‘สมัชชาคนจน’ เสนอนักการเมือง มองเห็น ปชช. ดึงการมีส่วนร่วม ลดขัดแย้ง แย่งชิงทรัพยากร

เรียกร้องแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง​ คืนอำนาจให้ประชาชนมีส่วนร่วม​ กำหนดทิศทางการพัฒนา​ ขณะที่ ชาวบ้าน สะท้อนผลกระทบโครงการขนาดใหญ่ทั้งรัฐ เอกชน เวทีสัญจรพรรคการเมืองฟังเสียงคนจน ครั้งที่ 1

เมื่อวันที่ (8 เม.ย.65)​ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏ​สกลนคร​ เครือข่ายภาคประชาชน​หลายองค์กร ร่วมจัด “เวทีสัญจรพรรคการเมือง​ฟังเสียงคนจน” ครั้งที่ 1 โดยมีพรรคการเมืองอย่างน้อย 4 พรรคหลัก เข้าร่วมรับฟังปัญหาจากกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน ซึ่งส่วนใหญ่ มีปัญหาร่วมกันจากโครงการขนาดใหญ่ทั้งจากรัฐและกลุ่มทุน

เวทีสัญจรพรรคการเมือง​ฟังเสียงคนจน ครั้งที่ 1 จ.สกลนคร

บารมี​ ชัยรัตน์​ เลขาธิการสมัชชา​คนจน บอกว่า เวทีนี้ชูประเด็นด้านสิทธิในการจัดการทรัพยากร การกระจายอำนาจ และการพัฒนาท้องถิ่น เนื่องจากในพื้นที่มีปัญหาร่วมกัน โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต และอาจกลายเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุของความยากจน เมื่อมีการแย่งชิงทรัพยากรในพื้นที่​

ชาวบ้าน จึงมีข้อเสนอร่วมส่งต่อไปยังตัวแทนพรรคการเมือง ว่า หากอยู่ในคณะรัฐมนตรีควรจะออกนโยบาย ที่ยึดโยงกับประชาชน โดยเปลี่ยนมุมมองการพัฒนา ไม่ใช่แค่ดึงดูดนักลงทุน แต่ต้องส่งเสริมต้นทุนที่มีอยู่ในชุมชน และหันกลับมามองเรื่องการแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน เกษตรกร เช่น ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทั้งนี้เป้าหมายสูงสุดของเสนอคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ต้องยึดโยงกับประชาชน​

“ที่เราเรียกตัวเองว่าคนจน​ ไม่ได้แปลว่าไม่มีเงินทอง​ แต่เราจนสิทธิ​ จนอำนาจ​ หลาย ๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่เพราะรัฐไม่เปิดให้ชาวบ้านมีส่วนร่วม​ แต่เชื่อว่าถ้ารัฐธรรมนูญ​ซึ่งเป็นกฎหมายใหญ่สุดระบุให้อำนาจประชานอย่างชัดเจน​ จะเป็นการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง​ มาสู่การแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ด้วย”

​บารมี​ ชัยรัตน์​ เลขาธิการสมัชชา​คนจน

นอกจากเวทีสัญจรฯ ครั้งที่ 1 แล้ว จะมีเวทีลักษณะนี้อีก 7 ครั้ง โดยสัญจรไปทั่วประเทศ 4 ภูมิภาค ซึ่งแต่ละเวทีจะมีกลุ่มชาวบ้าน เครือข่ายภาคประชาชน มาร่วมสะท้อนปัญหา และกำหนดประเด็นหลักในแต่ละเวที โดยเชิญพรรคการเมืองเข้าร่วมรับฟัง

‘เหมืองแร่โปแตช’​ วานรนิวาส​ ปมปัญหาเชิงนโยบาย มองข้ามประชาชน

หนึ่งในตัวแทนชาวบ้านที่เข้าร่วมเวทีสัญจรฯ ครั้งนี้ คือ ชาวบ้าน ใน อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร พวกเขาได้นำเสนอปัญหาเกี่ยวกับโครงการเหมืองแร่โปแตช ที่แม้จะคัดค้านกันมาอย่างยาวนาน แต่บริษัทยังเดินหน้า ขออาชญาบัตรสำรวจแร่ และขอประทานบัตรเพื่อทำเหมือง

สุดตา คำน้อย​ ตัวแทนกลุ่มรักวานรนิวาส​ พาThe​ Active​ ลงพื้นที่ไปดู​ร่องรอยการสำรวจแร่ที่หลงเหลืออยู่ โดยบริษัทได้สิทธิ์สำรวจแร่ เมื่อปี 2558 และ ในระหว่างสำรวจ การคัดค้านของชาวบ้านกลายเป็นคดีความและข้อพิพาทเมื่อบริษัทฟ้องร้อง แกนนำชาวบ้าน 9 คนที่ออกมาประท้วง

ล่าสุดแม้อาชญาบัตรสำรวจแร่ของบริษัทจะหมดอายุไปแล้วตั้งแต่ปี 2563 แต่บริษัทยังคงพยายามขอสิทธิ์ในการสำรวจเพิ่มเติม ตาม พ.ร.บ.แร่ฉบับใหม่ ซึ่งชาวบ้านมองว่าการเกิดขึ้นของเหมืองแร่ จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยกากหางแร่ซึ่งเป็นเกลือ จะถูกขุดขึ้นมาและทำให้เกิดปัญหาดินเค็ม อีกทั้งอาจเกิดปัญหาหลุมยุบเพราะเป็นการทำเหมืองใต้ดิน ประเด็นสำคัญที่สุดคือจะต้องมีการแย่งน้ำไปเพื่อการแต่งแร่จำนวนมาก ในขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำเกษตรกรรมก็ต้องอาศัยน้ำจากแหล่งเดียวกัน

“การเกิดขึ้นของเหมืองโปแตชนี้ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐในอดีตที่สนับสนุนกลุ่มทุน ให้ทำอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ด้วยหวังจะเกิดการจ้างงานและเกิดการพัฒนาในพื้นที่ สวนทางกับชาวบ้านที่มองว่าเป็นนโยบายที่แย่งชิงทรัพยากร และละเมิดสิทธิชุมชน”

สุดตา คำน้อย​ ตัวแทนกลุ่มรักวานรนิวาส

นอกจากเหมืองแร่โปแตช ที่ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร แล้ว ในเวทีพรรคการเมืองฟังเสียงคนจน​ ยังมีชาวบ้านจาก อ.วังสะพุง จ.เลย สะท้อนปัญหาการฟื้นฟูเหมืองแร่ทองคำ ที่ยังคงมีสารตกค้างในสิ่งแวดล้อม และ ชาวบ้าน อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี สะท้อนปัญหาเขื่อนปากมูล ที่ทำลายวิถีประมงอีกด้วย

Author

Alternative Text
AUTHOR

วชิร​วิทย์​ เลิศบำรุงชัย

ผู้สื่อข่าวสาธารณสุข ThaiPBS