สะท้อนความไม่ใส่ใจ ต่อการตัดสินใจประเด็นสำคัญของประเทศ ย้ำ ต้องฟังเสียงประชาชน ยืนกรานค้าน ม.69 เปิดทางใช้อวนตาถี่จับปลาในเวลากลางคืน จนถึงที่สุด
วันนี้ (8 พ.ค. 68) ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมมาธิการสำคัญฯ หนึ่งในนั้น คือ กรรมาธิการร่วมสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง 2558 พ.ศ….นัดแรก ซึ่งมีวาระสำคัญในการตั้งประธาน รองประธาน ฝ่ายเลขาฯ และกรรมาธิการอย่างเป็นทางการ รวมทั้งพิจารณาการแก้ไขเพิ่มเติมโดยเฉพาะประเด็นที่มีความเห็นต่างของ 2 สภา เช่น มาตรา 69
ขณะเดียวกันตัวแทนสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย นำโดย ปิยะ เทศแย้ม นายกสมาคมสมาพันธุ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย และ วิโชคศักดิ์ รณรงค์ไพรี นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย ที่ออกมาเคลื่อนไหว พร้อมแถลงการณ์ และชูป้าย บริเวณหน้าอาคารรัฐสภา เพื่อจับตาการประชุมร่วม 2 สภาครั้งนี้ เรียกร้องให้หยุดการแก้ไขมาตรา 69 โดยต้องไม่อนุญาตให้ใช้อวนตาถี่จับปลาในเวลากลางคืน
โดยแถลงการณ์ ระบุว่า ในการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมของ 2 สภาเป็นนัดแรก เพื่อพิจารณา มาตรา 69 ที่จะอนุญาตให้กลุ่มอุตสาหกรรมเรือประมงใช้เทคโนโลยี อวนล้อมจับตาถี่ กวาดจับสัตว์น้ำทะเลในเวลากลางคืนได้
นับเป็นอุตสาหกรรมการประมงที่ ไร้ความรับผิดชอบต่อผู้คนและสิ่งแวดล้อม และเสี่ยงต่อการล่มสลายของทรัพยากรสาธารณะมูลค่านับแสนล้านบาทต่อปี โดยที่สิทธิที่ได้ใช้ เทคโนโลยีอวนล้อมจับตาถี่ในเวลากลางคืน ดังกล่าวนี้ จะถูกมอบให้กับคณะบุคคลกลุ่มหนึ่ง กฎหมายลักษณะนี้ ไม่เป็นธรรม
ทั้งนี้ประชาชนในสังคม กำลังติดตามว่า หลายภาคส่วน เริ่มรับรู้และเป็นที่ยอมรับกว้างขวางแล้วว่า อุตสาหกรรมอวนตาถี่แทบเท่ามุ้ง ล้อมจับสัตว์น้ำขนาดเล็กและวัยอ่อน จะกระทบต่อสัตว์น้ำวัยอ่อนในห่วงโซ่ระบบนิเวศในธรรมชาติอย่างยิ่ง และสนับสนุนให้ยังคงความเห็น มาตรา 69 ให้ “ห้ามมิให้ผู้ใดใช้เครื่องมืออวนล้อมจับทุกประเภทที่มีช่องตาอวนเล็กกว่าสองจุดห้าเซนติเมตรทำการประมงในเวลากลางคืน”
“ขณะนี้มีกระแสจากกลุ่มการเมืองที่สนับสนุนอุตสาหกรรมดังกล่าว ยังต้องการจะผลักดันให้อุตสาหกรรมประมงชนิดนี้ได้ทำในเวลากลางคืนให้ได้ โดยจะอ้างว่า จะใช้อวนล้อมจับตาถี่ในเวลากลางคืน โดยจะไม่ปั่นไฟล่อสัตว์น้ำ ซึ่งเรายืนยันว่าไม่สามารถทำได้จริง และจะยิ่งสร้างความวุ่นวายโกลาหล และจะเกิด เรือประมงผี (Ghost Fishing) ในอุตสาหกรรมการประมงทะเล”
สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านฯ จากทุกจังหวัดชายทะเลทั่วประเทศ และภาคีพันธมิตร ยังระบุว่า จะติดตามการประชุมอย่างใกล้ชิด เพื่อยืนยัน หยุดมาตรา 69 หยุดอวนล้อมจับตาถี่ในเวลากลางคืน
“ในเวลานี้เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการตรากฎหมาย และจะเป็นโอกาสสุดท้ายของประชาชนในการคัดค้านเช่นกัน เพื่อยืนยันต่อสู้คัดค้านให้ถึงที่สุด เราจะนัดหมายชุมนุมใหญ่ ในเร็ว ๆ นี้”
สำหรับการประชุมกรรมาธิการร่วมฯ นัดแรกวันนี้ เป็นอันต้องล่มไป เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ ซึ่งเครือข่ายประมงพื้นบ้าน ตั้งข้อสังเกต และชี้ว่า เป็นความไม่ใส่ใจ ประวิงเวลาการตัดสินใจในประเด็นสำคัญของประเทศ พร้อมตั้งคำถามว่า รอเจรจาเพื่อตกลงผลประโยชน์อะไรหรือไม่ ?
อย่างไรก็ตาม เครือข่ายประมงพื้นบ้าน จะจับตาเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมย้ำ กรรมาธิการร่วมฯ ต้องพิจารณาบนหลักข้อมูลวิชาการ ข้อเท็จจริง และผลกระทบที่จะเกิดต่อทรัพยากรทางทะเลเป็นหลัก
