แถลงการณ์ ย้ำ พ.ร.บ.SEC พลิกภาคใต้ไม่เหมือนเดิม ยึดกุมทรัพยากรให้นักลงทุน ชี้เป้ายกเว้นกฎหมาย กำหนดมาตรการจูงใจพิเศษ เอื้อทุนต่างชาติ เมินให้คุณค่าคนท้องถิ่น ไม่ยึดโยงศักยภาพในพื้นที่ จี้รัฐบาล หยุดผลักดันกฎหมาย
วันนี้ (1 มิ.ย. 68) เครือข่ายประชาชนปกป้องภาคใต้ออกจากกฎหมาย SEC นัดรวมตัวทำกิจกรรมบริเวณแยกควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ในชื่อกิจกรรม “รวมพลคนใต้หยุดกฎหมายขายแผ่นดิน #หยุดSEC” โดยมีตัวแทนภาคประชาชน สะท้อนมุมมอง ผลกระทบ และข้อกังวลต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมา กับพื้นที่ภาคใต้หาก ร่าง พ.ร.บ.ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ หรือ พ.ร.บ.SEC มีผลบังคับใช้

หวั่น พ.ร.บ.SEC ยึดกุมทรัพยากรภาคใต้ให้นักลงทุน
ทั้งนี้ได้มีแถลงการณ์ ย้ำว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยได้มีมติคณะรัฐมนตรีให้ผลักดันกฎหมายกำกับการพัฒนาภาคใต้ ที่เรียกว่า “พระราชบัญญัติระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้” หรือ พ.ร.บ.SEC ซึ่งแถลงการณ์ ระบุว่า เป็นกฎหมายที่จะนำไปสู่การยึดกุมทรัพยากรในแผ่นดินภาคใต้นำไปให้กับนักลงทุนต่างชาติ กฎหมายฉบับนี้จะก่อเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวาง ครอบคลุมพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้
โดยเห็นว่า พ.ร.บ.SEC คือการสถาปนาแม่บทแห่งการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งจะส่งผลต่อทุกคนรวมและทรัพยากรธรรมชาติ ภายใต้ความสำคัญเช่นนี้ควรอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ รับฟังอย่างรอบด้าน และกำหนดมาตรการจากข้อเท็จจริงของพื้นที่ แต่ในความจริงกลับปรากฎว่า รัฐบาลกำลังดำเนินการตรงกันข้ามด้วยการกำหนดกฎหมายการพัฒนาภาคใต้จากการลอกกฎหมายฉบับอื่นมาสวมทับคนใต้
เมื่อรัฐบาลตั้งใจ ไม่ให้คุณค่าคนท้องถิ่น ?
แถลงการณ์ ยังชี้ให้เห็นว่า เนื้อหาของกฎหมายฉบับคณะรัฐมนตรี ทั้ง 71 มาตรา ไม่ปรากฎว่า คนใต้อยู่ในสมการการพัฒนา เพราะเมื่อประมวลเนื้อหาทั้ง 71 มาตราแล้ว กฎหมายฉบับนี้ บีบให้คนใต้มีหน้าที่เพียง 2 ประการคือ การรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และรับการเยียวยาจากผลกระทบ เมื่อพิจารณาเนื้อหาทั้งหมดก็สอดคล้องกับความตั้งใจของรัฐบาลนั้นคือการไม่ให้คุณค่าคนท้องถิ่น และศักยภาพของพื้นที่ โดยทั้ง 71 มาตรา มุ่งสู่เป้าหมาย 2 ประการ คือ
- การยกเว้นกฎหมายเพื่อทำให้นักลงทุนดำเนินการลงทุนได้อย่างสะดวก
- การกำหนดมาตรการพิเศษเพื่อจูงใจให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาครอบครองทรัพยากร

“ทิศทางของกฎหมาย SEC บ่งชี้ชัดเจนว่า ถ้าภาคใต้จะเจริญต้องยกกรรมสิทธิ์ในปัจจัยการพัฒนาทั้งปวงแก่นักลงทุน หากปล่อยให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา จะก่อการเปลี่ยนแปลงเชิงลบต่อเศรษฐกิจการเกษตรและการท่องเที่ยว ประชาชนจะสูญเสียที่ดิน รวมทั้งพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการเกษตร การประมงและกิจการท่องเที่ยวจะเหลือน้อยลง ภาคใต้จะถูกยึดน้ำเพื่อนำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรม ผังเมืองจะเปลี่ยนแปลงรองรับการเกิดนิคมอุตสาหกรรม ที่ดินและแหล่งน้ำจะกลายเป็นแหล่งรองรับขยะอุตสาหกรรมภายใต้ กฎหมายฉบับนี้ต่างชาติจะมีสิทธิเหนือกว่าคนไทย”
แถลงการณ์นี้ ยังย้ำด้วยว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ รัฐบาลกำหนดไว้ว่าจะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคม 2568 โดยในเดือนกรกฎาคมนี้ จะนำร่าง พ.ร.บ.SEC เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร
“หากเป็นไปตามที่รัฐบาลกำหนดปีหน้า 2569 ภาคใต้จะมีแผ่นดินใหม่นั่นคือหนึ่งพื้นที่ 2 การปกครอง คนใต้จะเริ่มต้นกลายเป็น ‘คนพื้นเมือง’ ซึ่งกฎหมายจะยกเว้นไม่คุ้มครอง ส่วนต่างชาติจะอยู่ภายใต้กฎหมายพิเศษที่ได้รับความคุ้มครองเป็นพิเศษ”

ปกป้องภาคใต้จาก พ.ร.บ.SEC จนถึงที่สุด
เครือข่ายประชาชนปกป้องภาคใต้ออกจากกฎหมาย SEC ประกาศเจตนารมณ์ต่อรัฐบาล ว่า ประชาชนภาคใต้จะไม่ยินยอมให้เกิดกฎหมายพิเศษเช่นนี้ขึ้น ซึ่งจะปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างการตื่นตัวแก่คนใต้ และคนทั่วประเทศเพื่อต้านทานการนำทรัพยากรของประชาชนไปให้นักลงทุนต่างชาติถือครอง
“รัฐบาลจงเดินกลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้อง นั่นคือยุติการดำเนินการเพื่อให้ พ.ร.บ.SEC ไปสู่การบังคับใช้ หากรัฐบาลยังไม่ยินยอมยุติการเดินหน้ากฎหมายฉบับนี้ เราจะใช้ความพยายามทั้งมวลยกระดับปฏิบัติการเพื่อปกป้องแผ่นดินภาคใต้ที่เป็นของประชาชน มิให้คณะรัฐบาลชุดนี้นำไปขายให้กับต่างชาติ”