พีมูฟ จี้ เดินหน้าโฉนดชุมชน 97 พื้นที่ ไม่ยอมรับนโยบาย คทช.

ยื่นหนังสือถึง รมว.กระทรวงทรัพยากรฯ หลังมติ ครม. 3 เดือน ไม่คืบ ‘สกน.’ ยืนยัน 97 พื้นที่ภาคเหนือ ไม่ยอมรับโครงการจัดที่ดินชุมชน ของ คทช. ด้านรองอธิบดีกรมอุทยานฯ เผย รับฟังเสียงประชาชน แต่ต้องคำนึงถึงทั้งสองฝ่าย

วันนี้ (21 มิ.ย. 2565) ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือ พีมูฟ ยื่นหนังสือถึง วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในระหว่างการประชุมเชิงปฏิบัติการ 4 ภาค การแก้ไขปัญหาที่ดินที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ณ ห้องประชุมอาลัมภางค์ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดลำปาง โดยมี สิทธิชัย เสรีส่งแสง รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นผู้รับหนังสือแทน ซึ่งพีมูฟได้เรียกร้องให้เร่งรัดดำเนินการยกระดับการจัดการที่ดินในรูปแบบโฉนดชุมชน ตามที่พีมูฟได้เคลื่อนไหวจนมีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2565 ยืนยัน ไม่รับแนวทางโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล ของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) 

หนังสือระบุว่า สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) ในนามสมาชิกของพีมูฟ ขอเรียนให้ท่านทราบว่าพื้นที่ของ สกน. ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอยืนยันแนวทางการจัดการที่ดิน “ในรูปแบบโฉนดชุมชน” ทุกพื้นที่ ตามมติการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ครั้งที่1/2565 เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2565 ซึ่งผ่านการเห็นชอบตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 

“พวกเราขอเรียนให้ท่านทราบว่า ขณะนี้ ขปส. ได้เร่งรัดให้ คทช. เร่งจัดประชุมเพื่อดำเนินการพิจารณาในการยกระดับการจัดการที่ดินในรูปแบบโฉนดชุมชนและดำเนินการตรวจสอบพื้นที่โฉนดชุมชน 486 ชุมชน โดยขอให้เร่งรัดตรวจสอบความพร้อมเพื่อประกาศรับรองพื้นที่ของ ขปส. จำนวน 196 ชุมชน เป็นพื้นที่ในการจัดที่ดินในรูปแบบโฉนดชุมชน ดังนั้น เพื่อให้เป็นตามข้อเสนอดังกล่าวเราจึงขอเรียกร้องให้ยังท่าน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชะลอการดำเนินการตามมาตรการของ คทช. ที่ มีอยู่ในปัจจุบัน ในพื้นที่ของ สกน. และ ขปส. เอาไว้ก่อนจนกว่าจะมีระเบียบหรือหลักเกณฑ์ปฏิบัติของ คทช. ตามมาตรา 10 (4) แห่งพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ที่ชัดเจน”

หนังสือระบุ

สมชาติ รักษ์สองพลู ชาวกะเหรี่ยงบ้านกลาง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ผู้แทนพีมูฟ กล่าวว่า ภาพรวมของจังหวัดลำปางนั้น เป็นเรื่องการประกาศอุทยานแห่งชาติ โดยมีการเตรียมการประกาศอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท ซึ่งพีมูฟได้ยืนยันให้กันพื้นที่อุทยานฯ ออกก่อนจึงประกาศ เนื่องจากเกรงว่าจะถูกจำกัดสิทธิตามวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ และแนวทางการจัดการที่ดินของ คทช. นั้นมีข้อจำกัด ไม่ครอบคลุมในพื้นที่ จึงยืนยันให้มีการยกระดับแนวทางโฉนดชุมชน รวมถึงใช้มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 3 ส.ค. 2553 ว่าด้วยแนวนโยบายและหลักปฏิบัติในการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง ควบคู่กันไป

“ในกรณีเรื่อง คทช. เมื่อวานเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็โทรหาผม ว่าจะไปสำรวจแบบ คทช. ผมก็แจ้งไปว่าเรายืนยันว่าจะสำรวจแบบโฉนดชุมชน ที่อยู่ภายใต้มาตรา 10 (4) ตาม พ.ร.บ.คทช. อยู่แล้ว ก่อนหน้านั้นก็มีการสำรวจแบบ คทช. แล้วประมาณ 2,000 กว่าไร่ที่บ้านผม แต่ปรากฏว่าจะออก คทช. ได้แค่ไม่กี่ร้อยไร่ บ้านเราอยู่บนภูเขา ติดเงื่อนไขที่ไม่สามารถจัด คทช. ได้ เราจึงยังยืนยันว่าจะใช้แนวทางโฉนดชุมชนและแนวทางตามมติ ครม. 3 ส.ค. 2553 อยากจะให้หนังสือที่เรายื่นไปนั้นไปสู่ระดับการปฏิบัติในพื้นที่ด้วย”

สมชาติ รักษ์สองพลู

นอกจากนั้น พีมูฟได้ยื่นบัญชีรายชื่อชุมชนในภาคเหนือแนบท้ายที่ยืนยันใช้แนวทางโฉนดชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากร รวมทั้งสิ้น 97 ชุมชน ใน 7 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง เชียงราย ลำพูน น่าน แม่ฮ่องสอน แพร่ และตาก

ด้าน รองอธิบดีกรมอุทยานฯ ได้ให้นโยบายต่อที่ประชุมว่า ราชการเป็นแค่เครื่องมืออย่างหนึ่งที่จะช่วยกันดูแลทรัพยากรเพื่อให้ภาพรวมของประเทศได้รับผลประโยชน์สืบต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน ในการดำเนินการต่าง ๆ เราก็พยายามฟังเสียงเรียกร้องของประชาชนให้มากที่สุด อะไรที่ทำให้ประชาชนกินดีอยู่ดี มีความรักในถิ่นฐาน เราก็จะดำเนินการให้เป็นไปตามที่ประชาชนต้องการ แต่เราก็ต้องมีกฎหมายที่ต้องใช้บังคับกับทุกคน ทุกแห่งในพื้นที่ของเรา เราก็ต้องคำนึงถึงทั้งสองฝ่าย ทั้งพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อน และฝ่ายของคนทั่ว ๆ ไปที่จะได้รับผลด้วย

Author

Alternative Text
AUTHOR

วชิร​วิทย์​ เลิศบำรุงชัย

ผู้สื่อข่าวสาธารณสุข ThaiPBS