“พ่อแม่ให้ชีวิต แต่ถ้าหนูไม่ได้รับพระเมตตาให้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ของพระองค์ท่าน หนูก็คงไม่มีชีวิตอยู่มาจนถึงวันนี้”
เป็นความในใจที่ บี – ยุวดี ชิววิวัฒน์ ชาว อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา บอกกับ The Active ทันทีที่ทราบข่าวการสวรรคต สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพราะเมื่อ 30 ปีก่อน บี ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระองค์ท่าน ในฐานะ ผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ ซึ่งสำหรับตัวเธอแล้ว นี่เปรียบได้กับการมีชีวิตใหม่ด้วยพระเมตตาอย่างแท้จริง
บี เล่าย้อนอดีตว่า เธอป่วยด้วยโรคหัวใจตั้งแต่แรกเกิด ในตอนนั้นหมอบอกว่า เป็นโรคหัวใจชนิดเขียว คือ เมื่อร้องไห้ ทั้งปาก ปลายเล็บมือ เล็บเท้า จะมีสีเขียวอมม่วง ในเวลานั้นครอบครัวบียากจน ทำให้กลายเป็นข้อจำกัดสำคัญจนแทบมองไม่เห็นหนทางที่จะรักษา เพราะกลัวว่าจะสู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว เนื่องจากโรคนี้ต้องผ่าตัด และดูแลรักษาต่อเนื่อง
“แม่เล่าให้หนูฟังว่าตอนนั้นไม่รู้จะทำยังไง แต่ก็มีคนแนะนำให้ยื่นเรื่องไปยังสำนักพระราชวัง เพื่อขอให้ลูกสาวได้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ซึ่งแม่ก็ทำจดหมายส่งขึ้นไป”
บี – ยุวดี ชิววิวัฒน์

13 กุมภาพันธ์ 2538 คือวันที่ครอบครัวของ บี จดจำไม่ลืม เพราะได้รับข่าวดี ทางกองราชเลขานุการในพระองค์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้แจ้งว่าพระองค์ท่านทรงรับ บี เป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคาระห์ ตั้งแต่นั้นมา เธอก็ได้รับการรักษามาอย่างต่อเนื่องที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จนถึงอายุ 4 ขวบ ได้ถูกส่งตัวขึ้นมารับการผ่าตัดที่ โรงพยาบาลราชวิถี
“ถ้าไม่ได้รับพระเมตตาเป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ หนูคงไม่ได้อยู่มาจนทุกวันนี้ เพราะคงไม่มีเงินค่ารักษา ค่าเดินทางขึ้นมาผ่าตัดที่กรุงเทพฯ ค่าใช้จ่ายทุกบาททุกสตางค์ ก็ได้รับการช่วยเหลือจากพระองค์ท่านทั้งหมด นับเป็นความซาบซึ้งอย่างมากสำหรับชีวิตของเด็กต่างจังหวัดคนหนึ่ง”
บี – ยุวดี ชิววิวัฒน์


ในวัย 34 ปี ตอนนี้เธอหายขาดจากโรคหัวใจ ที่เคยป่วยจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดในวัยเด็ก เอกสารที่ระบุการได้รับเป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ ที่ยังหลงเหลืออยู่เพียงฉบับเดียว แม่ของบีเก็บรักษาไว้อย่างดี และก็ถูกส่งต่อให้เธอ ใช้เป็นเครื่องเตือนความทรงจำ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
“ตอนน้ำท่วมหาดใหญ่เมื่อไม่นานมานี้ บ้านของหนูโดนน้ำท่วมหนัก ทีแรกกลัวว่าเอกสารจะเสียหายไปกับน้ำแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังเก็บรักษาเอาไว้ได้ ก็ตั้งใจจะเก็บไว้อย่างดี เพื่อไว้เตือนใจว่าเราได้มีชีวิตใหม่ก็เพราะพระเมตตาที่พระองค์มอบให้”
บี – ยุวดี ชิววิวัฒน์
ปัจจุบัน บี มีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น มีลูกชาย 2 คน เธอตั้งใจจะถ่ายทอดเรื่องราวความทรงจำนี้ให้กับลูก ๆ ได้รับรู้ เพราะนี่คือความรู้สึกอิ่มใจทุกครั้งที่นึกถึง

“หนูใช้ภาษาไม่ถูก ไม่รู้จะพูดคำไหนให้ถูกต้อง แต่ในฐานะเด็กบ้าน ๆ คนหนึ่ง ก็อยากบอกว่าซาบซึ้งใจอย่างหาที่สุดไม่ได้ ชีวิตหนูจะไม่มีวันนี้ ถ้าไม่มีพระองค์ท่านทรงรับไว้ดูแลรักษา ข่าวการสวรรคตทำให้รู้สึกใจหาย ในฐานะพสกนิกรไทยคนหนึ่ง ขอน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบรมราชชนนีพันปีหลวงตลอดไปค่ะ”
บี – ยุวดี ชิววิวัฒน์ ทิ้งท้าย
