‘เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย’ แถลงย้ำ สธ. ยกเลิกประกาศกระทรวงฯ ใหม่ ชี้ เอื้อทุนใหญ่ ละเลยสิทธิรายย่อย เตรียมยื่นขอดูข้อมูลกระทรวง 16 ก.ค.นี้ โต้หลักฐานบิดเบือน ไม่โปร่งใส ขณะที่ อย. ลุยกวาดล้างกัญชาเถื่อน เร่งออกกฎกระทรวงฯ ยกระดับร้านกัญชาเป็น ‘คลินิกมีแพทย์ประจำ’
วันนี้ (8 ก.ค. 68) เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ประกาศยุติการชุมนุมที่กระทรวงสาธารณสุขชั่วคราว หลังปักหลักเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขตอบสนองข้อเรียกร้อง 3 ข้อ แต่ยังไร้ความคืบหน้า โดยเตรียมกลับมาเคลื่อนไหวต่อในวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ พร้อมยกระดับการทวงถามข้อมูลที่กระทรวงใช้สนับสนุนมาตรการควบคุมกัญชา
เครือข่ายฯ ทวง 3 ข้อเรียกร้อง ดัน พ.ร.บ.กัญชา – ค้านนำกลับเป็นยาเสพติด
ประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ระบุว่า แม้จะยุติการชุมนุมชั่วคราว แต่เครือข่ายจะเดินหน้าปฏิบัติการต่อเนื่อง เพื่อผลักดันข้อเรียกร้อง 3 ประการ ได้แก่
- ขอให้รัฐบาลยุติการนำกัญชากลับเข้าสู่บัญชียาเสพติด
- ผลักดันร่าง พ.ร.บ.กัญชา เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี
- แก้ไขประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับวันที่ 26 มิถุนายน 2568 ให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

เครือข่ายฯ เห็นว่า ประกาศฉบับปัจจุบันเอื้อประโยชน์ให้เฉพาะรายใหญ่ โดยเฉพาะข้อกำหนดสเปกการปลูก ซึ่งกลายเป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการรายย่อย ทั้งที่สาระสำคัญของกฎหมายควรอยู่ที่การคุ้มครองประชาชนและการควบคุมคุณภาพ
16 ก.ค. ยื่นขอข้อมูลกระทรวงฯ – ชี้อาจบิดเบือนความจริง
เครือข่ายฯ เตรียมเข้าศูนย์ข้อมูลสุขภาพของกระทรวงฯ ในวันที่ 16 กรกฎาคม เวลา 10.00 น. เพื่อขอข้อมูลการศึกษาที่ใช้เป็นหลักฐานสนับสนุนมาตรการควบคุมกัญชา โดยตั้งข้อสังเกตว่า ข้อมูลอาจมีความบกพร่อง และถูกใช้เพื่อโฆษณาชวนเชื่อเกินจริง
ทั้งนี้เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เครือข่ายฯ เดินทางกลับมาทวงคำตอบที่กระทรวงฯ อีกครั้ง โดยเรียกร้องให้นำประกาศกระทรวงฉบับเดิมกลับมาใช้ ซึ่งมีเนื้อหาครอบคลุมการป้องกันเยาวชน และมาตรการควบคุมคุณภาพ แต่ไม่สร้างเงื่อนไขปิดกั้นผู้ผลิตรายเล็ก พร้อมกันนี้ เครือข่ายฯ ยังเสนอให้ออกประกาศกระทรวงเพิ่มอีก 2 ฉบับ ได้แก่
• ห้ามใช้กัญชาโดยวิธีการสูบในพื้นที่สาธารณะ
• จำกัดสิทธิการปลูกกัญชาเพื่ออาชีพเฉพาะผู้มีสัญชาติไทย
“เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยต้องการระบบควบคุม ไม่ใช่เสรีภาพไร้ขอบเขต เราต้องการ พ.ร.บ.กัญชา ไม่ใช่แค่ประกาศชั่วคราว และเราไม่เห็นด้วยที่ประกาศฉบับปัจจุบันตัดมาตรการปกป้องเยาวชนออก”
ประสิทธิ์ชัย หนูนวล
อย.ลุยตรวจเข้ม – ปูพรมกวาดล้าง ‘กัญชาเถื่อน’ ทั่วประเทศ
ขณะที่การเคลื่อนไหวของภาคประชาชนเข้มข้น ฝั่งกระทรวงสาธารณสุขโดย สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กำชับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ ให้เร่งตรวจสอบผลิตภัณฑ์กัญชาผิดกฎหมาย หลังเกิดกรณีเด็กหญิงวัย 2 ขวบกินเยลลี่ผสมกัญชาโดยไม่ตั้งใจ
นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการ อย. เปิดเผยว่า ได้ตรวจสถานประกอบการ 21 แห่ง เมื่อ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา พบการกระทำผิด 8 แห่ง และตรวจยึดผลิตภัณฑ์ต้องสงสัยกว่า 470 รายการ เช่น เยลลี่ บราวนี่ และช็อกโกแลตที่มีสาร THC เกินกำหนด หรือไม่มีฉลากภาษาไทย

นอกจากนี้ ยังพบ เยลลี่นำเข้าจากต่างประเทศ มีสาร THC เกินค่าที่กฎหมายกำหนด อย. ได้ดำเนินคดีกับผู้นำเข้าและยึดสินค้า พร้อมกำชับให้ทุกด่านตรวจเข้มสินค้านำเข้าในลักษณะเดียวกัน
อย. ย้ำว่า กัญชาเป็น “อาหารควบคุมเฉพาะ” ต้องมีการอนุญาต แสดงเลขสารบบอาหาร และคำเตือนอย่างชัดเจน ผู้ฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำและปรับ
สธ.เดินหน้าอบรมแพทย์ควบคุมการสั่งจ่าย
ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการ รมว.สธ. ยืนยันว่า กัญชายังไม่จัดเป็นยาเสพติด แต่จำเป็นต้องควบคุมการใช้ หลังมีการใช้กัญชาพุ่งสูงถึง 1.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าจากก่อนหน้านี้
มาตรการล่าสุดจึงออกประกาศ “สมุนไพรควบคุม (กัญชา)” พ.ศ. 2568 กำหนดให้การใช้ต้องผ่านการสั่งจ่ายจากแพทย์ 7 วิชาชีพ รวมถึงมีระบบการติดตามผ่านแบบฟอร์ม ภ.ท.33 เพื่อควบคุมการจำหน่ายในร้านค้า
นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เปิดเผยว่า ขณะนี้มีร้านค้ากัญชาทั่วประเทศกว่า 18,651 แห่ง และผู้จำหน่ายประมาณ 200,000 คน โดยมีเป้าอบรมผู้จำหน่ายให้ได้ 80,000 คน เริ่มอบรมล็อตแรก 17 ก.ค. นี้ ทั้งในรูปแบบออนไซต์และออนไลน์
กรมการแพทย์แผนไทยฯ ยังเดินหน้าอบรมแพทย์แผนไทย 2,000 คน เพื่อให้สามารถสั่งจ่ายกัญชาได้ ขณะเดียวกันเตรียมระบบ IT เชื่อมโยงข้อมูลใบสั่งยา ภ.ท.33 และเตรียมทดสอบระบบกับผู้ป่วย 50 รายแรกในวันที่ 8 ก.ค. นี้
แนวทางใหม่ ร้านขายกัญชาต้องมี ‘แพทย์ประจำ’ เตรียมปรับสถานะเป็นคลินิก
นพ.สมฤกษ์ ยังเปิดเผยว่า ได้เปิดรับฟังความเห็นร่างกฎกระทรวงเกี่ยวกับการจำหน่ายสมุนไพรควบคุม (ช่อดอกกัญชา) ซึ่งหากมีผลบังคับใช้ภายในปีนี้ ร้านค้าที่จำหน่ายจะต้องมี แพทย์ประจำ เพื่อรองรับการสั่งจ่ายอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเปลี่ยนสถานะจาก สถานประกอบการ เป็น สถานพยาบาล
ในระหว่างที่กฎกระทรวงยังไม่บังคับใช้ ร้านค้าสามารถจำหน่ายภายใต้เงื่อนไขของประกาศเดิม และใช้ใบสั่งจ่ายจากแพทย์ที่ผ่านการอบรมจากกรมการแพทย์แผนไทยฯ เท่านั้น
เครือข่ายเยาวชนโต้แรง ต้านกัญชาเสรี จี้รัฐปิดช่องโหว่สันทนาการ
ขณะที่ ยศกร ขุนภักดี ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนไม่กัญชาและยาเสพติด ออกมาแสดงจุดยืนคัดค้านท่าทีของเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย โดยระบุว่า ตนมีความกังวลอย่างยิ่งต่อการที่เครือข่ายดังกล่าวออกมาคัดค้านการนำกัญชากลับเข้าสู่บัญชียาเสพติด เพราะอาจตีความได้ว่าเป็นการเปิดช่องให้กัญชายังคงถูกใช้เพื่อสันทนาการ ซึ่งละเลยผลกระทบทางสังคมที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรุนแรง

“ข้อมูลจาก UNODC ระบุว่า ปัจจุบันคนไทยใช้กัญชาในระดับเข้าข่าย ‘ติด’ มากถึง 1.5 ล้านคน มากเป็นอันดับสองรองจากยาบ้า สะท้อนว่าการปล่อยให้กัญชาอยู่ในสภาพไร้การควบคุม กำลังสร้างผลเสียต่อเยาวชน ครอบครัว และความมั่นคงทางสังคม”
ยศกร ขุนภักดี
ทั้งยังเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แสดงจุดยืนที่ชัดเจน เดินหน้านำกัญชากลับเข้าสู่บัญชียาเสพติด โดยจำกัดการใช้เฉพาะทางการแพทย์ภายใต้การควบคุมของแพทย์เท่านั้น พร้อมย้ำว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้ปฏิเสธประโยชน์ของกัญชาทางการแพทย์ แต่ไม่ต้องการเห็นกัญชาถูกใช้เพื่อความบันเทิงจนกลายเป็นปัญหาสังคม
“ถึงเวลาแล้วที่เราต้องปิดช่องโหว่ของการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการอย่างสมบูรณ์ และคุ้มครองสุขภาพประชาชนอย่างแท้จริง”
ยศกร ขุนภักดี