ย้ำ ลาออกก่อนวาระเปลืองงบฯ จัดเลือกตั้ง เดินหน้าเสนอ งบฯ ปี 2569 เน้นจัดสรรลงพื้นที่เขตมากขึ้น รับนโยบายเส้นเลือดฝอย สร้าง ปรับปรุงถนน พัฒนาเส้นเลือดใหญ่ สร้าง รพ.ใหม่ ติดเซ็นเซอร์วัดแผ่นดินไหวอาคารสูง เตรียมพร้อมรับน้ำเหนือ-พายุ เชื่อ สถานการณ์ไม่รุนแรงเท่าปี 2554
วันนี้ (12 ก.ย. 68) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปี 2568 โดยเป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่ 2 และวาระที่ 3 ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน
สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้
เตรียมพร้อมรับน้ำเหนือ-พายุ
ส่วนเรื่องปัญหาน้ำท่วมตอนนี้ ผู้ว่า ฯ กทม. ยอมรับว่า กังวลเนื่องจากน้ำเหนือมีจำนวนมาก จากเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งปริมาณน้ำเกือบเทียบเท่าปี 2554 แต่ปีนี้มีการประสานงานระหว่างกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการบริหารจัดการน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์หากมีพายุเข้ามาอีก สถานการณ์น่าจะไม่รุนแรงเท่าปี 2554
ในส่วนของ กทม. ได้ตรวจแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาและแก้ปัญหาฟันหลอ 10 จุด โดยการวางแนวกระสอบทราย ป้องกันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาล้นเข้ากระทบชุมชนริมแนวคันกั้นน้ำ รวมถึงตรวจแนวคันกั้นน้ำจากพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง กทม. อาทิ คลองรังสิต คลองมหาสวัสดิ์ เพื่อป้องกันผลกระทบจากน้ำแนวด้านบนของ กทม. โดยได้หารือกับจังหวัดข้างเคียงอย่างต่อเนื่องเพื่อร่วมกันบริหารจัดการน้ำ เช่น สมุทรปราการ และนนทบุรี รวมถึงขณะนี้ฝนได้ทิ้งช่วงมา 3 วันแล้ว ทำให้การระบายน้ำในจุดที่ยังได้รับผลกระทบอยู่สามารถระบายน้ำได้ดีขึ้น
ย้ำ ไม่ลาออก ผู้ว่าฯ กทม.
สำหรับกระแสข่าวว่าจะลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. นั้น ชัชชาติ ยืนยัน ไม่เคยคิดไว้ เนื่องจากหากลาออกก่อนวาระจะสิ้นเปลืองงบประมาณในการจัดการเลือกตั้ง และจะไม่สอดคล้องกับการเลือกตั้ง ส.ก. ด้วย นอกจากนี้จะทำให้การทำงานของผู้ว่าฯ กทม. กับ ส.ก. เป็นคนละชุด คนละช่วงกัน เพราะต้องจัดการเลือกตั้ง 2 ครั้ง
