‘นพ.วีระพันธ์’ เตรียมยื่นสภาฯ 10 ธ.ค.นี้ เผย เปิดรวบรวมรายชื่อสัปดาห์เดียวทะลุเกณฑ์ขั้นต่ำ 10,000 รายชื่อ คาดรอตรวจสอบรายชื่อราว 45 วัน ลุ้นเข้าสู่การพิจารณา แม้เสี่ยงชะงักหากยุบสภา ย้ำ ร่างกฎหมาย คือ จุดตั้งต้น แก้วิกฤตบุคลากร สธ.ไหลออก
นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย ประธานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการ การพัฒนาและการธำรงรักษาบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข วุฒิสภา เปิดเผยกับ The Active ถึงความคืบหน้า ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองการปฏิบัติงานของบุคลากรสาธารณสุข ว่า ได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมากเกินกว่าที่คาดหมาย โดยเริ่มเปิดให้ลงชื่อสนับสนุนตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพียง 1 สัปดาห์ก็ครบ 10,000 รายชื่อ ซึ่งเป็นจำนวนขั้นต่ำตามรัฐธรรมนูญในการเสนอร่างกฎหมายโดยประชาชน
อย่างไรก็ตาม คณะผู้จัดยังคงเปิดรับรายชื่อจากช่องทางต่าง ๆ ทั้งออนไลน์ อีเมล และจดหมาย จนถึงวันปิดรับ (เลื่อนมาปิดวันที่ 1 ธันวาคม เนื่องจากติดวันหยุดราชการ) ทำให้จำนวนผู้ร่วมลงชื่อสนับสนุนเพิ่มขึ้นเป็น ออนไลน์ 12,008 รายชื่อ จดหมายและอีเมลกว่า 10,000 ฉบับ รวมทั้งหมด ประมาณ 22,008 รายชื่อ

นพ.วีระพันธ์ ระบุว่า ขั้นตอนถัดไปคือ การนำรายชื่อทั้งหมดเสนอต่อประธานรัฐสภาในวันที่ 10 ธันวาคม ซึ่งตรงกับวันรัฐธรรมนูญ หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบรายชื่อ เพื่อตัดรายชื่อที่ลงซ้ำหรือผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ลงชื่อ เช่น ผู้ที่ไม่ได้ออกเสียงเลือกตั้งครั้งล่าสุด ซึ่งขั้นตอนนี้คาดว่าจะใช้เวลาราว 45 วัน
เมื่อผ่านการตรวจสอบครบถ้วนและมีจำนวนเกิน 10,000 รายชื่ออย่างเป็นทางการ ร่างกฎหมายฉบับประชาชนนี้จะเข้าสู่รัฐสภาเพื่อรอการบรรจุเข้าวาระพิจารณาต่อไป
ย้ำแม้ยุบสภา แต่ก็ยังเดินหน้าต่อ
นพ.วีระพันธ์ ยังยอมรับว่า หากเกิดการยุบสภาในช่วงนี้ แน่นอนว่าจะทำให้กระบวนการล่าช้าลง เพราะต้องรอรัฐสภาชุดใหม่จัดตั้งแล้วเริ่มกระบวนการอีกครั้ง
“ถึงอย่างไรต้องเดินหน้าทำไว้ก่อน เพราะเมื่อเข้าสู่สภาฯ ชุดใหม่ เราก็สามารถปลุกกระแสให้กลับมาเป็นวาระสำคัญได้อีกครั้ง”
นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย
พร้อมทั้งเห็นว่าหากพรรคการเมืองต่าง ๆ ยื่น ร่างประกบ หรือร่างกฎหมายในประเด็นเดียวกันเข้าสู่สภาฯ จะช่วยให้การผลักดันรวดเร็วขึ้นและเพิ่มน้ำหนักทางการเมือง โดยตั้งใจจะส่งร่างและสาระสำคัญไปให้พรรคการเมืองทุกพรรค ทั้งพรรคใหญ่และพรรคขนาดกลาง เพื่อขอให้ร่วมผลักดัน
“ผมไม่ได้ต้องการให้เป็นกฎหมายของผม ใครเสนอได้ ผมยินดีสนับสนุน และพร้อมให้ข้อมูลหรือร่างที่จัดทำไว้”
นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย
เร่งรัดกฎหมายในวันที่บุคลากรแพทย์กำลังไหลออก ?
สำหรับความจำเป็นเร่งด่วนของกฎหมายฉบับนี้อยู่ที่ปัญหาการลาออกของบุคลากรทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
“ถ้าเราไม่รีบทำ ผมกลัวว่าบุคลากรทางการแพทย์จะลี้ออกไปหมด เราเห็นแล้วจากกรณีบึงกาฬปีที่แล้ว และมีแนวโน้มจะเกิดซ้ำทั้งปีนี้และปีหน้า”
นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย
แม้กฎหมายจะต้องใช้เวลาระหว่าง 2-3 ปี จึงจะประกาศใช้ได้จริง แต่ก็ย้ำว่า ต้องมีคนเริ่มต้น (kick off) มิฉะนั้นปัญหาที่เกิดซ้ำเป็นเวลากว่า 10–20 ปีจะยังคงอยู่และสาหัสยิ่งขึ้น
ตอบข้อกังวล ไม่ได้บังคับตายตัว – ยังมีการแปรญัตติ
นพ.วีระพันธ์ ยังกล่าวถึงข้อกังวลของบุคลากรบางส่วน เช่น ความกังวลว่าจะถูกจำกัดจำนวนเวรจนขาดรายได้ หรือผลกระทบต่อผู้ที่ทำงานในโรงพยาบาลเอกชนว่า
“ไม่ต้องกังวล เพราะร่างนี้ยังเป็นเพียงการเริ่มต้น (kick off) เท่านั้น ยังมีขั้นตอนอีกมาก ทั้งร่างประกบจากพรรคการเมือง และการแปรญัตติในสภาที่สามารถปรับแก้รายละเอียด เช่น ค่าตอบแทน ค่าเวร หรือเงื่อนไขการทำงานต่าง ๆ ได้อีกจำนวนมาก”
นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย
พร้อมขอให้บุคลากรที่ยังลังเล หรือมีความกังวลเรื่องรายละเอียด ก้าวข้ามความกลัว เพราะสาระสำคัญของร่างนี้ไม่ใช่การบังคับรูปแบบการทำงานตายตัว แต่เป็นการ ตั้งต้นแก้ปัญหา ที่เรื้อรังมายาวนาน
ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองการปฏิบัติงานของบุคลากรสาธารณสุข คืออะไร ?
สำหรับ ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองการปฏิบัติงานของบุคลากรสาธารณสุข พ.ศ…. ที่ผลักดันโดย นพ.วีระพันธ์ เป็นกฎหมายฉบับแรกที่มุ่งคุ้มครองบุคลากรสาธารณสุขอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมเรื่องชั่วโมงทำงาน-ชั่วโมงพัก การกำหนดสัดส่วนบุคลากรตามภาระงานของแต่ละโรงพยาบาล และโครงสร้างค่าตอบแทนที่เป็นธรรม พร้อมตั้ง “กองทุนเฉพาะ” ดูแลโดยสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ใช้งบจาก 6 แหล่งงบประมาณ ขณะนี้ร่างผ่านการตรวจรูปแบบแล้ว และเปิดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งร่วมลงชื่อเสนอร่างกฎหมายได้
โครงสร้างร่างกฎหมายแบ่งเป็น 5 หมวด รวม 32 มาตรา มีบทเฉพาะกาล และจะมีผลหลังประกาศ 180 วัน โดยอาจต้องใช้เวลาราว 4–5 ปีในการปรับตัวและเพิ่มกำลังคนในระบบ ตัวยกร่างให้เหตุผลว่า การกำหนดมาตรฐานชั่วโมงทำงานและการพักที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นต่อคุณภาพการดูแลผู้ป่วย สอดคล้องกับหลักการในรัฐธรรมนูญ มาตรา 26
ร่าง พ.ร.บ.ฯ ยังกำหนดนิยามของ บุคลากรสาธารณสุข และ ผู้ให้บริการสาธารณสุข ชัดเจน รวมถึงความหมายของชั่วโมงการปฏิบัติงานในรูปแบบต่าง ๆ พร้อมจัดตั้ง คณะกรรมการคุ้มครองการปฏิบัติงานของบุคลากรสาธารณสุข ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน และมีตัวแทนหน่วยงานด้านกำลังคน ระบบสุขภาพ และวิชาชีพต่าง ๆ ทำหน้าที่กำกับ เสนอแนะ และกำหนดแนวทางคุ้มครองบุคลากรในระบบอย่างเป็นทางการ
