เปิดข้อสังเกต-ข้อเสนอ รายงาน ‘กมธ.สันติภาพชายแดนใต้’ หวังสภาฯ ไฟเขียว ชงทุกฝ่ายดับไฟใต้ยั่งยืน

ย้ำ ผลศึกษาจริงจัง 2 ปีเต็ม ได้รายงานที่สมบูรณ์ พร้อมข้อค้นพบ ข้อสังเกต 9 ประเด็นสำคัญ สู่แนวทางข้อเสนอส่งถึงรัฐบาล และหลายงาน นำไปสู่การปฏิบัติได้จริง เน้นย้ำ เจตจำนงการเมือง ตัวกำหนดกลไกสันติภาพ สร้างหลักประกันความปลอดภัยแก่ประชาชน ฟื้นความเชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรม เยียวยา เคารพอัตลักษณ์ ความแตกต่าง คาดหวัง ‘รบ.อนุทิน’ บรรจุ ข้อเสนอดับไฟใต้ อยู่ในคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา   

เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 68 จาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษา และเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการ สร้างสันติภาพ เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กมธ.สันติภาพชายแดนใต้) เปิดเผยถึงข้อสรุป และข้อค้นพบจากการศึกษาของ กมธ.สันติภาพชายแดนใต้ ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปีเต็ม ทั้งนี้ กมธ.สันติภาพชายแดนใต้ ได้ศึกษาแล้วมีข้อสังเกต ที่แบ่งเป็น 9 ประเด็นสำคัญ

จาตุรนต์ ฉายแสง ประธาน กมธ.สันติภาพชายแดนใต้

การแสดงเจตจำนงทางการเมืองและการกำหนดกลไกในการสร้างสันติภาพ

เช่น เสนอให้ นายกรัฐมนตรีแสดงเจตจำนงทางการเมืองที่ชัดเจนต่อสาธารณะ ด้วยการออกคำสั่งทางบริหารจัดทำยุทธศาสตร์การสร้างสันติภาพเป็นหลักในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้

เสนอให้รัฐบาลรับรองอัตลักษณ์วัฒนธรรมที่หลากหลายในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดย สนับสนุนการมีพื้นที่สาธารณะให้ประชาชนทุกกลุ่ม

ตั้งศูนย์บูรณาการการสร้างสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ภายใต้คำสั่ง สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นกลไกหลักในการกำหนดทิศทางนโยบายและยุทธศาสตร์

เสนอให้รัฐบาลมุ่งส่งเสริมให้มีกระบวนการที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย และให้รัฐบาลเปิดพื้นที่ให้ประชาชนทุกภาคส่วนสามารถใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดง ความคิดเห็น การเรียกร้อง หรือการเคลื่อนไหวแสดงออกทางสังคมการเมืองในฐานะที่เป็นปัจจัยเกื้อหนุนต่อการสร้างสันติภาพ

การสร้างหลักประกันความปลอดภัยแก่ประชาชน

เช่น ให้รัฐบาลเร่งพัฒนาขีดความสามารถในการดูแลรักษาความปลอดภัยและปกป้อง คุ้มครองประชาชนทั้งระบบ

ให้รัฐบาลเร่งพูดคุยเจรจากับทุกฝ่ายเพื่อยุติเหตุรุนแรงโดยสร้างพื้นที่ปลอดภัยที่ประชาชนได้มีส่วนร่วม

ให้ กอ.รมน.สร้าง ความรู้สึกปลอดภัยให้ประชาชนเพื่อสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมกับการแก้ไขปัญหา

การฟื้นคืนความเชื่อมั่นในการอำนวยความยุติธรรมและการเยียวยา

เช่น เสนอให้รัฐบาลจัดตั้งคณะทำงานติดตามประเมินผลการบังคับใช้กฎหมายและการ ดำเนินคดีตามขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมให้เป็นไปตามหลักนิติธรรม

เสนอให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการอิสระค้นหาข้อเท็จจริงของเหตุการณ์รุนแรงที่กระทบ ความรู้สึกของสังคม (Fact-finding Commission)

การเคารพ ยอมรับอัตลักษณ์ และประวัติศาสตร์ที่หลากหลายของทุกกลุ่มวัฒนธรรม

เช่น เสนอให้กระทรวงวัฒนธรรม สนับสนุนภาควิชาการร่วมกับภาคประชาชนในพื้นที่จัดตั้ง “สถาบันอนุรักษ์มรดกทางภาษาและวัฒนธรรม” 

การส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนในพหุสังคม

เช่น ให้กระทรวงศึกษาธิการจัดการศึกษาที่ส่งเสริมการเรียนรู้ระหว่างวัฒนธรรม 

เสนอให้สภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้และองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นจัดให้มีพื้นที่กลางในการสร้างปฏิสัมพันธ์และการสานเสวนาที่ปลอดภัย ระหว่างผู้คนต่างศาสนา ชาติพันธุ์ และวัฒนธรรมที่หลากหลายในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น 

การแก้ปัญหาการรวมศูนย์อำนาจ การกระจายอำนาจ และการเพิ่มอำนาจให้ประชาชนตามหลัก แห่งการปกครองตนเองภายใต้รัฐธรรมนูญ

เช่น เสนอให้รัฐบาลตั้ง “คณะกรรมการศึกษาแนวทางการกระจายอำนาจและรูปแบบ การเมืองการปกครองที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้” ทำหน้าที่ศึกษาและ จัดกระบวนการรับฟังความคิดเห็นประชาชนต่อแนวทางและรูปแบบการกระจายอำนาจที่เหมาะสม ตามเจตนารมณ์ของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้และสอดคล้องกับบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 มาตรา 249 ว่าด้วย “หลักแห่งการปกครองตนเอง” (Constitutional Principle of Self-government) และการคุ้มครองชาติพันธุ์ตามมาตรา 70 

การพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและการศึกษา

เช่น เสนอให้รัฐบาลส่งเสริมให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย วาง แผนการพัฒนาเศรษฐกิจ และจัดการทรัพยากรในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้สอดคล้องกับ ศักยภาพของท้องถิ่นและความต้องการของประชาชน 

เสนอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของประชาชนที่รัฐประกาศพื้นที่ทับซ้อน

ให้กระทรวงศึกษาธิการส่งเสริมให้มีการจัดการศึกษาสำหรับเด็กปฐมวัย (Early Childhood Education) แบบทวิภาษาบนฐานของภาษาแม่ (มลายูปาตานี) ในสถานศึกษาทั้ง ของรัฐและเอกชน และให้บรรจุ “วิชาภาษามลายู” เป็นวิชาเรียนหนึ่งในหลักสูตร การศึกษาขั้นพื้นฐานเพิ่มเติมจาก “วิชาภาษาไทย” 

การแสวงหาทางออกทางการเมืองด้วยกระบวนการสันติภาพ

เช่น ให้รัฐบาลตั้งหัวหน้าคณะพูดคุยเจรจาเพื่อสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เป็นพลเรือน 

เสนอให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จัดโครงสร้างของกระบวนการสันติภาพใหม่ (Peace Infrastructure) โดย

  • กำหนดยุทธศาสตร์ให้ขบวนการปลดปล่อยปาตานี หรือผู้เห็นต่างจากรัฐทุกกลุ่มได้เข้าร่วมกระบวนการพูดคุย
  • จัดให้มีคณะผู้สังเกตการณ์กระบวนการ สันติภาพซึ่งมีบุคคลจากทั้งในและต่างประเทศที่หลากหลายเพื่อร่วมรับรู้ เสนอแนะ และสนับสนุนการ ดำเนินการกระบวนการสันติภาพในภาพรวม
  • จัดให้มีกลไกหลักในการจัดการปรึกษาหารือสาธารณะ
  • กำหนดบทบาทที่ เหมาะสมของผู้อำนวยความสะดวก และ กำหนดแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนกระบวนการสันติภาพ 

การติดตามตรวจสอบและสนับสนุนการสร้างสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ของสภา ผู้แทนราษฎร

เช่น เสนอให้สภาผู้แทนราษฎรทบทวนปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือจัดทำกฎหมายฉบับ ใหม่ให้สอดคล้องกับการสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนลดเงื่อนไขการบังคับใช้ กฎหมายเฉพาะที่ส่งผลกระทบต่อการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 

เสนอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้ง “คณะกรรมาธิการสามัญการสร้างสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้” เพื่อกำกับติดตามและให้ข้อเสนอแนะต่อการสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 

จาตุรนต์ ยอมรับว่า ตอนนี้รายงานผลการศึกษาของ กมธ.ยังรอคิวเข้ารายงานต่อสภาฯ แม้เหลือเวลาน้อย แต่ยืนยันพยายามจะเร่งให้ทัน โดยจะเจรจาพรรคการเมืองขอให้นำเรื่องนี้เลื่อนขึ้นมาพิจารณาให้เร็วขึ้น แต่ถึงจะได้เข้าสภาฯ ก็ไม่รู้ว่าจะผ่านไหม ซึ่งการได้รับความเห็นชอบจากสภาฯ ถือว่าน่าสนใจ ที่จะต้องพยายามสื่อสารให้ สส. และพรรคการเมืองต่าง ๆ เห็นชอบรายงานฉบับนี้ให้ได้

“เราจะต้องพยายามสร้างความเข้าใจให้พรรคการเมืองต่าง ๆ สนับสนุน ประเด็นสำคัญคือการแก้ปัญหาชายแดนใต้ต้องอาศัยความเข้าใจของประชาชนในวงกว้าง ซึ่งสภาฯ คือตัวแทนประชาชนทั้งประเทศ จะทำอย่างไรให้ประชาชนทั้งประเทศเข้าใจ ว่าข้อเสนอ ข้อค้นพบหลายอย่างจะเป็นประโยชน์ นำไปสู่การแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ต้องอาศัยความร่วมมือของประชาชน โดยการพูดคุยก็ต้องส่งเสริมให้ภาคประชาสังคม มีพลังมากขึ้น ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาความขัดแย้ง ต้องให้ภาคประชาชน มีบทบาทมากขึ้น เปิดพื้นที่ทางการเมือง ส่งเสริมสันติวิธี ให้ประชาชนทั่วประเทศเข้าใจมากกว่านี้ ต้องสื่อสารให้คนทั้งสังคมเข้าใจ การอยู่ร่วมกัน แม้ว่าวัฒนธรรม ความคิดเห็นจะต่างกัน ต้องมองว่า คิดต่างกันได้ แต่ต่างคนต่างต้องการพัฒนาประเทศไทยได้เหมือนกัน”

จาตุรนต์ ฉายแสง

ชงข้อเสนอแก้ปัญหาชายแดนใต้ บรรจุในคำแถลงนโยบายรัฐบาล

พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา กมธ.สันติภาพชายแดนใต้ ในฐานะของสมาชิกพรรคภูมิใจไทย คาดหวังว่าข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ จะถูกบรรจุอยู่ในการแถลงนโยบายของรัฐบาล นายกฯ อนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งส่วนตัวในฐานะที่ขับเคลื่อนเรื่องนี้ ก็อยากให้มีเรื่องของชายแดนใต้อยู่ในนโยบายของรัฐบาลนี้ 

“ในฐานะมาจากพรรคภูมิใจไทย วันอังคารนี้ (23 ก.ย. 68) จะประชุมพรรค หนึ่งในข้อเสนอในฐานะสมาชิกพรรค คือ เรื่องชายแดนใต้ต้องบรรจุในนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งส่งข้อเสนอไปเกือบทุกมิติ ยอมรับว่า ความหวังมีอยู่ทุกรัฐบาล และรายงานของ กมธ.สันติภาพชายแดนใต้ฉบับนี้ ต้องบอกว่าเป็นรายงานที่สมบูรณ์ที่สุด” 

พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา


Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active