จี้ ผอ.พุทธมณฑล เร่งแก้เอกชนขนดินทิ้งท่วมต้นไม้ หวั่นกระทบพื้นที่รับน้ำ

“รสนา”เรียกร้อง ผอ.พุทธมณฑลเร่งแก้ปัญหาเอกชนขนดินทิ้งถนนสาย ค.พุทธมณฑลต่อเนื่อง 3-4 เดือน ท่วมต้นไม้เกือบครึ่งลำต้น หวั่นทำต้นไม้ตายกระทบพื้นที่รับน้ำ จี้หน่วยงานตรวจสอบพื้นที่พุทธมณฑลกว่า 2,500 ไร่ ทำตามเจตนารมณ์ “สนับสนุนการเวียนเทียนต้นไม้และรมณียสถาน”หรือไม่

จากกรณี รสนา โตสิตระกูล ประธานอนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม อดีตสมาชิกวุฒิสภา นักเคลื่อนไหวทางสังคม โพสต์ผ่านเฟสบุ๊ก ตั้งคำถามถึง ผอ.พุทธมณฑล เกี่ยวกับภาพการนำดินมาถมสูงบริเวณ ถนนอ้อมหลังพุทธมณฑลสาย ค โดยสันนิษฐานว่า มาจากโครงการก่อสร้างของบริษัทเอกชนที่ขุดดินแล้ว ไม่มีที่ทิ้ง จึงมาติดต่อขอใช้พื้นที่ของพุทธมณฑลเป็นที่ทิ้งดิน ใช่หรือไม่ พร้อมโพสต์ภาพพื้นที่ที่เต็มไปด้วยดินถมสูง

โดยสรุป รสนา ระบุว่า จากภาพถ่ายเห็นได้ชัดว่า มีการนำดินมาถมบนที่ดินที่มีต้นไม้สูงเกือบครึ่งลำต้นของต้นไม้ แม้แต่ นักการเกษตร คนปลูกต้นไม้ทั่วไป ทุกคนก็บอกได้ว่าถมดินแบบนี้ ต้นไม้ไม่รอดแน่ และหลังจากได้ส่งภาพนี้ให้ นักภูมิสถาปัตย์ (Landscape designer) และรุกขกรดู ได้ข้อมูลมาว่า การถมดินสูงครึ่งลำต้นเช่นนี้ จะทำให้ต้นไม้ตายหมดในไม่ช้า ถือเป็นการฆาตกรรมต้นไม้ที่ผู้บริหารพุทธมณฑลไม่ควรจะทำเช่นนี้

นอกจากนี้ รสนา ยังย้ำว่า ก่อนหน้านี้ คิดว่า พุทธมณฑลกำลังจะปรับภูมิทัศน์ก่อสร้าง แต่สงสัยว่าเหตุใดจึงไม่มีป้ายแสดงโครงการ ต่อมา เพิ่งเห็นชัดเจนว่า เป็นการเปิดให้บริษัทก่อสร้างภายนอก นำดินมาทิ้งในพุทธมณฑล และมีการขยายพื้นที่ทิ้งมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากเป็นการทำลายต้นไม้ใหญ่ที่ใช้เวลานานกว่าจะเติบโตให้ร่มเงาขนาดนี้ ยังทำลายภูมิทัศน์ของพุทธมณฑล

ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ และผู้คนที่เดินทางมาวัดญาญเวศกวัน ได้เห็นสภาพในปัจจุบัน ล้วนมีความเป็นห่วงต้นไม้จำนวนมาก ที่ถูกดินถมสูงครึ่งลำต้น ที่จะค่อยๆยืนต้นตายในไม่ช้า จึงขอเรียนให้ท่านผู้อำนวยการพุทธมณฑลโปรดยุติการให้เอกชนภายนอกเอาดินมาทิ้ง และช่วยกันแก้ไขสภาพการถมดินที่เป็นอันตรายต่อต้นไม้ด้วย

ภาพบางส่วนจากเฟสบุ๊กส่วนตัว “รสนา โตสิตระกูล”

พุทธมณฑล ทำเวียนเทียนต้นไม้ สนับสนุน รมนีย์ ขัดแย้งเจตนารม์ หลัก ลดพื้นที่รับน้ำในพุทธมณฑล ปี 2554 เคยมีประสบการณ์น้ำท่วมใหญ่ น้ำสูง ไม่มาก พุทธมฑล รับน้ำ เรียกร้องให้หยุดการกระทำ และแก้ไขต้นไม้ที่ตายหมด ถมไปครึ่งต้น ต้นไม้เริ่มเฉา แต่ยังทำต่อ

The Active สอบถามไปที่ รสนา ยืนยันว่า บริเวณนี้อยู่บนถนนสาย ค. พุทธมณฑล จ.นครปฐม และพื้นที่ของสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีพื้นที่เกี่ยวเนื่องมากกว่า 2,500 ไร่ แต่ในส่วนของหน่วยงานที่ดูแลต้นไม้ ระบบการบริหารขึ้นอยู่กับ สำนักนายกฯ มีผู้อำนวยการพุทธมณฑล เป็นผู้ดูแล ซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่เห็นการประชุมอย่างเปิดเผย ว่า จะใช้งบประมาณในการก่อสร้างพื้นที่อะไรในพื้นที่ดังกล่าว

จึงมีความกังวลว่า หากไม่หยุดการกระทำดังกล่าว จะกระทบทั้งระบบนิเวศ ขัดแย้งกับเจตนารมณ์ พุทธมณฑล ที่มีกิจกรรมการเวียนเทียนต้นไม้ และสนับสนุนรมณียสถาน จึงเรียกร้องให้หยุดการกระทำดังกล่าว เพื่อแก้ไขต้นไม้กำลังจะตาย และอาจกระทบไปถึงพื้นที่รับน้ำ เพราะในกรณีที่น้ำขึ้นสูงไม่มาก พื้นที่ดังกล่าวยังคงเป็นพื้นที่รับน้ำของจังหวัดนครปฐมได้ หากถมสูงต่อเนื่อง และไม่แก้ปัญหาอาจสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวนครปฐม และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่พุทธมณฑล

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active