“ปลดหนี้” คนไทย สู่ อิสรภาพทางการเงิน
ไม่รู้เงินหายไปไหนหมด
เป็นหนี้สามชั่วโคตร พยายามแล้วแต่แก้ไม่ได้ ?
ชาตินี้ จะปลดหนี้ได้ไหม…
ทั้งหมดนี้คือคำพูดของคนเป็นหนี้ เพราะ วิชาการเงิน ไม่เคยถูกสอนในห้องเรียนประเทศไทย ปรากฎการณ์ประชาชนทั่วประเทศเป็น “หนี้” จึงเป็นเรื่องที่หลายคนออกจากวังวนนี้ไม่ได้… แม้จะพยายามแล้วแต่ก็ยังแก้หนี้ไม่สำเร็จ
แล้วคุณคิดว่า “หนี้สิน” เป็นความทุกข์หรือไม่ ? ต้องหมดหนี้ก่อนถึงชีวิตจะมีสุขใช่หรือเปล่า? แล้วถ้าการชดใช้หนี้ต้องใช้เวลายาวนานเกือบทั้งชีวิต ชาตินี้เราจะมีความสุขได้อย่างไร คำถามแสนปวดใจของบรรดา “มนุษย์เงินเดือนชนเดือน”, “เกษตรกร” ที่ไร้หลักประกัน ชีวิตขึ้นอยู่กับลมฟ้าอากาศ หรือแม้แต่ “คุณครู” ที่ดูเหมือนมีสวัสดิการและความมั่นคงในชีวิต แต่ก็ต้องถูกหักเงินทุกเดือน จนแทบจะไม่เหลืออิสรภาพทางการเงิน และประชาชนทุกคนในประเทศนี้ล้วนเป็นหนี้เกือบ 100% แต่จะปรับใจอย่างไรให้มีหนี้อย่างมีสุข และค่อย ๆ ปลดออกไปอย่างถาวร เพื่ออิสรภาพทางการเงิน
The Active พูดคุยประเด็นนี้ กับ ผู้ประกอบการ “Genius School Thailand” SMEs น้องใหม่ที่ตั้งขึ้นมาในประเทศไทยเพียง 5 ปี หวังเปลี่ยนวิธีคิดให้เด็ก-เยาวชนเข้าใจเป้าหมาย และคุณค่าในตัวเอง ล่าสุดกำลังนำร่องปรับวิธีคิดทางการเงินให้กับอาสาสมัครชาวนามหานคร เตรียมขยายผลปลดหนี้เกษตรกรทั่วประเทศ คู่ขนาน ปลดหนี้ครู สู่ การสอนวิชาการเงินในห้องเรียน
“ปลดหนี้ ไม่ได้ใช้แค่ ‘เงิน’ แต่แก้ด้วยความเข้าใจ และการจัดการ
ที่สำคัญต้องเชื่อมั่นก่อนว่า เรามีศักยภาพที่จะปลดหนี้ได้…”
ทีม Genius School Thailand
พัช-พัสชนันท์ คงวณิชกิจเจริญ นักธุรกิจหญิงมากความสามารถ ดีกรีปริญญาโท คณะบริหารวิทยาการคอมพิวเตอร์ (MIS) Mcquaire University ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย และมีแรงผลักดันที่อยากจะเห็นการศึกษาไทยเปลี่ยนไปโดยให้เด็กและเยาวชนค้นหาความต้องในชีวิตของตัวเองได้อย่างแท้จริง และอยู่อย่างมีความสุขโดยมีอิสรภาพทางความคิด และทางการเงิน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ “Genius School Thailand” SMEs ที่เดินบนเส้นทางการพัฒนาทุนมนุษย์ ในมิติการศึกษามาเกือบ 5 ปี จนมีคำถามว่าเหตุใดประเทศไทย ไม่มีการสอนวิชาชีวิต และวิชาการเงินในห้องเรียน ทั้ง ๆ ที่ เด็กและเยาวชนก็ใช้เงินมาตั้งแต่เข้าโรงเรียน ขณะที่คุณครูซึ่งเป็นบุคลากรสำคัญในการพัฒนาอนาคตของประเทศ กลับเต็มไปด้วยภาระหนี้สิน ส่งผลต่อการทำงานที่ขาดแรงบันดาลใจในการสร้างคน
ครูพัช พัสชนันท์ มองว่า การทำความเข้าใจตัวเอง และการเงิน การเติบโตและอิสรภาพทางความคิดเป็นสิ่งสำคัญ แต่ที่ผ่านมาการศึกษาสร้างกรอบ และครอบคำว่าตั้งใจเรียน โดยทุกคนที่ประสบความสำเร็จจำต้องมีครอบครัว มีบ้าน มีรถ แต่ในความจริงแล้วการจบปริญญา มีบ้าน มีรถ คือ การมีหนี้ ดังนั้นอาจจะต้องหันมามองกันจริง ๆ ว่า ความสำเร็จในชีวิตคืออะไร ซึ่งแต่ละคนอาจมีคำตอบแตกต่างกัน เธอพยายามหาคำตอบเรื่องนี้โดยไปศึกษาดูงานในต่างประเทศ อย่างฟินแลนด์ และพบว่า โรงเรียนที่ดีที่สุด ไม่ได้เรียนเยอะ เด็กมีความสุข และมีค่าเฉลี่ยของรายประชากรสูงทั้งที่ไม่ต้องทำงานหนัก จึงตั้งคำถามว่าแล้วประเทศไทยที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ เหตุใดถึงไม่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทุนมนุษย์
นี่เป็นเหตุผลให้ ทีมงานของเธอกว่า 10 ชีวิต เดินหน้าฝึกสอนช่วยพัฒนาโรงเรียนในหลายพื้นที่ เช่น กทม., สงขลา, เชียงราย, พะเยา, ชลบุรี, เลย ฯลฯ เปลี่ยนวิธีคิดคุณครูไปแล้วหลักพันคน โดยเริ่มจากการปลดหนี้ครู ก่อนให้ครูไปเปลี่ยนวิธีการสอนในห้องเรียนของตัวเอง
“เราตั้งใจปลูกฝังวิธีคิดเริ่มจาก ปลดหนี้คุณครู ภายในเครือข่ายโรงเรียน ถ้าทำได้ เราเชื่อว่าจะเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ถูกส่งต่อไปถึง นักเรียนในห้องเรียน เด็ก ๆ จับเงินทุกวันอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่มีวิชาการเงินสอนพวกเขาตั้งแต่ในห้องเรียน ?
เช่นเดียวกับ เกษตรกร เป็นกระดูกสันหลังของชาติ ปลดหนี้ได้ง่ายกว่าหลายคน เพราะมีที่ดิน มีทรัพย์สิน เพียงแค่เปลี่ยนวิธีคิดและเข้าใจเงิน
เราตั้งใจเปลี่ยนวิธีคิดอาสาสมัครชาวนามหานคร กลุ่มเล็ก ๆ ก่อน หวังให้นำวิธีการเหล่านี้ไปขยายผลต่อ และเป็นพี่เลี้ยงให้เกษตรกรทั่วประเทศปลดหนี้…”
พัสชนันท์ คงวณิชกิจเจริญ
ผู้ก่อตั้ง Genius School Thailand
3 ขั้นตอน เปลี่ยนวิธีคิด “ปลดหนี้”
นี่คือภาพกิจกรรมบางส่วนของ Work Shop ปลดหนี้ของทีม Genius School Thailand ที่มาสร้างกระบวนการเรียนรู้ปลดหนี้ให้กับ อาสาสมัครชาวนามหานคร จำนวน 3 ครั้ง โดยหลักการสำคัญของการทำ Work Shop นี้จะเริ่มต้นด้วย การยอมรับตัวเลขหนี้ที่แท้จริง ลงมือแก้ไขหนี้ด้วยตัวเอง และวางเป้าหมายเพื่อปลดหนี้ เพิ่มรายได้
- กระบวนการยอมรับความจริง : ขั้นตอนแรกต้องทำความเข้าใจว่าตัวเองมีหนี้สินทั้งหมดเท่าไหร่ ดอกเบี้ยเท่าไหร่ ผ่อนต่อเดือนเท่าไหร่ ลดดอกเบี้ยได้หรือไม่ โดยขั้นนี้ผู้อบรมทุกคนจะต้องขอเอกสารหนี้สินมาทั้งหมด เช่น เครดิตบูโร, สัญญาเงินกู้, เอกสารที่เซนค้ำประกันทุกคน, เงินกู้นอกระบบทั้งหหมด,ใบผ่อนบัตรเครดิต ฯลฯ โดยสรุปขั้นตอนนี้มี 80% ของผู้เข้าอบรมที่เพิ่งรู้ และยอมรับความจริง เพราะที่ผ่านมาไม่เคยรู้ถึงหนี้สินที่แท้จริงของตัวเองเลย
- สอนคำนวนการจ่ายหนี้ : เพื่อไขข้อข้องใจของใครหลายคนที่รู้สึกว่า ทำไมจ่ายหนี้ไปตั้งหลายปี หนี้ยังเท่าเดิม เพราะคนส่วนใหญ่ไม่เคยคำนวนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- จดบันทึกบัญชีครัวเรือน : เพื่อลดคำถามติดปาก “เงินมันหายไปไหนหมด?” และจะทำให้ผู้จดบันทึกรับรู้ถึงรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ส่วนใหญ่รายจ่ายฟุ่มเฟือยจะมีมากกว่า 50%
เทคนิคแบ่งเงิน 6 กระปุก วางแผนใช้จ่ายรายเดือน
ทางทีม Genius School Thailand ยกตัวอย่างเทคนิคการแบ่งรายรับ รายจ่าย ออกเป็นการเก็บเงินเพื่อใช้จ่าย 6 ส่วนประกอบด้วย
- เงินใช้จ่ายในชีวิตตัวเอง
- เงินที่ให้ความสุขตัวเอง
- เงินเพื่อการพัฒนาการศึกษา
- เงินเพื่อการให้ แบ่งปัน
- เงินเพื่อเกษียณ ส่วนนี้สำคัญ เพราะเป็นการสร้างวินัยทางการเงิน
- เงินเพื่อเก็บเพื่อใช้จ่ายระยะยาว
โดยแต่ละคนจะมีเปอร์เซ็นต์ไม่เท่ากัน โดยหลังจากจัดแบ่งสัดส่วนแล้วต้องวางแผนรายเดือน และรายปี โดยสิ่งสำคัญของการทำ Work Shop ครั้งนี้ คือการนำวิธีคิดไปปฏิบัติอย่างมีวินัย และมีเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจนนั่นเอง…
จำรัสโมเดล – ตัวอย่างเกษตรกรหนี้ 2 ล้านบาท
หนึ่งในผู้เข้าร่วมอบรมครั้งนี้ คือ จำรัส ครองยุทธ ที่เคยเดินหน้าปลดหนี้ร่วมกับเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ ผ่าน “จำรัสโมเดล แก้หนี้ภาคประชาชน” แม้จะได้เงินจากการระดมปลูกต้นไม้ และการช่วยเหลือกันของเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติทั่วประเทศ แต่จำรัสก็ยังไม่หมดนี้ เงินที่ได้จากการระดมช่วยเหลือจำนวน 2 แสนบาท จึงลงความเห็นจากกลุ่มให้เก็บไว้ก่อน และให้พี่จำรัส เปลี่ยนวิธีคิด และวางแผนการปลดหนี้ของเธอก่อน จึงค่อยมอบเงินช่วยเหลือภายหลัง ปัจจุบัน พี่จำรัส ยังคงมีหนี้สินอยู่ที่ 2 ล้านบาท แต่หลังจบ Work shop 3 วัน เธอยืนยันว่า มีแนวทาง และเป้าหมายที่ชัดเจนในชีวิตสำหรับการปลดหนี้แล้ว
ถ้าจะให้เล่าถึงการแก้หนี้ผ่าน จำรัสโมเดล ทีมงาน Genius School Thailand ยกตัวอย่าง ที่ดินของพี่จำรัส ที่มีทั้งหมด 36 ไร่ เวลานี้ปรับเป็นเกษตรแบบผสมผสานที่ผัก ผลไม้ ปลา เป็นทรัพย์สินบนผืนดินที่งอกเงยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการคำนวนเป็นตัวเลขรายได้ต่อปี พี่จำรัส ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นจนไปแตะที่ 64,840 บาทต่อเดือน โดยเขาเองก็ยอมรับว่า หากไม่ได้นำตัวเลขออกมาคำนวนให้เห็น เธอก็ยังคิดว่า เธอมีรายได้น้อยที่ไม่เพียงพอต่อการใช้หนี้เหมือนเดิม
ส่วนของหนี้สิน ทั้งพี่จำรัส และเกษตรกรอีกหลายคน เจอปัญหาคล้ายกัน คือไม่รู้สิทธิของตัวเองในการลดหย่อนหนี้สินต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ที่ดิน 1 ผืน 12 ไร่ 3 งาน ราคาประเมินในปี 2554 อยู่ที่ 309,000 บาท แต่ราคาประเมินใหม่ในปี 2565 อยู่ที่ 773,865 บาท
ใบประเมินราคาใหม่ที่ได้มาทำให้พี่จำรัส มีวงเงินกู้เพิ่มขึ้นจากเดิมเป็นเท่าตัว ทำให้เงินกู้ที่เหลือ สามารถนำไปปิดหนี้ก้อนเล็กอื่น ๆ ได้อีกหลายก้อน เพื่อให้หนี้สินน้อยลงนั่นเอง ซึ่งเกษตรกรหลายคนไม่ทราบและไม่กล้าที่จะเจรจากับเจ้าหนี้ หรือนายธนาคาร ทั้งที่บางครั้งก็อาจจะเป็นข้อเสนอที่ช่วยลดภาระหนี้สิน ดอกเบี้ยในการจ่ายหนี้ด้วยซ้ำ
ครูพัช ทิ้งท้ายถึงความสำเร็จของ “จำรัสโมเดล” ปลดหนี้ได้เพราะความหวัง และความเชื่อมั่นว่าเธอนั้นจะสามารถปลดหนี้ได้ตามแผนที่วางไว้…
“เกษตรกร” ปลดหนี้ง่ายกว่า “ครู”
พนักงานข้าราชการ หรือ ครู อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการกู้ มีสิทธิกู้เยอะ แต่ไม่มีทรัพย์สิน ขณะที่ หนี้ถูกหักออกจากบัญชีเงินเดือน โดยไม่สามารถหยุดผ่อนชำระ หรือ หนีหนี้ได้ หากไม่หารายได้เสริม คุณครู เป็นอาชีพที่มีสวัสดิการมั่นคง แต่แทบไม่มีเงินเหลือพอจะใช้ชีวิตได้อย่างมีอิสรภาพ
ทีม Genius School Thailand ย้ำว่า การปลดหนี้ที่ง่ายที่สุด คือการปลดหนี้ให้กับเกษตรกร เพราะเกษตรกรมีทรัพย์สิน มีมูลค่าของที่ดิน และผลผลิต หากรู้วิธีการคิด เข้าใจการเงิน และกล้าที่จะเข้าถึงสิทธิประโยชน์ทางการเงินต่าง ๆ อย่างรู้เท่าทัน การปลดหนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ขณะที่ การช่วยเหลือของภาครัฐที่ผ่านมา เช่น นโยบายการพักชำระหนี้ ก็จะยิ่งทำให้ดอกเบี้ยเพิ่มเติม หรือการให้เงิน ก็ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ยั่งยืน การให้ความรู้ วิธีคิดเพื่อปลดหนี้จึงเป็นวิธีที่ยั่งยืนและแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากที่สุด
คิดให้ชีวิตมี “อิสรภาพทางการเงิน” อย่างถาวร
บี๊-นุกูล ลักขณานุกุล ผู้มีประสบการณ์ตรงในการจัดการการเงิน จากติดลบจนบวกเป็นหลักล้าน เจ้าของหนังสือ ออกจากวังวนที่จนตลอดชาติ และผู้ร่วมก่อตั้ง Genius School Thailand ชวนหันกลับมาตั้งคำถามว่า ตั้งแต่ทำงานมา เงินเดือนที่เรามีเพียงพอกับค่าใช้จ่ายหรือไม่ เรายังคงมีความหวังกับโบนัส และเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นจากการทำงานหนักอยู่หรือไม่ ?
“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่จำนวนเงิน แต่อยู่ที่วิธีการใช้เงิน… เครื่องมือทางการเงินที่น่ากลัวที่สุด คือ การใช้เงินอนาคต
ที่ผ่านมา ไม่เคยมีคนสอนว่า เราต้องใช้เงินแค่ไหน ต้องออมแค่ไหน และทำไปเพื่ออะไร? เราอยู่ในระบบการศึกษาที่ไม่ต้องคิดมานานมาก แม้กระทั่งวัยทำงานในบางบริษัทก็ไม่ต้องคิดอยู่ดี… จนลืมไปเลยว่าเราเริ่มจัดการชีวิตตัวเองเมื่อไหร่”
บี๊-นุกูล ลักขณานุกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง Genius School Thailand
บี๊-นุกูล มองต่อว่า ปัญหาหลักของการจัดการเงิน และการออม คือ การไม่เคยสอนวัตถุประสงค์ เส้นทางการเงิน ทำให้เราเติบโตมาคิดแยกส่วน ไม่มีใครสอนให้คิดรวมกันอย่างเป็นระบบ ไม่มีแผนการจัดการเงิน เช่น เรามีเงินเดือนสูงมากกว่า 50,000 บาท รู้แค่ว่าเราผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนสมาร์ทโฟน ฯลฯ ได้ทั้งหมด แต่ไม่เคยคิดนำทุกอย่างมารวมกันดูว่าเป็นเงินเท่าไหร่ ? นี่คือจุดเริ่มต้นของปัญหานี้ ที่เราคิดว่า “เอาอยู่” เมื่อเทียบกับรายได้ นี่ยังไม่นับรวมปัจจัยความไม่แน่นอน เช่น วิกฤตโรคระบาด เศรษฐกิจ ครอบครัวขยาย โรคภัยไข้เจ็บ และอื่นๆ อีกมากมาย การวางแผนทางการเงินจึงเป็นเรื่องที่สำคัญจำเป็นในชีวิต และควรอยู่ในระบบการศึกษามากที่สุด
ยกตัวอย่าง การทดลองเล่นเกมการเงินของเด็ก ๆ ทีมให้เด็กเลือกใช้เงินในกระปุกออมสิน 2 ใบ ใบหนึ่งเก็บเงินไว้เพื่อซื้อจักรยาน กับอีกใบที่เก็บไว้โดยไม่มีเป้าหมาย อยู่ ๆ วันหนึ่งหากจำเป็นต้องใช้เงินฉุกเฉินจะเลือกทุบกระปุกออมสินใบไหน แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่เลือกทุบกระปุกที่ไม่มีเป้าหมายจะใช้ก่อน ดังนั้น ยิ่งมีเป้าหมายทางการเงินมากเท่าไหร่ รู้ว่าเก็บและใช้ไปเพื่ออะไร ก็จะยิ่งสร้างวินัยทางการเงินได้มากขึ้นนั่นเอง…
“ไม่รู้เงินไปไหนหมด …คนจนพูด
รู้ว่าเงินไปไหน แต่ไม่รู้ว่าเงินมาจากไหน? …คนปานกลางพูด
ขณะที่ คนรวย รู้หมดทุกอย่างว่าเงินมาจากไหน และไปไหน
สิ่งสำคัญของวิธีคิดทางการเงิน คือ ต้องรู้จุดประสงค์ว่า หยอดกระปุกไปทำอะไร…“
บี๊-นุกูล ลักขณานุกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง Genius School Thailand
Genius School Thailand เดินหน้าเปลี่ยนวิธีคิดการใช้ชีวิต และการเงินของคนไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเชื่อมั่นว่า การพัฒนาคนตั้งแต่วิธีคิด การตั้งคำถามกับเป้าหมายในชีวิตของตัวเองตั้งแต่ห้องเรียนเป็นสิ่งสำคัญ จึงตั้งเป้าหมายเปลี่ยนวิธีคิดครู หวังขยายผลไปถึงการสอนวิชาการเงินในห้องเรียน รวมถึงการปลดหนี้เกษตรกรทั่วประเทศ โดยเริ่มต้นจากการปลูกฝังวิธีคิดทางการเงินที่ถูกต้องให้กับอาสาสมัครชาวนามหานคร ก่อนค่อยสร้างเมล็ดพันธุ์ที่มีความเข้มแข็ง เพื่อปลดหนี้และพาคนไทยสู่อิสรภาพทางการเงินได้อย่างแท้จริง