ตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ไทดำ สุราษฎร์ธานี วอนรัฐบาล ยุติขับไล่ออกจากที่ทำกิน ขอ อนุฯ แก้ปัญหาที่ดิน เร่งคืนสิทธิที่ดินดั้งเดิม
วันนี้ (21 เม.ย. 68) ตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ไทดำ จาก จ.สุราษฎร์ธานี เดินทางมาปักหลักด้านหน้าสำนักงานองค์การสหประชาชาติ ประเทศไทย พร้อมเคลื่อนขบวนไปยื่นหนังสือถึง อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ต่อที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เรียกร้องให้ภาครัฐยุติการขับไล่กลุ่มไทดำออกจากพื้นที่ทำกิน และเร่งคืนสิทธิในที่ดินดั้งเดิม

ทั้งนี้ชาวไทดำได้มีแถลงการณ์ สาระสำคัญ ระบุว่า
ตามที่ได้มีกรณีพิพาทเรื่องที่ดินสาธารณะทุ่งปากขอ อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎรธานี ซึ่งอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาของอนุกรรมการแก้ปัญหาที่ดินสาธารณะประโยชน์ ที่ดินเอกชนปล่อยทิ้งร้าง และปัญหาที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน และจะมีการประชุมในวันที่ 23 เม.ย.68 นี้
ถึงแม้ว่าจะมีมติ ครม. เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 66 ต่อกรณีการแก้ปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ในระหว่างการแก้ไขปัญหา ไม่ให้มีการดำเนินใด ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตปกติสุข ไม่ให้มีคดีใหม่ และชะลอการดำเนินการคดีเก่าไปก่อน จนกระบวนการแก้ปัญหาจะได้ข้อยุติ ซึ่งปัญหาดังกล่าวอยู่ในกระบวนการแก้ปัญหาของอนุกรรมการแก้ปัญหาที่ดินสาธารณะประโยชน์ฯ โดยมีแนวทางการแก้ปัญหาเป็นลำดับจนเกือบได้ข้อยุติแล้ว แต่กลับพบว่า ทางนายอำเภอบ้านนาเดิมได้ออกคำสั่งทางปกครองขับไล่ราษฎรที่ทำกินในพื้นที่ โดยให้ทำการรื้อถอนบ้านและผลอาสิน ออกภายใน 30 วัน มิฉะนั้นจะดำเนินคดีตามกฎหมาย
การดำเนินการเช่นนี้ ได้สร้างความหวาดวิตก ความหวาดกลัว ให้แก่ราษฎรกลุ่มชาติพันธุ์ไทดำ ที่ตั้งถิ่นฐานมามากกว่า 70 ปี เป็นอย่างมาก จนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติสุขได้ และเมื่อราษฎรที่เดือดร้อนได้รวมกลุ่มกันไปยื่นหนังสือต่อนายอำเภอบ้านนาเดิม เพื่อขอให้ขยายเวลาในการบังคับใช้คำสั่งไล่รื้อ ไปจนกว่าการแก้ไขปัญหาโดยอนุกรรมการแก้ปัญหาที่ดินสาธารณะประโยชน์ฯจะแล้วเสร็จ แต่กลับถูกปฏิเสธและยืนยันว่าจะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ต่อมาทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เข้ามาไกล่เกลี่ย จนมีข้อสรุปเบื้องต้นว่า จะไม่ไห้มีการขับไล่จนกว่าการดำเนินการของอนุกรรมการแก้ปัญหาที่ดินสาธารณะประโยชน์ฯ จะเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการ


ดังนั้น ทางเครือข่ายชาติพันธุ์ไทดำ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงมีข้อเสนอต่อ อนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะกำกับกระทรวงมหาดไทยดังนี้
- ขอให้มีการตรวจสอบการดำเนินการด้านการคุกคามชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ไทดำ โดยการสั่งขับไล่รื้อถอนที่อยู่และผลอาสิน ทั้งที่ปัญหานี้อยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นการขัดกับ มติคณะรัฐมนตรีและมติของคณะกรรมการ อนุกรรมการและคณะทำงาน ซึ่งกำลังดำเนินการแก้ปัญหาอยู่ ตามแนวนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย และระหว่างการตรวจสอบขอให้ นายอำเภอบ้านนาเดิม กลับมาทำงานในกรมการปกครอง จนกว่าปัญหาจะแก้แล้วเสร็จ
- ขอให้อนุกรรมการแก้ปัญหาที่ดินสาธารณะประโยชน์ ที่ดินเอกชนปล่อยทิ้งร้าง และปัญหาที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย เร่งแก้ไขกรณีปัญหาที่ดินสาธารณะประโยชน์ทุ่งปากขอ อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ฯ ซึ่งมีผลการตรวจสอบแล้วสรุปว่า ออกผิดพลาดคลาดเคลื่อน ทับที่ดินของราษฎร และขั้นตอนของการแก้ปัญหาได้ข้อสรุป ให้สั่งการดำเนินการตามแนวทางการแก้ปัญหา ให้แล้วเสร็จ
ขณะที่ จันทรัตน์ รู้พันธ์ ผู้ประสานงานกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ ชุมชนไทดำ จ.สุราษฎร์ธานี ตัวแทนชาวไทดำที่ไปยื่นหนังสือ เปิดเผยกับ The Active ว่า ต้องการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รับเรื่องของชาวบ้านไปแก้ไข สั่งการ ซึ่งการไปยื่นหนังสือทางพรรคภูมิใจไทยก็มีท่าทีที่ดี ทางเจ้าหน้าที่ของพรรคอ้างว่าเป็นช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ จึงมีเจ้าหน้าที่ของพรรคออกมารับหนังสือแทน

“ยังไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่หวังให้ อนุทิน ชาญวีรกูล ที่มีอำนาจเต็มในกระทรวงมหาดไทย น่าจะช่วยเร่งแก้ปัญหาของชาวไทยดำได้”
จันทรัตน์ รู้พันธ์
ในส่วนของกิจกรรมวันพรุ่งนี้ (22 เม.ย. 68) ตัวแทนชาวไทดำ จะไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล เรียกร้องให้
- การเร่งรัดการแก้ไขปัญหา ซึ่งจะประชุมในวันที่ 23 เม.ย. นี้
- ให้มีการสอบสวนการทำงานของจังหวัดสุราษฎรธานีที่มีการขับไล่ชุมชนดั้งเดิม และมีการแก้ไขตามนโยบายรัฐบาล ที่เราร่วมกับขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม เรียกร้องกับนายกรัฐมนตรีมา 3 คนแล้ว
- เรื่องคดีความของชาวไทดำ 8 คน ที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐอ้างว่าอยู่ในที่สาธารณะประโยชน์ จนถูกขับไล่ออกจากชุมชน ซึ่งการฟ้องของชาวบ้านเป็นการบันทึกข้อตกลงกับผู้ว่าราชการจังหวัด ว่าสามารถอยู่ในพื้นที่ได้ แต่ทางศาลตัดสินว่าลายเซ็นของผู้ว่าฯ ไม่มีอำนาจออกโฉนดชุมชนได้ แต่ให้ชุมชนไปยื่นขอออกโฉนดชุมชน เพื่อที่จะสามารถอยู่ในชุมชนต่อได้ ซึ่งไม่มีคำไหนว่าให้ขับไล่ชุมชน