‘กรมสุขภาพจิต’ เผย คนไทย 13.4 ล้านคน เผชิญปัญหาสุขภาพใจ ป่วยจิตเวช จากปัญหาเศรษฐกิจ เครียดจากงาน นำไปสู่เหตุสูญเสียจากการฆ่าตัวตาย เฉลี่ยวันละ 14 คน ตั้งเป้าปั้นคนพิการ เป็น ‘นักรับฟัง’ หวังสร้างทางเลือก ช่วยฟังอย่างไม่ตัดสิน พร้อมให้คำปรึกษา ฮีลใจเบื้องต้น ในช่วงเวลาที่ไทยขาดแคลนบุคลากรด้านสุขภาพจิต
วันนี้ (10 ก.ย. 68) ในกิจกรรม “นักรับฟัง พลังพิเศษ” (Gifted Listener) ส่งเสริมความรอบรู้สุขภาพจิตในสถานประกอบการผ่านการสร้างนักรับฟังคนพิการ นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม รองผู้จัดการกองทุน สสส. ระบุว่า วันที่ 10 ก.ย.ของทุกปีตรงกับ วันป้องกันฆ่าตัวตายโลก ซึ่งสถานการณ์ปัญหาสุขภาพจิตของประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
จากผลสำรวจระบาดวิทยาสุขภาพจิต ปี 2566 โดยกรมสุขภาพจิต พบ คนไทย 13.4 ล้านคน เคยเผชิญปัญหาสุขภาพจิตหรือโรคจิตเวช สาเหตุจากปัญหาเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงบทบาททางสังคม และความเครียดจากการทำงาน ส่งผลให้ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย เฉลี่ยวันละ 14 คน
สสส. จึงพยายามส่งเสริมให้ประชาชนมีทักษะป้องกันตนเองตามแนวคิดการดูแลสุขภาพจิตขั้นต้น ผ่านองค์ความรู้และนวัตกรรม รวมถึงพัฒนาบุคลากรทุกภาคส่วนเพื่อดูแลสุขภาพจิตคนในชุมชน องค์กร และสถานศึกษา จึงร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และภาคีเครือข่าย พัฒนานวัตกรรม นักปฐมพยาบาลจิตใจโดยคนพิการ ภายใต้โครงการ นักรับฟัง พลังพิเศษ (Gifted Listener) เดินหน้าปั้นคนพิการให้เป็นนักรับฟังและปฐมพยาบาลจิตใจเบื้องต้น พร้อมสร้างทางเลือกในการประกอบอาชีพให้กับคนพิการ

โดยนวัตกรรมนักปฐมพยาบาลจิตใจโดยคนพิการ มีหลักสูตรอาสาสมัครปฐมพยาบาลทางใจ (Mind First Aid) ที่ออกแบบคนทุกคนสามารถปฐมพยาบาลทางจิตใจเบื้องต้นตามโมเดล 4S ประกอบด้วย
- Support การเข้าใจระบบนิเวศของการสนับสนุนเรื่องสุขภาพจิต
- Sense การรับรู้และการเข้าใจผู้อื่น
- Summarize การสิ้นสุดการช่วยเหลือและส่งต่อตามแนวทางที่เหมาะสม
- Self-care การดูแลใจตนเองและทัศนคติที่เหมาะสมในการรับฟัง ทั้งนี้ หลักสูตรมีทั้งรูปแบบ e-learning และ on-site
ทั้งนี้ จากการติดตามผลการทำงาน พบว่า คนพิการที่ผ่านกระบวนการอบรมมีทักษะการรับฟังอย่างไม่ตัดสิน และให้คำปรึกษาทางสุขภาพจิตในเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี
“นักรับฟัง พลังพิเศษ (The Gifted Listeners)” เป็นแนวทางสำคัญช่วยให้คนไทยมีสุขภาพจิตที่เข้มแข็ง สนับสนุนให้คนพิการมีงานทำ และสร้างความเป็นธรรมทางสุขภาพ”
นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม


สำหรับโครงการดังกล่าว ตั้งเป้าผลิตนักรับฟังผู้พิการ 500 คน ช่วยดูแลสุขภาพจิตของพนักงานคนในองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน 50,000 คน และให้บริการรับฟังประชาชนอย่างน้อย 100,000 คน
ข้อมูลจาก สถาบันวิชาการเพื่อความยั่งยืนทางสุขภาพจิต (TIMS) ระบุว่า จากการที่ประเทศไทยกำลังเผชิญปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านสุขภาพจิตอย่างรุนแรง โดยมีจิตแพทย์เฉลี่ยเพียง 1.28 คน และนักจิตวิทยาเพียง 1.57 คน ต่อประชากรแสนคน โดยในบางพื้นที่ ไม่มีผู้เชี่ยวชาญประจำ ซึ่งอาจทำให้หลายคนไม่ได้รับการดูแลหรือการสนับสนุนทางจิตใจ ขาดคนรับฟังปัญหาความทุกข์ใจ ซึ่งหากปัญหาความเครียด หรือความทุกข์ใจถูกสะสมไว้ไม่ได้ระบายออก อาจทำให้ปัญหาสุขภาพจิตที่ไม่ได้รับการแก้ไขลุกลามจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงอาจจะกระทบไปยังงานของระบบสาธารณะสุขในอนาคต
และจากรายงานสรุปผลการดำเนินงานของกรมสุขภาพจิต 2568 ที่มีนโยบายพัฒนาบุคลากรและบริการด้านสุขภาพจิต แต่ยังคงไม่เพียงพอ เพราะยังมีอุปสรรคในการพัฒนาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาให้การปรึกษา ช่องว่างของระบบให้บริการทางสุขภาพจิตนี้ยังต้องอาศัยแนวทางใหม่ เช่น การเพิ่มบทบาทนักจิตวิทยาการปรึกษาให้ได้มีใบรับรอง การสั่งจ่ายกิจกรรมทางสังคมเพื่อลดภาระระบบสุขภาพ และการให้การช่วยเหลือกันแบบเพื่อนช่วยเหลือเพื่อน (peer support)
ดังนั้นการส่งต่อความเข้าใจในเรื่องของสุขภาพจิต และเพิ่มทักษะการรับฟังแก่บุคคลทั่วไปจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อพัฒนาระบบการให้การสนับสนุนแบบเพื่อนช่วยเหลือเพื่อนเข้มแข็งขึ้น ผู้คนรับฟังและเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น TIMS และภาคีเครือข่ายจึงพัฒนาเนื้อหาและสร้างระบบการเรียนรู้เกี่ยวกับการปฐมพยาบาลทางใจที่เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น โดยผู้ที่สนใจเนื้อหาการปฐมพยาบาลทางใจเบื้องต้น (Mind First Aid) สามารถเข้าไปเรียนรู้ได้ที่ https://elearning.satiapp.co
