เสียงส่วนใหญ่ ชาวเสิงสาง-ครบุรี เห็นพ้อง! ใช้แนวเขต ปี 43 กัน ‘อช.ทับลาน’ ออกจากชุมชน  

‘หน.อุทยานทับลาน’ ยัน อยากเห็นการแก้ปัญหา กันแนวเขตสำเร็จ แต่ต้องอยู่บนหลักเหตุผลและการตรวจสอบคุณสมบัติ ขณะที่ อนุกรรมการฯ สคทช. เชื่อ การรับฟังความเห็นรอบนี้ จะเป็นที่ยอมรับของคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติฯ เดินหน้ากันแนวเขตแล้วเสร็จ เพราะลงลึก ครอบคลุม 

เมื่อเร็ว ๆ นี้  ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เข้าร่วมเวทีการรับฟังความคิดเห็น และการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียชุมชนที่เกี่ยวข้อง ในการกำหนดเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จ.นครราชสีมา ภายใต้คณะอนุกรรมการอิสระเพื่อศึกษากำหนดแนวทางมาตรการเร่งรัดการปรับปรุงแนวเขตที่ดินของรัฐ  (ONE MAP) ที่มี รศ.ธนพร ศรียากูล เป็นประธาน โดยมีชาวบ้านมาร่วมเวทีดังกล่าวอย่างเนืองแน่น 

เวทีเริ่มต้นด้วยการย้ำถึงที่มาที่ไปในการจัดเวทีรับฟังความเห็นรอบนี้ ที่นอกจากประเด็นปัญหาข้อร้องเรียน ที่เห็นว่าการจัดเวทีรับฟังความเห็นของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รอบก่อนไม่ครอบคลุม และเกิดข้อสงสัยข้อกังวลในการตั้งคำถามในการรับฟังความเห็นที่ไม่ชัดเจนและกำกวม ว่าจะยึดแนวเขตการประกาศอุทยานแห่งชาติในปี 2524 หรือแนวเขตที่มีการสำรวจร่วมกันใหม่ในปี 2543 ตลอดจนการปลุกกระแสสังคมที่เข้าใจผิดเหมารวมว่าการกันเขตอุทยานแห่งชาติทับลานจะเป็นการเฉือนป่า จนออกมา #Saveทับลาน ทั้งที่มีชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่มาแต่ดั้งเดิมที่พวกเขายืนยันสิทธิว่าไม่ใช่นายทุนหรือผู้บุกรุก 

ประกอบกับตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2566 เห็นชอบให้ใช้แผนที่ ONE MAP  มาตราส่วน 1 : 4,000 ซึ่งมีความละเอียดกว่าแผนที่เดิมที่แต่ละหน่วยงานถืออยู่ ในการเข้ามาแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐ ที่ทับซ้อนกันในอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐที่มีพื้นที่แนวเขตสารพัดหน่วยงานทับซ้อนกันเต็มไปหมด เช่น กรมป่าไม้, กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช, กรมที่ดิน ที่ผ่านมาต่างหน่วยต่างถือแผนที่กันคนละฉบับ เมื่อเทคโนโลยีดีขึ้น จึงทำแผนที่เป็นแนวเขตเดียวกัน พอ ครม. ให้ความเห็นชอบ หน่วยงานที่เป็นเจ้าของแผนที่ก็ต้องเอามติ ครม. ที่ให้ความเห็นชอบแล้ว มาปรับปรุงแผนที่ตัวเองให้สอดคล้องกับมติ ครม.  การรับฟังความเห็นรอบนี้  จึงเน้นให้ความสำคัญในการลงมารับฟังเสียงชาวบ้านผู้มีส่วนได้เสียถึงพื้นที่จริง 

ทั้งนี้ พื้นที่ตำบลครบุรี มีพื้นที่รวมกว่า 70,000 กว่าไร่ อยู่ในพื้นที่ทับซ้อนอุทยานแห่งชาติทับลาน ในแนวเส้นสีดำทึบตามภาพ ประมาณ 40,000 กว่าไร่

อช.ทับลาน ยัน ไม่เคยหวงพื้นที่ พร้อมทำตามกฎหมายกันแนวเขตให้ชาวบ้าน

ประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน บอกว่า หากดูรายละเอียดตามแผนที่ ก็ชัดเจนว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ในตำบลครบุรีใต้ เป็นพืชนาไร่สวนของพี่น้องประชาชน มองในภาพรวมก็ชัดว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นที่อยู่อาศัยที่ทำกินของราษฎร แต่ก็ต้องเข้าใจว่าเมื่อมีกฎหมาย ก็ต้องแก้ที่ตัวกฎหมาย ย้ำว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้หรือเจ้าหน้าที่อุทยาน ไม่มีความคิดว่าจะต้องให้มันกลับมาเป็นป่าเหมือนเดิม เราเห็นสภาพแล้วว่าเป็นชุมชน

“การแก้ที่ตัวบทกฎหมาย พูดตรง ๆ กฎหมายเป็นของคนทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนมันก็เลยเหมือนไม่มีความยุติธรรม เพราะแต่ละพื้นที่มีบริบทต่างกัน เพราะฉะนั้นการแก้กฎหมายในครั้งนี้สิ่งที่ผมอยากจะบอกพ่อแม่พี่น้อง เราต้องเอาเหตุผลมาว่ากัน อย่างคราวที่แล้วถ้าใครจำได้ว่าเราเคยไปที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ไปลงชื่อกันแนวเขต แต่ก็ไปตีความว่ามันคือการโหวต คนโหวตเยอะกว่า คนโหวตน้อยกว่า คือถ้าเป็นแบบนั้นเนี่ยไม่จบหรอก ฉะนั้นก็ให้เอาเหตุผลพ่อแม่ที่จะต้องออกจากอุทยานแห่งชาติเป็นสำคัญ”

“โดยยกตัวอย่าง เช่น มาอยู่ก่อนประกาศอุทยานฯ มาอยู่ก่อนประกาศเขตป่าสงวนหรือไม่ มีเอกสารสิทธิ์ มีเอกสาร สค.มายังไง หรือมาจากการที่รัฐบาลจัดสรรที่ให้อย่างไรก็ใส่เข้าไป จึงพยายามหาเหตุผลให้ได้มากที่สุด เพื่อทาง สคทช.หรือแม้แต่ รศ.ธนพร จะเป็นผู้ที่เรียบเรียงนำไปขับเคลื่อนให้เพิกถอนอุทยานแห่งชาติทับลานออกจากชุมชน”

ประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ

ประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน

หน.อุทยานแห่งชาติทับลาน ย้ำว่า ไม่มีใครต้องการจะเห็นว่านี่เป็นเขตอุทยานฯ ที่มีพื้นที่เยอะที่สุด ก็อยากจะทำงานในพื้นที่ ฉะนั้นการกำหนดเขตอุทยานใหม่ ก็อยากให้สำเร็จแต่ให้มันสำเร็จอย่างมีเหตุผล เพราะก็กลัวว่ามันจะไม่ถึงสุดปลายฝันเหมือนกัน คือถ้ามีเหตุผล สามารถที่จะให้คนทั้งประเทศเขารับรู้ว่านี่คือเหตุผล จึงเชื่อว่ามันสำเร็จได้ เพราะฉะนั้นอุทยานฯ ก็จะได้ดูแลป่าให้เต็มที่ แค่นี้ก็ถือว่าเป็นงานหนักมาก ๆ แล้ว ก็อยากจะย้ำว่าวันนี้ขอให้พี่น้องทุกคน พยายามให้เหตุผลได้มากที่สุดไม่ว่าจะเป็นการเขียนหรือการพูด 

ภายหลังชี้แจงบนเวที หน.อุทยานแห่งชาติทับลาน ย้ำกับ The Active เพิ่มเติมว่า ในฐานะหัวหน้าอุทยาน คิดว่าคนกลุ่มนี้คือกลุ่มเป้าหมายที่ใช่เลย คือต้องเป็นชาวบ้านจริง ๆ เรื่องจะได้จบ เพราะไม่เช่นนั้นคนจะมองว่าเพิกถอนเพื่อเอื้อให้คนมาทำผิดกฎหมาย ตรงนี้ก็ต้องคัดออกไปอีกส่วนหนึ่ง ต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติแต่ต้องเข้าใจ และย้ำอีกทีว่า ชาวบ้านที่ควรจะได้รับสิทธิ์นั้นมี ตนในฐานะคนที่อยู่ในพื้นที่ดูแลพื้นที่ป่า ถ้าเมื่อไหร่ที่มีการแก้กฎหมาย ก็พร้อมที่จะทำตามแนวกฎหมายใหม่ แต่ถ้าคิดว่ามันไม่ถูกต้องก็ต้องเริ่มใหม่กับชาวบ้านเอาเหตุผลมาจริง ๆ ตั้งโต๊ะใหม่ได้ ซึ่งตนจะพูดประจำว่าให้ทำหลาย ๆ แนวไปพร้อมกันได้เลย

เสียงส่วนใหญ่ชาวครบุรี เห็นด้วยให้ใช้เส้นแนวเขต ปี 2543  

ชาวบ้านในตำบลครบุรีใต้ ร่วมสะท้อนเหตุผลของการกันแนวเขต โดยต่างยืนยัน อยู่มาตั้งแต่บรรพบุรุษ ก่อนการประกาศอุทยานแห่งชาติทับลานในปี 2524 ทำเกษตรปลูกพืชตามนโยบายรัฐที่สนับสนุนมาอย่างเนื่อง แต่การที่อยู่ในที่ทับซ้อนเขตอุทยานฯ ทำให้เข้าไม่ถึงสิทธิต่าง ๆ ที่ได้รับจากโครงการสนับสนุนการพัฒนาของภาครัฐ หรือแม้แต่การชดเชยเยียวยาเมื่อประสบปัญหาผลผลิตการเกษตรตกต่ำและผลกระทบจากภัยพิบัติ โครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เช่น ไฟฟ้า ถนนหนทางก็เข้าไม่ถึง ที่สำคัญห่วงอนาคตลูกหลานที่ไม่มีความมั่นคงในที่ดินทำกินที่อยู่อาศัย จึงอยากให้กันแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานที่ทับสิทธิชุมชน โดยใช้เส้นแนวเขต ปี 2543 เพราะมีการสำรวจเห็นร่วมกันทุกฝ่ายแล้ว 

ปรีชา ทิพยเวช กรรมการกลุ่มทับลาน 43 

ส่วนที่มีคำถาม หรือการอ้างว่า การกันแนวเขตออกจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จะกระทบต่อพื้นที่มรดกโลกนั้น ปรีชา ทิพยเวช กรรมการกลุ่มทับลาน 43 ขอเป็นตัวแทนชี้แจงต่อประเด็นนี้ ว่า เมื่อปี 2548 กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ทำหนังสือถึงยูเนสโก ว่า ขอขึ้นมรดกโลกระหว่างป่าดงพญาเย็นเขาใหญ่ โดยใช้แผนที่แนวเขตปี 2524 ไปพลาง ๆ ก่อน พร้อมระบุสิ่งที่ต้องทำในการปรุงแนวเขตให้ชัดเจนดังต่อไปนี้

  1. สร้างคอร์ริดอร์ หรือทางสัตว์ป่าข้าม ระหว่างป่าดงพญาเย็นกับทับลาน ซึ่งได้สร้างไปแล้ว นั่นคืออุโมงค์ที่ทับลาน  

  2. สัญญาไว้ว่าจะกันพื้นที่ผนวกเป็นอุทยานแห่งชาติทับลานเพิ่มเติมขึ้น 110,000 ไร่

  3. สัญญาว่าจะจัดการกันพื้นที่ชุมชนออกจากอุทยานแห่งชาติทับลานจำนวน 270,000 กว่าไร่ ซึ่งสอดคล้องกับแนวเขตปี 2543

“ดังนั้นเมื่อไปสัญญาแล้วต้องทำ เพราะฉะนั้นถ้าไม่กันพื้นที่อุทยานฯ ออกจากชุมชนต่างหากจะส่งผลกระทบกับมรดกโลกมากกว่า เพราะเป็นข้อตกลงกันไว้ว่าจะทำตั้งแต่ปี 2550 ตามปฏิทินของกรมป่าไม้ ก็บอกว่าให้สำรวจเร่งด่วน ให้กันพื้นที่ตามแนวเขตโดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 105,000,000 บาทเลยทีเดียว”

ปรีชา ทิพยเวช

จากนั้นชาวบ้านครบุรีใต้ ได้กรอกแบบรับฟังความเห็น การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียชุมชนที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในการกำหนดพื้นที่ให้เป็นอุทยานแห่งชาติทับลาน(เพิ่มเติม) โดยมีประเด็นคำถามสำคัญเส้นแนวเขตที่ใช้ในการปรับปรุงแผนที่แนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน  “ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับกรณีที่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะดำเนินการปรับปรุงเส้นแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 มีนาคม2566 โดยใช้เส้นแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานปี 2543 เพื่อแก้ไขปัญหาแนวเขตทับซ้อนที่ดินของรัฐซึ่งสามารถแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนด้านที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยได้” ขอให้ผู้แสดงความเห็นตอบว่า “เห็นด้วย” หรือ “ไม่เห็นด้วย” พร้อมระบุเหตุผล ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ต่างระบุว่า “เห็นด้วย”

เชื่อการรับฟังความเห็นรอบนี้ จะเป็นที่ยอมรับ

รศ.ธนพร ศรียากูล ประธานคณะทำงานพิจารณาเสนอแนวทางเกื่ยวกับประเด็นร้องเรียนกรณีการรับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียในการกำหนดเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน เปิดเผยกับ The Active ว่า การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นรอบนี้ เริ่มต้นต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา ตั้งแต่ อ.เสิงสาง ใน 4 ตำบล คือ โนนสมบูรณ์, กุดโบสถ์, สระตะเคียน และบ้านราษฎร์ จากนั้นต่อด้วย อ.ครบุรี  6 ตำบล คือ โคกกระชาย, ลำเพียก, จระเข้หิน, บ้านใหม่, ครบุรี และครบุรีใต้  ซึ่งกล้าพูดได้ว่าเป็นเวทีแรกที่ลงถึงระดับตำบล เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมอย่างครอบคลุมจริง ๆ 

ทั้งนี้จากการรับฟังความเห็นมาครึ่งทาง พบว่า เสียงส่วนใหญ่ต่างเห็นด้วยในการปรับปรุงเส้นแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 โดยใช้เส้นแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานปี 2543 เพื่อแก้ไขปัญหาแนวเขตทับซ้อนที่ดินของรัฐ ซึ่งสามารถแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนด้านที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยได้ ซึ่งคำถามไม่ซับซ้อนและได้คำตอบชัดเจนตามที่ชาวบ้านคาดหวัง 

“ความคิดเห็นที่ได้ ทั้ง เห็นด้วย หรือแม้แต่หากมีไม่เห็นด้วย ก็จะนำไปที่คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเหตุผลความเห็นรอบนี้ส่วนใหญ่ก็ย้ำอยู่กันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ รุ่นพ่อแม่สืบทอดกันมา หลายตำบลโยกย้ายเข้ามาตามนโยบายความมั่นคงของรัฐในยุคสมัยนั้น เพราะฉะนั้นแล้วความเห็นทุกความเห็น ก็จะเป็นคุณค่าในแต่ละพื้นที่ ก็จะทำให้คณะกรรมการอุทยานยานแห่งชาติสิ้นสงสัยว่าชาวบ้านเขามีเหตุมีผลแล้วก็มีที่มาที่ไปชัดเจน” 

รศ.ธนพร ศรียากูล

รศ.ธนพร ยังมั่นใจว่า คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติทราบดีอยู่แล้วว่าปัญหาอุทยานแห่งชาติทับลาน เป็นปัญหายืดเยื้อเรื้อรัง แล้วโดยข้อเท็จจริงแล้ว จริง ๆ ไม่ว่าจะมองในมุมไหนหลักฐานทางวิทยาศาสตร์หรือเดินไปสำรวจก็ชัด ไม่ควรจะเป็นอุทยานแห่งชาติตั้งแต่ต้น เพราะไม่ใช่พื้นที่ป่าจริง ๆ อันนี้เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่สามารถที่จะอธิบายต่อสังคมได้ และกรมอุทยานฯ พร้อมรับไปดำเนินการแน่นอน 

“ผมเรียนเลยว่า คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ เขารอพิจารณาเรื่องนี้ เพราะว่าเขารอเรา คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติจะต้องรับมติคณะรัฐมนตรีในการพิจารณา เพื่อจะนำมาปรับปรุงแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา อุทยานแห่งชาติทับลานฉบับเดิม จริง ๆ ก็มีการรับฟังความเห็นรอบแรกไปแล้วที่เป็นปัญหา เพราะฉะนั้นรอบนี้ เราก็ได้ประสานไปยังคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติแล้วว่า ความเห็นในเวทีนี้เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว เราก็จะนำรายงานเสนอต่อรองนายกรัฐมนตรี ประเสริฐ จันทรรวงทอง ที่เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ แล้วก็ส่งไปที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแล้วก็บรรจุในระเบียบวาระ ในการประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติทันทีเพราะตอนนี้มีวาระรออยู่แล้ว และการประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติเขาก็มีวาระจะประชุมกันทุก ๆ 2 เดือนเพราะฉะนั้นจะเห็นว่าขั้นตอนตรงนี้จะเป็นขั้นตอนที่ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลก็ต้องปฏิบัติปฏิบัติตามขั้นตอนนี้”

รศ.ธนพร ศรียากูล

รศ.ธนพร ศรียากูล ประธานคณะทำงานพิจารณาเสนอแนวทางเกื่ยวกับประเด็นร้องเรียนกรณีการรับฟังความคิดเห็น
และการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียในการกำหนดเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน

ทั้งนี้ ไม่ใช่แต่เฉพาะการรับฟังความเห็นชาวบ้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ แต่เตรียมจัดเวทีรับฟังความเห็นภายนอกในทุกภูมิภาคด้วย ขณะเดียวกันก็มีข้อมูลวิชาการที่ทำร่วมกับกรมอุทยานฯ ในหลายหลายพื้นที่ที่เป็นประเด็นอยู่ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการกระจายตัวของสัตว์ป่า เรื่องระบบนิเวศ และอีกหลายข้อมูลสำคัญด้วย เพราะฉะนั้นตรงนี้เลยเป็นข้อเท็จจริงที่ใครปฎิเสธไม่ได้

จากนี้จะเดินหน้ารับฟังความเห็นที่ อ.ปักธงชัย และวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ต่อด้วย อ.นาดี จ.ปราจีบุรี และ อ.เมืองสระแก้ว ซึ่งจะแล้วเสร็จในวันที่ 24 ส.ค.นี้ 

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active