัติ ไม่ทราบว่าขั้นตอนฝ่ายบริหารเป็นอย่างไร แต่ฝ่ายนิติบัญญัติยังต้องเดินต่อ และต้องมองเตรียมความพร้อมในทุกมิติเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ในวันพรุ่งนี้ที่ไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากไม่เตรียมไว้ก็จะอยู่ไม่ได้ แต่ความชัดเจนทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ พรรคเพื่อไทย และรัฐบาลมีความประสงค์เดียวกันคือคืนอำนาจให้กับพี่น้องประชาชนอย่างชัดเจน

เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวว่า ไม่มีเกมอะไรทั้งสิ้นในสภาฯ ในการยื้อกันโหวตนายกรัฐมนตรี หากถึงเวลา ก็ยืนยันที่จะเสนอชื่อชัยเกษม และยอมรับว่าการดำเนินการของพรรคเพื่อไทยทุกอย่างสามารถที่จะทบทวนได้ และมองว่า MOU ต่าง ๆ ที่ทำไป ทางฝั่งไทยก็มีหน้าที่ทำงาน ซึ่งในวันที่ไปพูดคุยในวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยก็พร้อมที่จะลงนามกับพรรคประชาชน แต่เมื่อเป็นเช่นนี้พรรคเพื่อไทยก็ต้องมีทางออก และมั่นใจไม่มีสายไปแน่นอน

12.10
‘สุรทิน -ไทกร’ ถอนแจ้งความ ‘ภูมิธรรม’ ม.112

ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และ สุรทิน พิจารณ์ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการถอนแจ้งความ ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในความผิดมาตรา 112 จากกรณีพยายามยื่นทูลเกล้าฯ ถวายพระราชกฤษฎีกายุบสภา

ไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และ สุรทิน พิจารณ์ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่

โดยย้ำสาเหตุที่ถอนแจ้งความเพราะได้เห็นหนังสือที่ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เรียกประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้มีการเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย. 68) และในวันนี้ ภูมิธรรมก็ได้ยกเลิกภารกิจทั้งหมด ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ภูมิธรรมไม่ได้มีความพยายามที่จะยื่นทูลเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกายุบสภา ครั้งที่ 2 จึงต้องการให้โอกาส ภูมิธรรม และ อยากให้การเมืองไทยดำเนินไปตามขั้นตอน จึงเข้ามาถอนแจ้งความ

ขณะที่ สุรทิน ยืนยันว่า การถอนแจ้งความในวันนี้ ไม่ได้รับคำสั่งจากใครแต่ทำไปเพราะต้องการให้บ้านเมืองได้เดินหน้าต่อ และเพื่อให้ทุกฝ่าย เกิดความสบายใจ ก่อนจะมีการคัดเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้

13.00 น.
‘ภูมิธรรม’ ย้ำ เดินหน้า เสนอ ‘ชัยเกษม’ เป็นนายกฯ ยุบสภาทันที ไม่ต้องรอ 4 เดือน

ภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังออกแถลงการณ์หนุน ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยยืนยันด้วยว่า หาก ชัยเกษม เป็นนายกรัฐมนตรี ตามที่ได้รับเลือกจากสภาผู้แทนราษฎร จะดำเนินการยุบสภาทันที ไม่ต้องรอ 4 เดือน เพื่อให้กระบวนการประชาธิปไตยเดินหน้า และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ นี่คือจุดยืนที่ชัดเจน และได้พูดคุยกับ ชัยเกษม เรียบร้อยแล้ว

ภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี

ภูมิธรรม ย้ำว่า เรื่องยุบสภาก็ชัดเจนแล้ว ถ้าโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีก็ไม่จำเป็นต้องใช้ช่องทางนั้น หาก ชัยเกษม เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เมื่อโปรดเกล้าฯ ก็มีอำนาจยุบสภาได้ทันที เพื่อแก้วิกฤตทางการเมือง เพราะฉะนั้นก็จะไม่ไปก้าวล่วง

เมื่อถามย้ำว่าได้ประสานไปยังพรรคประชาชนแล้วหรือไม่ ภูมิธรรม บอกว่า เป็นจุดยืนของพรรคเพื่อไทย ที่บอกไปแล้ว 2 เรื่อง การเลือกตั้งอยากให้เกิดขึ้นทันที ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปตามครรลองของประชาธิปไตย ส่วนจะตัดสินใจอย่างไรก็ยินดี

“พรรคเพื่อไทยบอกไปแล้ว ว่า ถ้าจะเลือกเรากลับมา เรายืนยันที่จะยุบสภาทันที และเลือกตั้งใหม่ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ไม่ต้องไปก้าวล่วงหรือทำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาแล้ว”

ภูมิธรรม เวชยชัย

ภูมิธรรม ย้ำอีกว่า ได้ประกาศจุดยืนชัดเจนแล้ว และเป็นเอกสิทธิ์ของ สส.พรรคการเมืองทุกพรรค ที่จะตัดสินใจอย่างไรก็ได้ แต่ขอให้รับผิดชอบกับสิ่งที่ตนเองตัดสินใจ

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active