เปิดตัวแพลตฟอร์มพัฒนาเสริมสมรรถนะเครือข่ายสหวิชาชีพ นำร่อง รพ. 89 แห่งทั่วประเทศ เชื่อมโยงระบบประกันสุขภาพ-ลดค่าใช้จ่าย-ต่อยอดเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายดูแลสังคม หนุนยกระดับระบบบริการสุขภาพไทย
วันนี้ (22 ส.ค. 65) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และภาคีเครือข่าย แถลงข่าว โครงการพัฒนาเสริมสมรรถนะกลไกและเครือข่ายการดูแลทางสังคมของสหวิชาชีพ พร้อมเปิดตัวแพลตฟอร์ม Social Telecare สร้างสมรรถนะและเทคนิคการทำงานการดูแลทางสังคมในรูปแบบ Social Telecare Sandbox ในพื้นที่ของตนเอง
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการพัฒนาระบบสุขภาพ สสส. กล่าวว่า โครงการนี้จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของสหวิชาชีพ-นักสังคมสงเคราะห์ ในการสนับสนุนระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ และพัฒนานักสังคมสงเคราะห์ให้มีความรู้ มีทักษะการทำงาน สามารถพัฒนากลไกเครือข่ายการดูแลทางสังคมสำหรับผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง เกิดการนำแพลตฟอร์ม Social Telecare ไปขยายผลในพื้นที่ สนับสนุนระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“สสส. ได้ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของสหวิชาชีพ-นักสังคมสงเคราะห์อย่างต่อเนื่อง นักสังคมสงเคราะห์เป็นวิชาชีพสำคัญที่จะช่วยให้ประชาชน ที่ประสบปัญหาสังคมใช้ศักยภาพและทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหา เสริมพลังตนเอง เสริมพลังครอบครัว และชุมชน อันเป็นภารกิจที่มีความท้าทายอย่างยิ่ง ในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งต้องได้รับการพัฒนาความรู้ ทักษะการทำงานกับเทคโนโลยี เชื่อมโยงกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สำหรับโครงการนี้เป็นความร่วมมือของเครือข่าย ในการดำเนินการร่วมกันในยุคที่ต้องใช้ดิจิทัลทำงานกับมนุษย์ เชื่อมั่นว่านักสังคมสงเคราะห์จะสามารถพัฒนาสมรรถนะตนเองได้เป็นอย่างดี”
ศ.ระพีพรรณ คำหอม หัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า การดำเนินงานมีเป้าหมาย เพื่อพัฒนาสมรรถนะนักสังคมสงเคราะห์และทีมสหวิชาชีพ รวมถึงพัฒนาเครื่องมือแพลตฟอร์ม Social Telecare เชื่อมโยงกับทีมหมออนามัย ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับทางสาธารณสุข และต่อยอดเป็นข้อเสนอนโยบายทางสังคมในการดูแลกลุ่มเปราะบาง เชื่อมประสานกับระบบหลักประกันสุขภาพ และระบบบริการสุขภาพปฐมภูมิ ให้บริการทางสังคม จะทำให้ลดข้อจำกัดของระบบบริการผ่านทางไกล ขณะนี้ได้มีการอบรม-พัฒนาสมรรถนะนักสังคมสงเคราะห์และทีมสุขภาพ อาทิ แพทย์ นักวิชาการ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) เกือบ 2,000 คน ใน 6 หลักสูตร โดยคาดหวังให้นักสังคมสงเคราะห์เข้าใจในเรื่องของการประเมินผู้ป่วยในระบบของ Social Telecare รวมไปถึงจัดทำแผนการดูแลด้านสุขภาวะของผู้ป่วย ครอบครัว ชุมชน ซึ่งจะทำให้ประหยัดทั้งเวลาและทำให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วย
“โครงการฯ นี้ได้รับความร่วมมือ จากเขตสุขภาพ 13 เขตทั่วประเทศ รวมไปถึงเครือข่ายโรงพยาบาล 89 แห่งทั่วประเทศ ที่อยู่สังกัดของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข และสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ เพื่อประโยชน์กับระบบสุขภาพโดยรวม ที่สำคัญ จะทำให้ได้ทำงานในเชิงสหวิชาชีพร่วมกันกับวิชาชีพอื่นได้ชัดเจนมากขึ้น สำหรับแพลตฟอร์ม Social Telecare มี 23 เครื่องมือการทำงาน โดยแบ่งเป็น 13 แพลตฟอร์มในพื้นที่เขตสุขภาพ 13 เขตทั่วประเทศ และเป็นระบบประเมินผู้ป่วยที่สามารถรายงานผลได้ แบบ Real time มีฟังก์ชันระบบรายงานผล ส่งต่อข้อมูลผู้ป่วยไปยังสหวิชาชีพ เพื่อให้บริการอย่างครอบคลุม นอกจากใช้ติดต่อภายในเครือข่ายปฐมภูมิแล้ว ยังสามารถนำข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้ไปวิเคราะห์เพื่อข้อเสนอเชิงนโยบาย และแก้ปัญหาเชิงระบบต่อไปในอนาคต”