เตรียมประชุมสรุปการอ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศ แก้ปัญหาที่ดินทับซ้อน เร่งจัดทำแผน แก้ปมขัดแย้งที่ดิน พัฒนาคุณภาพชีวิตชุมชนดั้งเดิม เสนอ ครม.
วันนี้ (30 เม.ย. 68) ชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ เปิดเผยกับ The Active ถึงกรณีการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทที่ดินและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นล่าสุดบนเกาะหลีเป๊ะ เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา ภายหลังเอกชนที่อ้างสิทธิในที่ดิน พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ธนารักษ์ ที่ดิน ประถมศึกษาจังหวัด และผู้อำนวยการบ้านเกาะหลีแป๊ะ แจ้งเข้ารื้อถอนโรงอาหาร ห้องน้ำ และระบบประปาโรงเรียน โดยอ้างว่าทางโรงเรียนได้รุกล้ำพื้นที่ของเอกชนมานานแล้ว และจะสร้างโรงอาหาร และส่วนที่รื้อออกให้ใหม่บริเวณหลังอาคารเรียน
ขณะที่ชาวบ้าน ยืนยันว่า ผู้บริจาคที่ดินให้โรงเรียนแต่เดิม 6 ไร่ 36 ตารางวา และไม่ได้มีการรุกล้ำที่เอกชน และตั้งเต้นในการคัดค้านการเข้ารื้อถอน และตัวแทนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันกรณีที่เกิดขึ้นนั้น

ที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ
โดยทาง คณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงฯ ได้รับแจ้งกรณีที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกกที่เกิดเหตุ ยืนยัน ไม่ได้นิ่งดูดาย โดยประสานงานไปยังฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการฯ คือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ สิ่งที่ต้องทำ คือ ไม่ใช่ลงไปประชุมอะไรกันที่นั่นอีก แต่ตนในฐานะประธานคณะกรรมการฯ และฝ่ายเลขาฯ รวมทั้ง ส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นชุดเล็ก เตรียมจะลงไปที่ จ.สตูล เพื่อคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล และส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดกับเรื่องนี้ในระดับพื้นที่ รวมทั้งชาวบ้าน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และรับฟังการชี้แจงทั้งหมด เพื่อจะมาประมวล เก็บรายละเอียดเบื้องต้นและจะเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการ
“สิ่งที่ผมจะลงไปครั้งนี้ เพื่อที่จะไปตรวจสอบรับฟังข้อเท็จจริง ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามข้อกฎหมายในขณะนั้นหรือไม่ ชอบไม่ชอบอย่างไรเราจะรับฟัง และเก็บข้อมูลเพื่อนำไปสู่การพิจารณาของคณะกรรมการทั้งคณะต่อไป”
ชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตต่อข้อจำกัดการทำงานคณะกรรมการฯ ชุดนี้ คือเรื่องงบประมาณการทำงาน นั้น ชาญเชาวน์ ระบุว่า เป็นงบฯ กลางที่ค้างมาจากคณะกรรมการฯ ชุดก่อน ก็ต้องคืนไปตามระบบวิธีงบประมาณตามกฎหมาย ขณะนี้ดีเอสไอ ซึ่งเป็นฝ่ายเลขาฯ ก็ทำการเสนอเข้าไป ครม.แล้ว เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ในขณะนี้ มีเหตุการณ์การเฉพาะหน้า และมีความเดือร้อนกังวลของชาวเลเกาะหลีเป๊ะ คณะกรรมการฯ ก็สามารถใช้งบประมาณประจำของดีเอสไอลงไปรับฟังความคิดเห็น และก็รับฟังการชี้แจงในพื้นที่ก่อนได้ โดยไม่ถือเป็นการประชุมของคณะกรรมการทั้งคณะ

ทั้งนี้มีกำหนดการลงพื้นที่ให้เร็วที่สุดเท่าที่ดีเอสไอ จะเอื้ออำนวยความสะดวก ในเรื่องงบประมาณให้ได้ ซึ่งก็ไม่น่าจะมากมายนัก และเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา ได้คุยกันกับดีเอสไอแล้วซึ่งจะดำเนินการโดยด่วน
ส่วนการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทที่ดินโดยภาพรวมบนเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งมีการทับซ้อนและเกิดขึ้นหลายคดีหลายกรณีนั้น ชาญเชาวน์ ย้ำว่า จุดเน้นที่นายกฯ แพทองธาร เซ็นคำสั่งตั้งกรรมการชุดที่ตนเป็นประธานขึ้นมา ก็เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับพี่น้องชาวเลอูรักลาโว้ยที่เกาะหลีเป๊ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ตนกับคณะ จัดทำแผนยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องอูรักลาโว้ยออกมาให้ชัด เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจ ของ ครม. เพราะฉะนั้น จุดยืนของคณะกรรมการฯ ชุดนี้ คือ แผนพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องอูรักลาโว้ยบนเกาะหลีเป๊ะ และเรื่องที่ดิน อาณาเขตบริเวณนั้น ซึ่งได้มีมติของคณะกรรมการครั้งที่ 1 ออกมาแล้วชัดเจนว่า รูปที่ดินนิ่ง ตามภาพถ่ายทางอากาศ
“ตอนนี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ สคทช. อ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็จะเป็นการพิจารณาของคณะกรรมการทั้งคณะ ในนั้นก็จะมีอธิบดีกรมอุทยานฯ กรมที่ดิน อยู่ด้วย เพราะฉะนั้นการทับซ้อนกันตามอำนาจกฎหมายต่างๆ ก็จะเคลียร์ออกมาให้ชัด จัดทำข้อสรุปเป็นแผนนำเสนอมมติ ครม. ต่อไป”
ชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ

ล่าสุด ว่าที่ร้อยโท สำราญ ชูแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเกาหลีเป๊ะ ได้ทำหนังสือ เรื่องการชะลอการก่อสร้างโรงอาหารที่ได้รับบริจาคจากเอกชนแล้ว โดยที่ชาวเลเกาะหลีเป๊ะยังไม่วางใจ และจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเห็นว่า ผอ.โรงเรียน ควรต้องคัดค้านการรื้อถอนทรัพย์สินโรงเรียนและทางราชการ ยืนยันสิทธิที่ดินเพื่อส่วนรวม