สมัชชาคนจน ยื่นหนังสือชี้การเมืองเปลี่ยนขั้ว ทำการแก้ปัญหาสะดุด

ด้าน รมว.เกษตรฯ ร.อ.ธรรมนัส สัญญาจะเร่งแก้ปัญหาให้ ยันรู้ปัญหาดี เพราะเป็นตัวแทนรัฐบาลเข้าเจรจากับกลุ่มสมัชชาคนจนตั้งแต่แรก

เมื่อวันที่ 26 ก.ย.2568 ตัวแทนสมัชชาคนจนแต่ละกรณีปัญหานัดหมายรวมตัวบริเวณกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อยืนหนังสือถึงตัวแทนรัฐบาล โดยมีกรณีปัญหา อาทิ ตัวแทนจากกรณีปัญหาที่ดิน กรณีผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการสร้างเขื่อนปากมูล เขื่อนราษีไศล กรณีผู้ได้รับผลกระทบจากการประกาศเขตพื้นที่ป่าไม้ กรณีปัญหาแรงงาน เป็นต้น

สืบเนื่องจากสมัชชาคนจนได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลทุกรัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งขึ้นมาบริหารประเทศ เพื่อให้แก้ไขปัญหาของสมัชชาคนอย่างต่อเนื่องตลอดมา ต่อมาเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีมติให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะเป็นเหตุให้กลไกในการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจนเป็นอันสิ้นสุดลง ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้นจึงเดินทางมายื่นหนังสือในฐานะรัฐบาลแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน

โดยตัวแทนแต่ละกรณีปัญหาได้กล่าวปราศรัยถึงความไม่คืบหน้าของการแก้ไขปัญหาเนื่องจากปัญหาการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีบ่อยครั้งทำให้กระบวนการแก้ไขปัญหามีความสะดุดและไม่ต่อเนื่อง ตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาการสร้างเขื่อนปากมูล แม่สมปอง เวียงจันทร์ ได้สะท้อนว่า

“ปัญหาทางการเมืองในทุกวันนี้มาจากรัฐธรรมนูญฉบับปี 60 ที่ถูกสร้างให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมีความอ่อนแอจึงส่งผลต่อกระบวนการแก้ไขปัญหาของพวกเราที่ต้องอาศัยอำนาจจากนายกรัฐมนตรีในการแต่งตั้งกลไกการแก้ไขปัญหาของพี่น้องเมื่อเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีใหม่ทำให้กลไกต่างๆต้องกลับมาเริ่มใหม่ทุกครั้งทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ได้ข้อยุติทำให้พวกเราต้องมาในวันนี้เพื่อยื่นหนังสือกับรัฐบาลอีกครั้ง” แม่สมปองกล่าว

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เข้าพบปะกับตัวแทนสมัชชาคนจนพร้อมชี้แจงว่า ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเดิมในช่วงปี พ.ศ. 2566 เป็นช่วงที่มีการชุมนุมของสมัชชาคนจน เขาก็ได้เป็นตัวแทนรัฐบาลเข้าเจรจากับสมัชชาคนจนตั้งแต่แรก จึงเข้าใจปัญหาเป็นอย่างดีและด้วยปัญหาทางการเมืองทำให้เกิดปัญหาและอุปสรรคในการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจนได้ไม่เต็มที

“ดังนั้นในฐานะที่เข้ารับตำแหน่งแล้ว สัญญากับพี่น้องว่าผมจะทำให้ดีที่สุดจะเร่งการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องสมัชชาคนจนอะไรที่มีความคืบหน้าแล้วก็จะเร่งให้ได้รับการแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วนและจะรีบให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจนทั้ง 7 คณะ”

สำหรับคณะกรรมการทั้ง 7 คณะ ประกอบไปด้วย คณะกรรมการกำกับและติดตามการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน คณะกรรมการแก้ไขปัญหาสมัชชาคนจน กรณีแก้ไขปัญหาป่าไม้และที่ดินในรูปแบบนิคมสหกรณ์ คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน กรณีเขื่อนหัวนาและเขื่อนราศีไศล คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน กรณีปัญหาเขื่อนปากมูล คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน กรณีปัญหาที่ดินในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย และ คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน กรณีปัญหาแรงงาน ซึ่ง ร้อยเอกธรรมนัส ระบุว่า เพื่อให้เป็นกลไกในการแก้ไขปัญหาตามข้อเสนอของสมัชชาคนจนต่อไป

ไพทูรย์ สร้อยสด เลขาธิการสมัชชาคนจนได้ชี้แจงเพิ่มเติมในส่วนของกรณีปัญหาที่มีความเร่งด่วน 2 กรณี ได้แก่ กรณีโครงการอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร จังหวัดชัยภูมิ ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่สร้างอ่างเก็บน้ำผลการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติเห็นชอบให้สำนักปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจนทำเรื่องเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบเพื่ออนุมัติงบประมาณในการจัดซื้อที่ดินตามผลการดำเดินงานของคณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน อีกกรณีปัญหาที่สาธารณประโยชน์โคกหนองเหล็ก ตำบลแคน อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นกรณีที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างโรงเรียนหนองขุนศรีวิทยาทับที่ดินของราษฎร จำนวน 5 ราย โดยความคืบหน้าครั้งล่าสุดที่ประชุมได้มีมติ มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเร่งรัดดำเนินการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี ซึ่งในฐานะตัวแทนสมัชชาคนจนจึงอยากให้ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ในฐานะตัวแทนรัฐบาลรับปากกับสมัชชาคนจนว่าจะติดตามและเร่งรัดการแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด


โดยร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ได้ทิ้งท้ายไว้ว่า “ขอให้ไว้วางใจตน อันไหนทำได้จะทำให้อย่างเร็วที่สุดเพื่อพ่อแม่พี่น้องคนจน”

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active