‘ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี’ วิเคราะห์บทบาท ‘พล.อ. สมศักดิ์ รุ่งสิตา’ หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขคนใหม่ หลังกระบวนการหยุดชะงักมาเป็นปี ชี้ แม้เป็นสายทหาร ไม่ใช่พลเรือน แต่ได้แรงหนุนคนใน สมช. หวังเดินหน้าสันติภาพตามหลักสากล ไร้อคติ เชื่อเวลาแค่ 4 เดือน ทำอะไรไม่ได้มาก แต่ขอให้ชัดเจนสิ่งที่เคยคุยไว้ JCPP ไปต่อหรือไม่

จากกรณีที่ประชุม สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เห็นชอบแต่งตั้ง พล.อ. สมศักดิ์  รุ่งสิตา อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็น หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ คนใหม่ เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนกระบวนการสร้างสันติสุขในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยทางเพจ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ระบุว่า การแต่งตั้งครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย “สันติวิธี” โดยเน้น การพูดคุย เจรจา และมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนของสังคม ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน และกลุ่มต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ผศ.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ ให้ความเห็นเรื่องนี้กับ Thai PBS ศูนย์ข่าวภาคใต้ ว่า การแต่งตั้ง พล.อ. สมศักดิ์ รุ่งสิตา เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขคนใหม่ หลังการพูดคุยสันติสุขกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ในสมัยรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร หยุดชะงักมานานกว่า 1 ปี ถือเป็นการเดินเกมไว สำหรับรัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งแม้ พล.อ. สมศักดิ์ จะเป็นสายทหาร ไม่ใช่พลเรือน เหมือนหัวหน้าคนเก่า คือ ฉัตรชัย บางชวด แต่เชื่อว่า พล.อ. สมศักดิ์ ก็ได้รับแรงหนุนจากคนใน สมช.ที่อยู่ในกระบวนการสันติภาพมาตลอด และหากย้อนดูหัวหน้าคณะพูดคุยหลายคนก่อนหน้านี้ ล้วนมาจากกองทัพ จึงอาจมีความได้เปรียบเรื่องข้อมูล ที่จะทำอะไรได้ต่อ ในเรื่องของสันติภาพตามหลักสากลให้เหมาะสมกับพื้นที่ โดยไม่มีอคติ

“4 เดือนนี้ แม้จะทำอะไรไม่ได้มาก อาจได้พบปะกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ครั้งหรือ สองครั้ง อาจทำได้แค่ทบทวนสิ่งที่เคยคุยกัน เช่น แผนปฎิบัติการร่วมเพื่อสร้างสันติสุขแบบองค์รวม หรือ JCPP ว่าเดินหน้า หรือหยุด หรือ จะปรับเปลี่ยนหรือไม่ แต่การแต่งตั้งหัวหน้าคณะพูดคุยทันที ก็เป็นการสะท้อนเชิงสัญลักษณ์ รัฐบาลจะเดินหน้าในเส้นทางนี้ “

ผศ.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี

ผอ.ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ บอกด้วยว่า ใน 1 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลเพื่อไทย มีช่องว่างจริง ๆ ที่ไม่ดำเนินการใด ๆ ให้ชัดเจนในนโยบายชายแดนภาคใต้ จึงทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เมื่อรัฐบาลนี้เข้ามาก็แต่งตั้งทันที ซึ่งอาจอยากแสดงให้เห็นว่า เกาถูกที่คันแล้ว แน่นอนว่า 4 เดือนอาจทำอะไรไม่ได้มาก แต่การมีหัวหน้าคณะพูดคุยคนใหม่ ก็แสดงให้เห็นเจตจำนงของรัฐบาลต่อการแก้ปัญหาภาคใต้ และอาจจะส่งผลดีต่อฐานเสียงของพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ภาคใต้ด้วย

ส่วนที่ประชุม สมช.เมื่อวานนี้ ซึ่งได้เห็นชอบร่างนโยบายการบริหารและการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ในช่วง 3 ปีตั้งแต่ปี 2568-2570 ตามวงรอบที่กฎหมายกำหนด เป็นนโยบายที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ผศ.ศรีสมภพ มองว่า เป็นเรื่องดี เพราะในมิติของการพัฒนา ต้องทำควบคู่ไปกับการสร้างสันติภาพ

มีรายงานด้วยว่า ก่อน พล.อ. สมศักดิ์ รุ่งสิตา จะได้เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขฝ่ายไทย ในสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย มีชื่อของ พล.อ. นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ถูกคาดการณ์ว่าจะนั่งเก้าอี้หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข ต่อจาก ฉัตรชัย บางชวด

โดย พล.อ.สมศักดิ์ มีสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับ พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และกลายเป็นหัวคณะพูดคุยสันติสุข ชุดที่ 6 นับตั้งแต่กระบวนการพูดคุยสันติสุขได้เริ่มขึ้นเมื่อปี 2556 ในสมัยของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร