เคาะ ‘นายก อบจ.’ แม่ทัพแก้ฝุ่นจังหวัด ลุ้นต่อสภาฯ ถกวาระ 2 ‘กม.อากาศสะอาด’ สัปดาห์หน้า

ผ่าน 2 สัปดาห์ สภาฯ ถกวาระ 2 ‘ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด’ ถึงแค่ มาตรา 37/5 จาก 104 มาตรา โหวตผ่าน มาตรา 24 ‘นายกฯ อบจ.’ นั่งหัวโต๊ะคณะกรรรมการอากาศสะอาดจังหวัด พร้อมเห็นชอบบทบาท ‘เจ้าพนักงานอากาศสะอาด’ แม้เกิดข้อถกเถียงปมอำนาจ หน้าที่

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณา วาระ 2 แบบรายมาตรา ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ที่เกิดกรณีสภาฯ ล่ม โดยการประชุมครั้งนี้ มีข้อถกเถียงในประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะ “ประธานคณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัด” และ “เจ้าพนักงานอากาศสะอาด” ซึ่งมีบางมาตราเกือบถูกตีตก

โดยการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ในครั้งที่ 3 ซึ่งพิจารณาตั้งแต่มาตรา 22 ถึง มาตรา 37/5 จากทั้งหมด 104 มาตรา ประเด็นที่น่าสนใจ คือ มาตรา 24 คณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัด ที่คณะกรรมาธิการเสียงข้างมาก แก้ไขให้เป็น นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นประธาน จากร่างเดิมที่กำหนดให้เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานคณะกรรมการอากาศสะอาดจังหวัด ซึ่งมีคณะกรรมาธิการเสียงข้างน้อยขอสงวนคำแปรญัตติ

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่าการให้ นายก อบจ. เป็นประธาน อาจจะเป็นปัญหาในเชิงปฎิบัติ เพราะโครงสร้างการบริหารสูงสุดระดับจังหวัด ต้องเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด จึงไม่เห็นด้วยกับการที่ให้ นายก อบจ. เป็นประธาน เพราะที่สุดก็ต้องอยู่ในการกำกับดูแลของผู้ว่าราชการจังหวัดอยู่ดี

พร้อมยังระบุว่า แม้กฎหมายอากาศนี้จะผ่านสภาผู้แทนราษฎรไป ก็จะมีปัญหาในการพิจารณาในชั้นวุฒิสภา ที่ไม่สามารถพิจารณาได้ทันเงื่อนไขเวลาของการยุบสภา และอาจทำให้กฎหมายที่พิจารณาอยู่นี้เป็นอันตกไป

วรภพ วิริยะโรจน์ กรรมาธิการอากาศสะอาด ชี้แจงว่า การที่ให้ นายก อบจ. เป็นประธาน เป็นความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน เพราะเป็นตำแหน่งที่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด และเป็นไปตามหลักการกระจายอำนาจ

ทั้งนี้ในท้ายที่สุดการโหวตในมาตรา 24 เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยให้ นายก อบจ. เป็นประธานกรรมการอากาศสะอาดจังหวัด

อีกประเด็นสำคัญคือ มาตรา 30/4 การปฏิบัติหน้าที่ของ เจ้าพนักงานอากาศสะอาด ซึ่งเนื้อหาตามมาตรานี้ ระบุถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานอากาศสะอาด โดยสามารถ เข้าไปในที่ดิน อาคาร สถานประกอบการ สถานที่ใด ๆ ที่เป็นแหล่งกำเนิดมลพิษ เพื่อตรวจสอบ สำรวจ เก็บข้อมูล หรือควบคุมให้ปฏิบัติตามกฎหมาย นอกจากนั้นยังมีบทบาทในการค้นสถานที่ หรือแหล่งกำเนิดมลพิษที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ากระทำความผิด ทั้งนี้ยังสั่งให้หยุดยานพาหนะ เพื่อตรวจสอบ สามารถเรียกบุคคลใด ๆ มาให้ถ้อยคำ ข้อเท็จจริง รวมถึงการยึด หรืออายัดทรัพย์สิน วัตถุ สิ่งของ เอกสาร หรือหลักฐานใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามกฎหมาย

โดย วิทยา แก้วภราดัย สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ทักท้วงว่า การให้อำนาจเจ้าพนักงานอากาศสะอาดมากเกินไป เช่น สามารถทำการตรวจค้นได้หมด มากกว่าเจ้าพนักงานตำรวจ จึงมีความกังวลเรื่องการทำหน้าที่ของเจ้าพนักงานอากาศสะอาด ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 33 สิทธิในเคหะสถาน

สอดคล้องกับ ขจิตร ชัยนิคม สส.พรรคเพื่อไทย ที่ก็ไม่เห็นด้วย และขอให้กรรมาธิการฯ ถอนร่างนี้กลับไปทบทวนใหม่เนื่องจากให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐมากเกินไป

ด้าน จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ประธานกรรมาธิการฯ ยืนยันว่า ไม่ถอนร่างฯ และขอให้ดำเนินการพิจารณาต่อ โดยท้ายที่สุดที่ประชุมมีมติตามที่กรรมาธิการแก้ไข เห็นด้วย 155 เสียง ไม่เห็นด้วย 115 เสียง งดออกเสียง 20 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง การประชุมพิจารณาต่อถึง มาตรา 37/5

โดยในวันนี้ (2 ต.ค. 68) จะไม่มีการพิจารณาร่างกฎหมายอากาศสะอาดต่อ แต่จะพิจารณาอีกครั้งในวันที่ 8 และ 9 ต.ค. 68 ที่จะเข้าสู่การอภิปรายหัวใจของร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาดฯ ทั้งเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ และกองทุนอากาศสะอาด

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active