แยกค่ารักษาผ่าฟันคุด จากสิทธิทันตกรรม 900 บาท พร้อมเพิ่มวงเงิน ฟันเทียมรากฟันเทียม คาดเริ่มใช้ต้นปี 2569 เชื่อ ไม่น้อยหน้าสิทธิบัตรทอง หวังยกระดับคุณภาพชีวิต ปลดล็อกค่าใช้จ่าย ช่วยผู้ประกันตน
วันนี้ (9 ก.ย. 68) ผู้สื่อข่าว Thai PBS รายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการประกันสังคม ชุดที่ 14 ครั้งที่ 20/2568 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมแก่ผู้ประกันตน หลังจากก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะกรรมการการแพทย์ สำนักงานประกันสังคม มีมติเห็นชอบให้ปรับเพิ่มสิทธิทันตกรรม

โดยให้แยกค่ารักษาผ่าฟันคุด ออกมาจากสิทธิทันตกรรม 900 บาท แบ่งเป็น การผ่าตัดแบบง่าย จ่ายไม่เกิน 1,500 บาท กรณีเพิ่มการกรอกระดูก และฟัน จ่ายไม่เกิน 2,500 บาท
ส่วนกรณีการตรวจฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และถอนฟัน จากเดิมที่จ่าย 900 บาท หากเข้ารับบริการที่สถานพยาบาลของรัฐ จ่ายตามจริงตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข แต่หากเข้ารับบริการที่สถานพยาบาลเอกชน ยังคงอัตราเดิมที่ 900 บาท
นอกจากนี้ ยังมีการปรับเพิ่มวงเงินฟันเทียมถอดได้บางส่วนและถอดได้ทั้งปาก สูงสุด 6,000 บาท และเพิ่มค่ารากฟันเทียม โดยจ่ายค่าผ่าตัดปีละ 17,500 บาทต่อคน, ค่าติดตามการรักษาปีละ 700 บาทต่อคน และค่าอุปกรณ์ปีละไม่เกิน 3,000 บาท
บุปผา เรืองสุด เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า การปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมครั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการทางทันตกรรมได้อย่างครอบคลุม โดยคาดว่าจะเริ่มประกาศใช้ได้ไม่เกินต้นปีหน้า (2569) จะปรับพร้อมกับการปรับฐานเพดานเงินเดือนจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ที่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนรอนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี เนื่องจากจำเป็นต้องศึกษาเรื่องค่าใช้จ่าย และทำข้อตกลงกับสถานพยาบาล รวมถึงการกำหนดระบบข้อมูลผู้ใช้บริการและบัญชีรายการ
รศ.อนุสรณ์ ธรรมใจ ที่ปรึกษาด้านการเงินการคลัง บอร์ดประกันสังคม เปิดเผยว่า ความพยายามในการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางทันตกรรม เป็นเรื่องที่สำนักงานประกันสังคมพยายามผลักดันต่อเนื่อง เพราะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกันตน แต่ส่วนนี้จะทำให้มีรายจ่ายเพิ่มขึ้น จึงจำเป็นต้องเชื่อมโยงกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น จากการปรับฐานเพดานเงินเดือนจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ซึ่งส่วนนี้ก็จะทำให้สิทธิประโยชน์ด้านอื่น ๆ ของผู้ประกันตนเพิ่มขึ้นด้วย
เชื่อสิทธิทันตกรรม ไม่น้อยหน้าบัตรทอง
ขณะที่ รศ.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กรรมการประกันสังคม ฝ่ายผู้ประกันตน ย้ำว่า นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมาก เพราะว่าการปรับครั้งนี้ จะทำให้สิทธิทันตกรรมของประกันสังคม ไม่น้อยหน้าไปกว่าสิทธิบัตรทอง ซึ่งมีการศึกษาว่าการเพิ่มสิทธิครั้งนี้ จะใช้งบประมาณเพิ่มไม่เกิน 300 – 500 ล้านบาทต่อปี โดยปัจจุบันมีผู้ประกันตนใช้สิทธิทันตกรรมประมาณ ปีละ 4 ล้านคน
“สิ่งเหล่านี้สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ประกันตนได้อย่างมากมายมหาศาล เพราะมีผู้ประกันหลักล้านคนที่ใช้สิทธิตัวนี้ และจะยังช่วยปลดล็อกค่าใช้จ่ายของผู้ประกันตนอีกจำนวนมาก”
รศ.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี
มนตรี ฐิรโฆไท กรรมการประกันสังคม ฝ่ายนายจ้าง มองว่า เป็นมิติใหม่ที่ดี ที่คณะกรรมการประกันสังคมที่มาจากการเลือกตั้ง ได้พยายามผลักดันการเพิ่มสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตน ซึ่งกรรมการทั้ง 3 ฝ่าย ทั้งนายจ้าง ผู้ประกันตน และภาครัฐ มีความมุ่งมั่นเดียวกัน คือ ประโยชน์ของผู้ประกันตน