เชื่อ ‘กฎหมายอากาศสะอาด’ บีบคนไม่กล้าเผา ฝ่าฝืนโดนเก็บภาษีบาป

‘กมธ.อากาศสะอาด’ ห่วงสุขภาพเด็ก และประชาชน หลังเหตุการณ์นักเรียน จ.ลพบุรี วิ่งหนีควันเผาอ้อย พัดเข้าโรงเรียน คาดหวัง กฎหมายเปลี่ยนแปลงชีวิตความเป็นอยู่ จัดการผู้ก่อมลพิษ

วันนี้ (23 ก.พ.67) ที่อาคารรัฐสภา คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. …. (กมธ.อากาศสะอาด) นัดประชุมเพื่อพิจารณากฎหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาเสนอความเห็นรายมาตรา ในหมวดที่ 3 การบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด และ หมวดที่ 4 การลดและการควบคุมมลพิษทางอากาศจากแหล่งกำเนิด

The Active พูดคุยกับกรรมาธิการฯ ถึงกรณีที่ผู้ใช้ TikTok @1578เดลิวเวอรี่ เผยแพร่คลิปเหตุการณ์ขณะที่เด็กนักเรียน โรงเรียนซอย 3 สาย 4 ซ้าย ต.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี หลายร้อยคน กำลังวิ่งหนีออกจากโรงเรียน หลังมีฝุ่นควันจำนวนมากลอยอยู่เต็มในพื้นที่โรงเรียน

จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ประธาน กมธ.อากาศสะอาด เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมองเห็นหลายประเด็น คือ เรื่องอากาศบริสุทธิ์ที่พึงได้ของเด็กนักเรียน และประชาชนในพื้นที่ ซึ่งการเผาแบบนี้มองว่า บางครั้งเมื่อเกิดการลุกลามจะควบคุมได้ยาก ซึ่งต้องย้อนไปหาต้นเหตุว่าเป้าประสงค์คืออะไร ต้องการลดต้นทุน หรือไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่กระจายไปทั่วเช่นนี้

จักรพล ตั้งสุทธิธรรม

“กรณีนี้สำหรับน้อง ๆ หนู ๆ อาจไม่ใช่แค่ผลกระทบด้านจิตใจ แต่เราต้องมองถึงระยะยาว และสุขภาพเขาด้วย อยากจะวิงวอนช่วยกัน ขอความเห็นใจให้น้อง ๆ ผู้ปกครอง ผู้สูงอายุ กลุ่มเปราะบาง และฝากในภาคของผู้ประกอบกิจการ อยากให้คิดเยอะ ๆ หน่อยว่าสิ่งที่คุณทำมันลดต้นทุนได้จริงหรือ มันส่งผลกระทบแค่ไหน ในฐานะที่ทำงานด้านนี้เช่นกัน ฝ่ายบริหารประเทศ จะเร่งดำเนินการเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้”

จักรพล ตั้งสุทธิธรรม

ประธาน กมธ.อากาศสะอาด เชื่อว่า หากกฎหมายอากาศสะอาดแล้วเสร็จ จะเป็นเครื่องมือที่บีบให้นายทุน หรือสิ่งเหล่านี้ไม่ให้เกิดขึ้นทำให้คนไม่กล้าเผา เนื่องจากกฎหมายระบุ “เมื่อเผาเขาก็จะโดนภาษีบาป” ในการเข้าไปควบคุม และจัดการผู้ที่ทำให้เกิดมลพิษ โดยมีกองทุน เพื่อรักษาสุขภาพ และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากมลพิษ เงินจะย้อนกลับมาช่วยเหลือน้องนักเรียน จะสร้างห้องปลอดฝุ่น หรืออื่น ๆ

ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์

ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล ในฐานะ กมธ.อากาศสะอาดฯ บอกว่า สถานการณ์แบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้น โดยเฉพาะในสถานศึกษา ภาพนี้ชัดเจนว่ามีการเผาอ้อย แต่ไม่แน่ใจว่าเกิดจากอุบัติเหตุ หรือเป็นความตั้งใจ เชื่อว่าถ้ามีกฎหมายอากาศสะอาด ก็จะสามารถที่จะบังคับใช้ในกรณีนี้ได้

“แต่อย่างไรก็ตามจะต้องมีผู้รับผิดชอบ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกฎหมายหรือว่าใครอาจไม่สามารถห้ามไม่ให้เกิดได้ แต่สามารถนำไปบังคับใช้ และเป็นกรณีตัวอย่างให้เห็นได้ว่าต่อไปถ้าคุณทำแบบนี้จะได้รับผลอะไร”

ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์

ขณะที่ ศ.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองประธาน กมธ.อากาศสะอาด คนที่ 6 ก็มองว่า เหตุการณ์แบบนี้น่ากลัวมาก และจริง ๆ ไม่ต้องรอกฎหมาย แต่ทางจังหวัด หรือผู้บริหารประเทศสามารถจัดการได้ทันที

ศ.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์

ในส่วนของ ร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาดฯ ที่กรรมาธิการฯ ซึ่งมีทั้งภาคประชาชน ภาครัฐ กำลังช่วยกันพิจารณา เป็นร่างกฎหมายที่ทุกฝ่ายตั้งใจ เพราะมลพิษทางอากาศอันตราย และทำให้เสียชีวิตได้จริง ซึ่งประเทศไทยดูแลเรื่องนี้น้อยไป หวังว่ากฎหมายฉบับนี้ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงทำให้ทุกคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ต้องสูดควันพิษ หรือตายผ่อนส่ง

“สิทธิในการหายใจอากาศบริสุทธิ์ เป็นสิทธิของทุกคน รู้ว่าเด็ก ๆ ทำอะไรไม่ได้ เพราะว่าเขาเผากันขนาดนี้ หรืออย่างในกรุงเทพฯ รถควันดำก็มาก โดยเฉพาะหน้าโรงเรียน ผมจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ในฐานะคนที่เป็นคณะกรรมาธิการ และในฐานะของคนที่มีลูก อยากให้ลูก ๆ ทุกคนอยู่ในประเทศที่อากาศสดชื่นมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดครับ”

ศ.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์

ล่าสุดมีรายงานว่า สถานการณ์ที่โรงเรียนดังกล่าว กลับมาเปิดการเรียนการสอนตามปกติแล้ว โดยผู้อำนวยการโรงเรียน เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุมีชาวบ้านมาตกปลาในบ่อน้ำหลังโรงเรียน แล้วจุดกองไฟ ทำให้ไฟลามไปที่ไร่อ้อยใกล้กับโรงเรียน จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active