ระดมทีมสหวิชาชีพกู้สุขภาพใจ เร่งคลาย ‘ความกลัว-จำฝังใจ’ เด็กในศูนย์พักพิงฯ

มูลนิธิไทยพีบีเอส จับมือ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม ระดมของใช้จำเป็น พร้อมจัด ทีมนักจิตวิทยา – ทีม MCATT – นักสังคมสงเคราะห์ ช่วยคัดกรองสุขภาพจิตเด็ก ประเมินเบื้องต้นยังพบความกลัวคงค้างจากเหตุปะทะชายแดน  

The Active ลงพื้นที่ ศูนย์พักพิงชั่วคราวภายในพื้นที่ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ซึ่งอพยพมากจากพื้นที่สีแดงใน ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน พบว่า ที่น่ากังวลคือกลุ่มเด็กเล็ก

นิด แม่ของเด็กชายวัย 2 เดือน เล่าว่า ชีวิตลำบาก โดยเฉพาะเรื่องแพมเพิร์ส และนม บางช่วงของไม่พอ ต้องออกไปซื้อเอง ขณะที่ครอบครัวก็ขาดรายได้

เช่นเดียวกับ ทิพย์สุดา แม่ของเด็กวัย 7 เดือน บอกว่า แม้มีชาวบ้านบางคนหนีกลับบ้านเพราะขาดรายได้ แต่ตนต้องรอให้สถานการณ์ปลอดภัยจริง ๆ ก่อนจะกลับ

วิทยา ใบศรี ผู้ใหญ่บ้านร่องรวมวุฒิ ต.เมืองเดช เล่าว่า ชุมชนเตรียมพร้อมล่วงหน้า สามารถเปิดศูนย์ได้ภายใน 30 นาที ปัจจุบันรองรับผู้อพยพกว่า 420 คน เป็นเด็กเกือบ 100 คน อบต.ดูแลอาหาร 3 มื้อต่อเนื่อง แต่นมและผ้าอ้อมยังขาดแคลน เด็กหนึ่งคนใช้ผ้าอ้อมวันละประมาณ 3 ชิ้น ขณะนี้นมใกล้หมด และของบริจาครอบนี้น้อยกว่ารอบแรกอย่างเห็นได้ชัด

ความช่วยเหลือเริ่มมาถึง

ล่าสุด มูลนิธิไทยพีบีเอส ร่วมกับ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม ได้เข้ามาสนับสนุนศูนย์พักพิงฯ แห่งนี้ โดยนำสิ่งของมามอบ ได้แก่ อุปกรณ์กีฬา, ขนมสำหรับเด็กปฐมวัย, นมผง และแพมเพิร์ส พร้อมจัดกิจกรรมคัดกรองสุขภาพจิตเด็ก

พญ.ประภาภรณ์ เพชรมาก รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ บอกว่า ศูนย์พักพิงชั่วคราวฯ แห่งนี้ มีเด็กอพยพ 96 คน ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 14 ปี พบปัญหาด้านการดำรงชีวิตพื้นฐาน โดยเฉพาะนมสำหรับเด็กเล็ก อีกทั้งเด็กส่วนใหญ่ไม่ได้ไปโรงเรียน ซึ่งอาจส่งผลต่อพัฒนาการและสุขภาพจิต

โรงพยาบาลจึงประสานทีมสหวิชาชีพ ประกอบด้วยนักสังคมสงเคราะห์ นักจิตวิทยา และทีม MCATT ลงพื้นที่จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ เพื่อลดความตึงเครียดและความเสี่ยงด้านพฤติกรรม ด้วยงบฯ สนับสนุนจากมูลนิธิไทยพีบีเอส 10,000 บาท

คัดกรองสุขภาพจิต พบเด็กหลายคนมีความกลัวคงค้าง

ศราวุธ หรรกประโคน นักสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลสุรินทร์ เปิดเผยว่า จากการประเมินเบื้องต้นพบเด็กที่มีภาวะอารมณ์เศร้าและความกลัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเด็กที่ร้องไห้หรือมีปฏิกิริยาตอบสนองรุนแรงต่อเสียงดัง

“พบประมาณ 3 เคสที่ต้องพูดคุยอย่างใกล้ชิด ความกลัวหลักคือกลัวเสียงระเบิด บางรายมีความกลัวสูงมาก เป็นความทรงจำฝังใจ พอได้ยินเสียงอะไรก็ตกใจ ทำให้นอนไม่หลับ”

ศราวุธ หรรกประโคน

นอกจากนี้ ยังพบเด็กบางคนมีความกลัวจากความรุนแรงในครอบครัว และเด็กที่รู้สึกไม่สบายใจกับการอยู่ร่วมกับเพื่อนที่มีการพูดจาคล้ายการรังแก

สำหรับกิจกรรมให้เด็กปั้นดินน้ำมัน พบว่า เด็กจำนวนหนึ่งปั้นเป็นเครื่องบินรบ ระเบิด บังเกอร์ และอาวุธต่าง ๆ สิ่งที่เกิดขึ้นในมุมของนักสังคมสงเคราะห์ ยังไม่สามารถสรุปได้ทันทีว่าเป็นผลจากความรุนแรงที่ฝังใจ

“เด็กอาจปั้นจากหลายเหตุผล บางคนเห็นจากข่าวแล้วรู้สึกว่ามันเท่ บางคนอาจสะท้อนความกลัว ต้องพูดคุยกับเด็กโดยตรงเพื่อเข้าใจพฤติกรรม”

ศราวุธ หรรกประโคน

ย้ำการเตรียมตัวช่วยลดความเครียด

สำหรับในภาพรวมของการอพยพนั้น ศราวุธ มองว่า รอบแรกประชาชนเตรียมตัวน้อย ทำให้ความเครียดสูง แต่รอบหลัง ๆ การเตรียมตัวดีขึ้น ทั้งเรื่องเสื้อผ้า อาหาร ยา เงินสด รวมถึงการวางแผนดูแลบ้านและสัตว์เลี้ยง ทำให้ระดับความเครียดโดยรวมลดลง

“การเตรียมตัวล่วงหน้ามีผลต่อสภาพจิตใจอย่างมาก หากมีการให้ความรู้ในชุมชนหรือสถานศึกษาเกี่ยวกับการรับมือเหตุฉุกเฉิน จะช่วยลดความเครียดได้จริง”

ศราวุธ หรรกประโคน

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ยืดเยื้อและต้องอยู่ห่างบ้านนาน ไม่เพียงเด็กเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ แต่ผู้ใหญ่ก็มีความผูกพันกับบ้าน สวน และสัตว์เลี้ยง ซึ่งยิ่งเพิ่มความเครียดทางจิตใจ

“ช่วงแรกอาจยังปรับตัวได้ แต่ถ้าห่างบ้านนานขึ้น ความเครียดมีแนวโน่มเพิ่มขึ้น ทีมจึงต้องติดตามและดูแลด้านจิตใจอย่างต่อเนื่อง”

ศราวุธ หรรกประโคน

ทีมสหวิชาชีพ จะลงพื้นที่จัดกิจกรรมให้เด็กในศูนย์พักพิงฯ อย่างต่อเนื่องทุกวัน จนกว่าเด็ก ๆ จะสามารถเดินทางกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย​​​​​​​​​​​​​​​​

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active