ชาวบ้านหนองพะวา เผย ‘เอกนัฏ’ รับปากมีแผนจัดการสารเคมีในโรงงานแล้ว แต่ยังกังวลผลผลิตทางเกษตรราคาตก แม้มีหน่วยงานตรวจสอบดิน พบสารตกค้างไม่เกินมาตรฐาน
เหตุการณ์ไฟไหม้โกดังเก็บกากอุตสาหกรรมของโรงงาน บริษัท วิน โพรเสส เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 67 นำไปสู่การตั้งคำถามมากมายต่อมาตรการรัฐ ตั้งแต่มาตรฐานการอนุมัติ อนุญาตตั้งโรงงาน ไปจนถึงการฟื้นฟู เยียวยาผลกระทบจากการปนเปื้อนของมลพิษในสิ่งแวดล้อมที่ชาวบ้านหนองพะวา ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ยังต้องเผชิญอยู่ จนถึงวันนี้ผ่านมาครบ 1 ปีแล้ว เห็นความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาบ้างหรือไม่ ?

เทียบ สมานมิตร ชาวบ้านหนองพะวา เจ้าของที่ดินติดกับโรงงาน เปิดเผยกับ The Active โดยระบุสิ่งที่หน่วยงานรัฐทำสำเร็จเพียงเรื่องเดียว คือ การขนย้าย ‘อะลูมิเนียมดรอส’ ออกจากพื้นที่ ขณะที่ปัญหาด้านอื่น ๆ ยังไม่ถูกแก้ไข เงินชดเชยที่ชาวบ้านจะได้รับจากการฟ้องร้องบริษัทก็เริ่มหมดหวังว่าจะได้ เพราะเจ้าของบริษัทเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งนอกจากเงินเยียวยาของภาครัฐครอบครัวละ 3,000 บาท ที่จ่ายให้กับชาวบ้านหนองพะวา หลังเกิดเหตุเขาก็ไม่เคยได้รับความช่วยเหลืออื่น ๆ อีกเลย
เทียบ ระบุอีกว่า ก่อนหน้านี้ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ลงพื้นที่ และแจ้งว่าจะมีการแก้ไขกฎหมายอย่างจริงจังในการปิดช่องทางให้เกิดโรงงานแบบนี้ รวมทั้งมีแผนจัดการสารเคมีทั้งหมด และการบำบัดน้ำเสียในโรงงาน แต่ตอนนี้ยอมรับว่าความหวังของชาวบ้านเริ่มน้อยลง เพราะช่วงหลังมานี้เงียบไป ซึ่งเข้าใจว่าอาจจะติดภารกิจอื่น
“สิ่งที่อยากให้ทำ คือ ทำตามแผนที่พูดไว้ พฤษภาคมนี้ อยากให้ได้งบประมาณกลาง ที่รับปากกับประชาชน ว่าขอไป 40 ล้านบาท ตอนนี้เงียบไปเลย ชาวบ้านยังรอคอย เพราะท่านบอกว่านายกฯ โอเค เพราะตอนนี้ความเคลื่อนไหวในเรื่องการจะเอาผิดกับโรงงานทำได้ยากแล้ว ทั้งหน่วยงานที่ฟ้อง อย่าง อบต. กรมควบคุมมลพิษ ก็เงียบกันไปหมด”
เทียบ สมานมิตร

ตรวจการปนเปื้อนในดิน ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่กระทบผลผลิต
ขณะที่ปัญหาเรื่องพื้นที่เกษตรนั้น เทียบ ยอมรับว่า ตอนนี้ต้นไม้เริ่มฟื้นตัวแล้ว และล่าสุด สำนักวิทยาศาสตร์เพื่อการพัฒนาที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน ได้เข้ามาขุดดินใต้โคนต้นไม้ ทั้ง ต้นมะม่วง ทุเรียน ทั้งหมด 6 สวน ใกล้กับโรงงาน รวมถึงสวนของเขาเองด้วย ซึ่งมีการรายงานผลพบว่า ค่าสารที่ตรวจพบยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ไม่กระทบต่อผลผลิต
“แม้ผลการตรวจสอบดินไม่เกินมาตรฐาน แต่ยังคงมีความกังวลเรื่องโรงงาน เพราะ ช่วงนี้ฝนตก กลัวว่าคันดินที่กั้นน้ำไว้อาจจะเอาไม่อยู่ ซึ่งตอนนี้ก็มีน้ำซึมออกมาจากทางใต้ดิน ซึ่งสามารถมองเห็นได้ชัด”
เทียบ สมานมิตร

ขณะที่ สนิท มณีศรี ตัวแทนชาวบ้านหนองพะวา เปิดเผยด้วยว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ก็ได้มาเจาะท่อสำรวจ ตามเส้นทางน้ำ ซึ่งเป็นการเจาะขยับพื้นที่ขยายออกไปเรื่อย ๆ หลังจากพบสารตกค้างในแหล่งน้ำใต้ดิน แต่ในเรื่องการแก้ปัญหาในโรงงานยังไม่คืบหน้า โดยส่วนตัวเข้าใจว่าขณะนี้รัฐมนตรี อาจจะกำลังติดภารกิจอื่น แต่ขอฝากถึงรัฐบาลให้มองเห็นความสำคัญตรงนี้
“คนทำงาน อยากทำแต่ไม่มีงบฯ ฝากรัฐบาลมองเห็นความสำคัญตรงนี้ เพราะชาวบ้านเกิดความเสียหายจากโรงงานมานานกว่า 10 ปี หากปล่อยไว้ ความเสียหายอาจจะขยายวงกว้างขึ้น นั่นหมายความว่าอาจจะต้องใช้งบประมาณมากกว่าเดิม”
สนิท มณีศรี
สนิท ยังทิ้งท้ายว่า ตอนนี้ชาวบ้านต่างรออย่างมีความหวัง เผชิญทั้งอากาศร้อน ฝนตก ทำให้มีไอระเหยออกมาจากโรงงาน เพราะนอกจากอะลูมิเนียมดรอสที่ขนออกไปแล้ว ในโรงงานยังมีสารเคมีอีกหลายชนิด ที่ยังส่งกลิ่นเหม็นไปในพื้นที่ชุมชน