กมธ.สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ชง 3 กระทรวง ผลักดัน “สิทธิเด็กไทยกับความปลอดภัยทางถนน” ยกระดับลดอุบัติเหตุ ระบบรถรับ-ส่งนักเรียน มาตรฐานทางม้าลาย กำหนดความเร็ว 30-40 กิโลเมตร/ชั่วโมง บริเวณหน้าโรงเรียนและเขตชุมชน หนุนจัดหลักสูตรเรียนรู้ “ความปลอดภัยทางถนน” ทุกระดับ
คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ร่วมกับ คณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน วุฒิสภา จัดเสวนา “สิทธิเด็กไทยกับความปลอดภัยทางถนน”
สมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา และประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวว่า เสวนาครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ “สร้างความปลอดภัยทางถนนให้กับเด็กและเยาวชน” รวมถึงให้ความรู้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน แนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน ร่วมกำหนดมาตรฐานสิทธิและความปลอดภัยทางถนนสำหรับเด็กและ เยาวชน พร้อมยื่นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายให้กับ 3 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, กระทรวงศึกษาธิการ และ กระทรวงคมนาคม
“ปัจจุบันเด็กและเยาวชน เป็นวัยที่ออกนอกบ้านมากขึ้น เช่น ไปโรงเรียน ไปเล่นนอกบ้าน ซึ่งห่างไกลจากพ่อแม่ มีการเล่นกันเป็นกลุ่ม และเริ่มเดินทางในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การโดยสารรถยนต์ส่วนบุคคล รถยนต์สาธารณะ การเดินทางจึงมีความเสี่ยงต่อเด็กเสมอ หากไม่ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน มีความรู้ ความปลอดภัยทางถนน จะทำให้อัตราการตายจากอุบัติเหตุทางถนนในเด็กและเยาวชนมีจำนวนสูงมากขึ้น แนวทางการบรรเทา และแก้ไขปัญหา ต้องพิจารณากำหนดรูปแบบการขนส่งที่ดีต่อสุขภาพ ให้มีมาตรฐานด้านความปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน เพื่อคุ้มครองสิทธิความปลอดภัยทางถนนของเด็กและเยาวชน”
สมชาย แสวงการ
สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สมาชิกวุฒิสภา และประธานคณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินและความปลอดภัยทางถนน วุฒิสภา ระบุ ข้อมูลจากมูลนิธิไทยโรดส์ปี 2562 พบ กลุ่มเด็กโต-เยาวชน สวมหมวกกันน็อกเพียง 10-20% เป็นเด็กเล็กเพียง 8%
ขณะที่สำนักงานสถิติแห่งชาติ เคยสำรวจพฤติกรรมสุขภาพปี 2564 พบความเสี่ยงสำคัญ ในเด็กเยาวชน อายุ 15-24 ปี ดื่มแอลกอฮอล์กว่า 1,917,610 คน เยาวชนกลุ่มอายุ 15-19 ปี 49% ดื่มแล้วขับ ในช่วง 7 วันอันตรายของเทศกาลปีใหม่-สงกรานต์ เด็กเยาวชน อายุต่ำกว่า 20 ปี ดื่มแล้วขับ เกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บรักษาในโรงพยาบาล เฉลี่ย 800-1,000 คนต่อปี
นอกจากนี้ความเสี่ยงบนท้องถนนของเด็ก และเยาวชน ยังมีเรื่องของรถรับ-ส่ง นักเรียน โดยพบว่า ในปี 2565 เกิดอุบัติเหตุถึง 30 ครั้ง เป็นอุบัติเหตุรถรับส่งนักเรียน 27 ครั้ง อุบัติเหตุจากภัยธรรมชาติ 2 ครั้ง ลืมเด็กบนรถ 1 ครั้งเฉลี่ย เกือบเดือนละ 3 ครั้ง เพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าจากปี 2564 และที่น่าสลดใจอย่างมาก คือ การลืมเด็กบนรถรับ-ส่งนักเรียนในช่วง ปี 2555-2565 เกิดความสูญเสียถึง 11 ศพ
“คณะกรรมการบูรณาการกู้ชีพฉุกเฉินฯ จึงร่วมกับ สสส. และภาคีเครือข่ายความปลอดภัยทางถนน ร่วมกันขับเคลื่อนการยกระดับของการลดอุบัติเหตุ สร้างมาตรการความปลอดภัย และร่วมบริหารจัดระบบรถรับ-ส่งนักเรียนที่ปลอดภัย ปรับปรุงทางม้าลายให้มีมาตรฐานความปลอดภัย และ สนับสนุนการกำหนดความเร็วที่ 30-40 กิโลเมตร/ชั่วโมง บริเวณหน้าโรงเรียนและเขตชุมชน สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย และความรับผิดชอบร่วมกัน ผลักดันให้มีหลักสูตรการสอนหรือการจัดการเรียนรู้ “ความปลอดภัยทางถนน” ในชั้นเรียนตั้งแต่ระดับปฐมวัย ถึงอุดมศึกษาที่ชัดเจน โดยเฉพาะทักษะการประเมินสถานการณ์เสี่ยงขณะขับขี่หรือใช้รถใช้ถนน และขอความร่วมมือกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง มีนโยบายดูแลความปลอดภัย และลดอุบัติเหตุทางถนนในกลุ่มเด็กและเยาวชน ซึ่งจะเป็นพลังสร้างชาติในอนาคตต่อไป”
สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย