กรมควบคุมโรค หารือ องค์กรภาคประชาสังคม ได้ข้อสรุปจับคู่กับโรงพยาบาลบางรัก ร่วมออกแบบระบบหลังบ้านเชื่อมต่อเทเลเมดิซีนกับแพทย์และเภสัช พร้อมสนับสนุนยาเพร็พแก่คนนอกสิทธิ์บัตรทอง ให้คลินิกภาคประชาสังคม จ่ายยาคนทุกสิทธิ์ตามเดิม
วันนี้ (18 ม.ค. 2566) ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มีการประชุมระหว่างองค์การภาคประชาสังคมที่ขับเคลื่อนการป้องกันเชื้อ HIV และผู้บริหารกรมควบคุมโรค เพื่อหาทางออกแนวทางการจ่ายยาเพร็พ ที่หยุดไปหลังมีประกาศ สบส. ให้ผู้จ่ายยาต้องเป็นแพทย์ หรือเภสัชกรของหน่วยบริการสาธารณสุขของรัฐเท่านั้น
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวภายหลังการประชุมดังกล่าวได้ข้อสรุปว่า กรมควบคุมโรค จะให้ สวิงคลินิก และ คลินิกฟ้าสีรุ้ง ซึ่งเป็น 2 คลินิกภาคประชาสังคมรายใหญ่ที่จัดบริการยาเพร็พ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จับคู่ กับ โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์บางรักซึ่งเป็นหน่วยบริการสาธารณสุข ในสังกัดกรมควบคุมโรค เนื่องจากยังคงต้องทำตามประกาศของ สบส. โดยใช้เทคโนโลยีการพบแพทย์ หรือเภสัชกรทางไกลหรือเทเลเมดิซีน เข้าไปที่คลินิกของภาคประชาสังคมทั้ง 2 แห่งเพื่อให้ประชาชนยังคงรับยาเพร็พในสถานที่เคยรับได้เช่นเดิม โดยระบบนี้จะเป็นโมเดลนำไปใช้ในองค์กรภาคประชาสังคมทั่วประเทศ และคาดว่าจะวางระบบเชื่อมต่อกันแล้วเสร็จ กระทั่งคลินิกภาคประชาสังคมกลับมาเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบได้ในวันจันทร์ที่ 23 ม.ค. นี้
ขณะที่ประเด็นการทบทวนแนวทางการจ่ายยาจะเป็นแพทย์คลินิกเอกชนได้หรือไม่ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เนื่องจากเกี่ยวข้องกับกฎหมายวิชาชีพ ได้มอบหมายให้กองกฎหมายของกรมฯ และคลินิกเอกชนไปหารือกับ 2 สภาวิชาชีพ คือแพทย์และเภสัชกรรม ว่าถ้าต้องการให้มีบริการที่เทียบเท่ากับโรงพยาบาลรัฐต้องมีการปรับแก้กฎหมาย แต่ ขณะนี้คลินิกเอกชนยังสามารถเป็นพี่เลี้ยงได้ในเชิงการให้ความรู้ แต่ในเชิงการให้บริการยังทำไม่ได้
ส่วนเรื่องการจัดบริการยาเพร็พให้กับคนนอกสิทธิ์บัตรทองที่ สปสช. จัดสรรงบส่งเสริมและป้องกันโรคให้แก่ผู้ที่อยู่ในสิทธิ์บัตรทองเท่านั้นกรมควบคุมโรคจะรับสนับสนุนยาให้กับคนนอกสิทธิ์บัตรทองทุกสิทธิ์โดยใช้ทรัพยากรของกรมฯ เอง นำยาไปให้คลินิกภาคประชาสังคมเพื่อให้บริการประชาชนต่อไปได้ แต่ขณะนี้ สปสช. ก็พยายามเร่งรัดการแก้ไขปัญหานี้ไปพร้อมกัน
ด้าน จำรอง แพงหนองยาง รองผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ (SWING) กล่าวว่าอย่างน้อยวันนี้เป็นจุดต้นที่ดี และเห็นความจริงใจจากภาครัฐ มองเห็นทางออกที่ชัดเจน แม้ยังไม่ได้ตามที่ภาคประชาสังคมต้องการ เพราะเห็นว่ามีการติดข้อกฎหมายอยู่ในเรื่องการจ่ายที่ต้องเป็นเภสัชกรหรือแพทย์รัฐเท่านั้น แต่สิ่งที่เริ่มทำ ได้เลยตอนนี้ก็ช่วยลดข้อจำกัด จากการที่ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องปิดการให้บริการ วันนี้ก็จับคู่กับโรงพยาบาลบางรัก เริ่มต้นทำงานให้ประชาชนเข้าถึงยาได้ก่อน
“การทำงานในระยะยาว เราคาดหวังว่าทางกระทรวงจะยอมรับ การทำงานของคลินิกภาคประชาสังคมว่าเป็นหนึ่งในระบบบริการของประเทศ“
จำรอง ยังกล่าวอีกว่าหลังจากวันนี้ก็จะมีการทำงานร่วมกันเพื่อวางระบบการให้บริการหลังบ้านเชื่อมต่อกันกับโรงพยาบาลบางรักเพื่อเร่งให้บริการประชาชนโดยเร็วที่สุดตามกำหนดคือวันจันทร์หน้า
ขณะที่ ธนชัย ไชยสาลี ผู้อำนวยการสำนักระบบบริการสุขภาพ สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การหารือวันนี้ได้แนวทางการทำงานร่วมกัน เพื่อออกแบบระบบหลังบ้านในการบริการยาเพร็พ และบริการอื่นๆที่เป็นการส่งเสริมป้องกัน HIV และจะเป็นโมเดลที่จะขยายไปในพื้นที่อื่น ๆ
“ตั้งแต่เราเปิดให้บริการ มามีคนที่รับยาจากเราทั้งรายใหม่ รายเก่าร่วมห้าพันคน พวกเขารอให้เรากลับมา นับเป็นความทุกข์ยากในการเข้ามาใช้บริการ”