Policy Forum มองต่างมุม ระหว่างสูตร ‘เงินบำรุงสุทธิ’ หรือ ‘ทุนสำรองสุทธิ’ ประเมินสถานะการเงินโรงพยาบาล ‘รอง ผอ.รพ.ศิริราช’ ชี้ เงินสดในมือ สำคัญกว่าตัวเลขบัญชี ย้ำ ระบบสุขภาพซับซ้อนกว่าระบบธุรกิจ ขณะที่ ‘หมอสุวิทย์’ ระบุ สธ. มีตัวชี้วัดการเงินโรงพยาบาลระดับ 1 – 7 เกณฑ์ชัดเจน ไม่จำเป็นต้องเถียงกันว่า จะเอาสูตรไหนมาตัดสิน
จากกรณี บอร์ด สปสช. ระบุข้อมูลสถานการณ์โรงพยาบาล สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน ข้อเท็จจริงไม่ใช่ 218 แห่ง เมื่อตรวจสอบข้อมูลทางบัญชีพบขาดทุน 13 แห่ง เมื่อคำนวณแบบ Net Working Capital (NWC) นั้น
ในเวที Policy Forum : บัตรทองบนทางแยก ปรับเปลี่ยนหรือไปต่อ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 68 ช่วงหนึ่งได้มีการแลกเปลี่ยนกันถึงสูตรคำนวน โรงพยาบาลขาดทุนควรจะใช้สูตรใดระหว่าง
- สูตรเงินบำรุงสุทธิ : เงินสด – เจ้าหนี้
- สูตร NWC หรือ ทุนสำรองสุทธิ : (เงินสด + ลูกหนี้ + สินค้าคงคลัง) – เจ้าหนี้
- เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง : “บัตรทอง” ไม่ล้ม แต่ วิกฤต แนะทบทวนต้นทุนบริการสุขภาพ

วิธีคิดขาดทุนยังไม่ชัด นักบัญชีควรเป็นผู้ชี้ขาด
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. บอกอย่างระมัดระวังว่า การจะตัดสินว่าโรงพยาบาลขาดทุนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสูตรที่ใช้วิเคราะห์ และตนไม่ขอแสดงความเห็น เพราะไม่อยากเข้าข้างฝ่ายใด โดยระบุว่า เป็นเรื่องทางบัญชีที่ผู้เชี่ยวชาญควรเป็นผู้ชี้ขาด
นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชบุรี บอกว่า นักบัญชีมักดูทั้ง 2 สูตรควบคู่กัน แต่สำหรับหน้างาน ประเด็นสำคัญคือ เงินสดในมือที่สามารถนำไปจ่ายค่าตอบแทน บุคลากร ค่าเวชภัณฑ์ และหนี้ต่าง ๆ ได้ทันที ไม่ใช่เพียงดูตัวเลขกำไร-ขาดทุนในเชิงบัญชี
ระบบบัญชี vs ระบบสุขภาพ
นพ.สราวุฒิ บุญสุข ผู้แทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ความเห็นว่า การใช้กรอบคิดทางการเงินแบบ Financial System อาจไม่เหมาะกับการประเมินสถานะของโรงพยาบาล เพราะในความเป็นจริง โรงพยาบาลต้องบริหารงานด้วยมุมมองของระบบสุขภาพ (Public Health System) ซึ่งมีปัจจัยซับซ้อนกว่าตัวเลขบัญชี
“ต้นทุนของโรงพยาบาล ไม่ใช่แค่เงินสด แต่รวมถึงยาคงคลัง ค่าจ้างบุคลากร และบริการสุขภาพที่ไม่สามารถแปรเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทันที แต่ยังจำเป็นต้องจ่าย”
นพ.สราวุฒิ บุญสุข
‘เงินในมือ’ คือ เครื่องชี้วิกฤต! ไม่ใช่เพียงผลกำไร – ขาดทุน
ผศ.นพ.สนั่น วิสุทธิศักดิชัย รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ย้ำว่า โรงพยาบาลจะดำเนินการได้หรือไม่อยู่ที่ กระแสเงินสด ไม่ใช่กำไรในบัญชี เพราะหากไม่มีเงินจ่ายหนี้ค่ายา แม้จะมียาในคลังก็ไม่สามารถซื้อเพิ่มได้
“แค่รายรับ ลบรายจ่ายแล้วบอกว่าโรงพยาบาลไม่วิกฤต มันไม่ง่ายแบบนั้น ปัญหาจริงอยู่ที่สภาพคล่อง กระแสเงินสด”
ผศ.นพ.สนั่น วิสุทธิศักดิชัย
รายรับลด เงินเหลือเพื่อพัฒนาระบบน้อยลง
ขณะที่ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท แสดงความคิดเห็นว่า สถานการณ์ที่โรงพยาบาลหลายแห่งไม่มีเงินเพียงพอในการบริหารระบบมีอยู่จริง แม้ไม่ถูกจัดอยู่ในบัญชี “โรงพยาบาลตัวแดง” ก็ตาม
โดยเงินบำรุงรายรับจากระบบลดลงทั่วประเทศ ส่งผลให้การพัฒนาศักยภาพของโรงพยาบาลเป็นไปได้ยาก
“เราไม่ได้แสวงหากำไร แต่ก็อยากมีโรงพยาบาลที่ดีพอสำหรับประชาชนในพื้นที่”
นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ
ระบบบัญชีมีอยู่แล้ว อย่าเถียงตัวเลข
ด้าน นพ.สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ กรรมการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานบริการสาธารณสุข สปสช. เล่าถึงประสบการณ์ตรงว่า เคยเจอสถานการณ์ที่โรงพยาบาลไม่มีเงินสดในมือ แต่สามารถพลิกฟื้นได้ใน 2 สัปดาห์ พร้อมย้ำว่า กระทรวงสาธารณสุขมีระบบข้อมูลและมาตรฐานชี้วัดอยู่แล้ว
“ตัวชี้วัดการเงินของโรงพยาบาลมีระดับ 1 – 7 มีเกณฑ์ชัดเจน ไม่จำเป็นต้องเถียงกันว่าจะเอาสูตรไหนมาตัดสิน เพราะระบบมีอยู่แล้ว ขอให้ทุกฝ่ายเลิกชี้นิ้ว และหันมาร่วมมือกันพัฒนาบัตรทองให้ดียิ่งขึ้น”