‘ชาวไร่อ้อย’ วอน อย่าโยนบาปต้นตอฝุ่น PM2.5

ยอมรับเผาอ้อยสร้างฝุ่นจริง แต่ไม่ใช่ทั้งหมดของปัญหา ยันที่ผ่านมาให้ความร่วมมือ ลดเผามาตลอด จนเหลือไม่ถึง 10% ซัดภาคอุตสาหกรรมตัวการใหญ่ จี้รัฐเร่งออกมาตรการตรวจสอบทั้งระบบ

วันนี้ (11 ก.พ. 68) ผู้สื่อข่าว Thai PBS รายงานว่า กลุ่มสมาพันธ์ชาวไร่อ้อย กว่า 300 คน จากหลายจังหวัดมารวมตัวกันที่ข้างกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่ได้รับผลกระทบจากการตกเป็นจำเลยของต้นตอการปล่อยฝุ่น PM2.5 จากการเผาอ้อย

กำธร กิตติโชติทรัพย์ ประธานที่ปรึกษาสมาพันธ์ชาวไร่อ้อย ยอมรับว่า การเผาอ้อยเป็น 1 ในต้นตอของปัญหา เพียงแต่เป็นส่วนน้อย ประมาณ 1% เท่านั้น และที่ผ่านมาก็ให้ความร่วมมือรับลดการเผาอ้อยมาโดยตลอด ปัจุบันปีนี้มีปริมาณอ้อยไฟไหม้ไม่ถึงร้อยละ 10 ส่วนปริมาณอ้อยไฟไหม้สะสมมีไม่ถึงร้อยละ 15 ที่อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศมากกว่าปีละ 200,000 ล้านบาท แต่พอเกิดปัญหาฝุ่น กลับถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นตอของสาเหตุ โดยเฉพาะช่วงต้นปี 2568 ที่มีการออกประกาศ ให้โรงงานและชาวไร่อ้อยหยุดเผา เพื่อคืนอากาศบริสุทธิ์ให้กับเด็กและเยาวชน ซึ่งมองว่า ชาวไร่อ้อยไม่ได้รับความเป็นธรรมกับเรื่องนี้

นอกจากนี้ สมาพันธ์ชาวไร่อ้อย ยังยืนยันว่า ปัญหาฝุ่น PM2.5 ไม่ได้มาจากการเผาอ้อยเพียงอย่างเดียว แต่กระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ก็เป็นต้นตอของสาเหตุการปล่อยมลพิษทางอากาศเช่นกัน และมีปริมาณมลพิษมากกว่าการเผาอ้อยทั้งประเทศ จึงอยากขอความเป็นธรรม และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการที่ชัดเจนเพื่อลดปริมาณการปล่อยมลพิษกับทุกสาขาอาชีพให้มีความเท่าเทียมกัน

ขณะเดียวกัน ชาวไร่อ้อย ยังได้จัดเตรียมเอกสารคำชี้แจง และข้อเสนอแนวทางการแก้ปัญหาในระยะยาวร่วมกันระหว่างภาครัฐและเกษตรกร เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ที่จะเกิดขึ้นในครั้งถัดไปแล้ว แต่ยอมรับว่า ไม่รู้จะมีการจัดประชุมเมื่อใด

พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ตามระเบียบแล้วจะต้องประชุม เดือนละ 1 ครั้ง โดยส่งวาระการประชุมให้กับสมาชิกล่วงหน้า 5 – 6 วัน แต่ในปีที่ผ่านมาเรียกประชุมทั้งปีไม่เกิน 5 ครั้ง ครั้งล่าสุด คือช่วงเดือนตุลาคม ปี 2567 ซึ่งชาวไร่อ้อยยื่นหนังสือขอให้จัดประชุม

นอกจากนี้ ชาวไร่อ้อย ยังเรียกร้องไปถึงนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เร่งรัดอนุมัติ เงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อย 120 บาท ต่อตันอ้อยจากการขายอ้อยสด ลดเผาใบอ้อย ให้กับชาวไร่อ้อยโดยเร็วที่สุด เนื่องจากปัจจุบัน ต้นทุนการปลูกอ้อย เพื่อผลิตน้ำตาลสูงขึ้นอยู่ที่ตันละ 1,360 บาท แต่กลับขายได้เพียง  1,160 บาท ทำให้ขาดทุน จากปีก่อนที่ขายได้ตันละกว่า 1,420 บาท ทำให้ชาวไร่อ้อยต้องแบกรับภาวะขาดทุน

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active