ธุรกิจเช่าลุง: จากป้าข้างบ้าน สู่คนข้างใจ ลดช่องว่างระหว่างวัยในสังคมสูงวัยสุดยอด

“ใครเห็นข่าวอาม่าโดนทำร้าย เรื่องแย่งที่นั่งบนรถไฟฟ้าในไต้หวันบ้างคะ ?”

นี่คือประโยคแรกที่พี่สาวแสนสดใสในชุดขาว จับไมค์แล้วใช้ทักทายผู้เข้าร่วมผู้เข้าร่วมงาน

คลิปไวรัลในโซเชียลมีเดีย ที่มีอาม่ากับหญิงสาวชุดดำทะเลาะกันเรื่องที่นั่งบนรถไฟฟ้า เถียงกันไปมาสักพักใหญ่ ท้ายที่สุดจบลงด้วยความรุนแรง ท่ามกลางเสียงแตกบนโซเชียลมีเดียทั้งในไทยและไต้หวัน บ้างก็บอกว่า เคยเห็นอาม่าท่านนี้เป็นถึงนักวิจัย แต่คงผิดหวังที่ไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง แก่แล้วเลยเพี้ยนแบบนี้ บ้างก็บอกว่า สะใจ เพราะนี่แหละมนุษย์ป้าผู้เห็นแก่ตัว ความเห็นส่วนใหญ่เทไปในเชิงลบ ทำนองว่า “สมควรแล้ว” ที่โดนแบบนั้น 

เราพบกับ จอย – ณัฐกาญจน์ เด่นวณิชชากร ภายในงาน International Day of Older Persons Elders’ Stories Corner: Grandma (Under)Stand Edition ในวันผู้สูงอายุสากลที่ผ่านมา

“อาม่าท่านนั้น อาจกำลังมีอาการของสภาวะสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์” 

จอย – ณัฐกาญจน์ เด่นวณิชชากร
ผู้ก่อตั้ง JoyRide ลูกรับจ้าง หลานจำเป็น และ JoyLife สังคมสูงวัย สุขใจโซไซตี้ Innovative Aged Society
ที่มา : JoyRide

จอย อธิบายว่า สิ่งที่คนในสังคมส่วนใหญ่ให้ความเห็นตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นการด่วนตัดสินเกินไป เพราะนี่อาจเป็นอาการของผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อม หรืออัลไซเมอร์ หนึ่งในสภาวะที่พบมากในผู้สูงอายุ ที่ไม่ใช่เพียงความจำเสื่อมลง แต่คือความผิดปกติของสมอง ทำให้การใช้เหตุผลลดลง การรับรู้ทางสังคมเปลี่ยนไป ไม่เข้าใจกาลเทศะ ทำหรือพูดในสิ่งที่ไม่ควรทำในที่สาธารณะ รวมทั้งขาดความยับยั้งชั่งใจ (disinhibition) ด้วย

“ในอนาคต เราจะมีผู้สูงวัยเพิ่มขึ้นอีกมาก และพวกเราก็รวมอยู่ในนั้น หากเราเปลี่ยน mindset ต่อผู้สูวัย ให้เข้าใจ เห็นอกเห็นใจกัน สังคมจะน่าอยู่มากขี้น”

เราอาจจะคุ้นเคยกับ ‘จอย – ณัฐกาญจน์ เด่นวณิชชากร’ ในฐานะผู้ก่อตั้งบริการ Joy Ride (จอยไรด์) ลูกรับจ้าง หลานจำเป็น’ ที่เป็นบริการพาผู้สูงวัยไปหาหมอ แต่ตอนนี้เริ่มมีบริการใหม่อย่าง “เช่าลุง” ที่เธอเชื่อว่าจะทำให้ทุกคนในสังคมขยับเข้ามาใกล้ และเข้าใจกันมากกว่าเดิม

ธุรกิจเช่าลุง: อะไรใหม่ ๆ ในสังคมสูงวัย

“บางคนต้องการรุ่นพี่ที่ไม่ตัดสิน แบ่งปันประสบการณ์และรับฟังปัญหาเรื่องชีวิตการอย่างเข้าใจ หรือเป็น comfort zone ให้หนุ่มสาววัยทำงานได้ฮีลใจอย่างไม่ต้องกังวล”

จอย เล่าให้เราฟังว่า จุดเริ่มต้นของ บริการ “เช่าลุง” มาจากการได้ใกล้ชิดกับผู้สูงวัยจำนวนมากผ่านการทำบริการ Joy Ride (จอยไรด์) – ลูกรับจ้าง หลานจำเป็น ตลอด 4 ปี ที่ผ่านมาทำให้เห็นว่าผู้สูงวัยจำนวนมากยังแข็งแรง สุขภาพดี พวกเขามีทั้งความรู้ และประสบการณ์ในการใช้ชีวิต และยังมีความสามารถในการประกอบอาชีพอยู่อีกมาก แต่กลับเสียโอกาสในการเข้าทำงานในองค์กรต่าง ๆ เพียงเพราะอยู่ในวัยเกษียณ

จึงเกิดเป็นที่มาของ ขึ้นมาเป็น ของ JoyLife สังคมสูงวัย สุขใจโซไซตี้ Innovative Aged Society แพลตฟอร์มที่พยายามเชื่อมโยงผู้สูงวัยให้เข้าสู่โอกาสต่าง ๆ ในสังคม เข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบ มีบทบาทในสังคม โดยเฉพาะเศรษฐกิจและการจ้างงาน ไม่ปล่อยให้ผู้สูงวัยถูกแยกออกมาอย่างโดดเดี่ยวและกลายเป็นผู้รับแต่เพียงฝ่ายเดียว ผ่านแนวคิด “แก่อย่างมีคุณค่า ชราอย่างมีคุณภาพ”

“สูงวัยต้องไม่ใช่แค่แก่ แต่ต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย บริการสูวัยจะกลายเป็นเศรษฐกิจคลื่นลูกใหม่ ที่ขับเคลื่อนโดยคนรุ่นเก่า (Creative Silver Economy) และเกิดเป็นสังคมสูงวัยที่มีความสุข หรือ สุขใจโซไซตี้”

จอยเล่าว่า เธอเจอกับผู้สูงวัยหลายราย ที่เป็นอดีตผู้จัดการบริษัทบ้าง เป็นผู้บริหารองค์กรบ้าง แต่พอเกษียณอายุก็ต้องออกจากงาน เมื่อลองเริ่มหางานใหม่ ก็เจอแต่เปิดรับตำแหน่งอย่างรปภ. หรือพนักงานขายในห้างสรรพสินค้า

บรรยากาศยามบ่าย ภายในงาน International Day of Older Persons Elders’ Stories Corner: Grandma (Under)Stand Edition
ที่มา: JoyRide

“พวกเขาต้องไปทำงานที่ใช้แรงกาย ที่ตัวเองไม่เคยมีทั้งทักษะและประสบการณ์ในงานด้านนั้น หลายท่านได้งานพาร์ตไทม์แต่เงินเดือนกลับน้อยกว่าเด็กฝึกงานเสียอีก มันทำให้พวกท่านรู้สึกไม่มีคุณค่า”

เธอเห็นความสำคัญจากประสบการณ์การทำงานเฉพาะด้าน และการใช้ชีวิตของผู้สูงวัย ว่าแสนจะมีคุณค่าและความหมายต่อคนรุ่นหลัง จึงเป็นที่มาของ บริการเช่าลุง-ป้า เพราะเชื่อว่านี่ไม่ใช่แค่การเพิ่มคุณค่าของผู้สูงวัย แต่เป็นการลดช่องว่างในสังคมด้วย

บริการนี้มันช่วยลดช่องว่างระหว่างวัย ทำให้คนต่างเจนเนอเรชันได้จูนกันติด นอกจากทำให้คนหนุ่มสาวคุ้นเคยกับผู้สูงวัยแล้ว มันยังทำให้พวกเขายอมรับผู้สูงวัยมากขึ้นด้วย

“อย่างน้อย มันน่าจะทำให้ทัศนคติเชิงลบต่อผู้สูงวัยหายไป ทั้งเรื่องของกลิ่นแก่ หรือคำว่ามนุษย์ป้า-มนุษย์ลุง

“หากคนรุ่นใหม่ ๆ คุ้นเคยกับผู้สูงวัย เราเชื่อว่าความเข้าใจนี้จะทำให้สังคมเกิด empathy ยกระดับคุณค่าผู้สูงวัย และพวกเราเองจะเริ่มมองเห็นตัวเองเมื่อเข้าสู่วัยชราด้วย และนำไปสู่การวางแผนชีวิตด้วย”

จ้างลุงไปเป็น CEO

ตลอดทั้งบ่ายภายในงาน International Day of Older Persons Elders’ Stories Corner: Grandma (Under)Stand Edition

เราได้เจอกับ รุ่นพี่ ทั้ง 4 ท่าน ในพื้นที่เล่าเรื่องจริง (Human Library) มาทำทำหน้าที่แบ่งปันมุมมองชีวิต การงาน ความรัก หรือกระทั่งเป็นเพื่อนรับฟังเฉย ๆ แน่นอนว่ารุ่นพี่ทุกท่าน ผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนถึงวัยเกษียณ ประสบการณ์ชีวิตและการทำงานเป็นเหมือนคำแนะนำอันล้ำค่า ที่ไม่มีหนังสือฮาวทูเล่มไหนสอน

เหล่ารุ่นพี่วัยเกษียณ พร้อมบริการรับฟัง ให้คำปรึกษา ทั้งการงาน ความรัก และการใช้ชีวิต
ที่มา: JoyRide

เราเลือกจะที่ลองปรึกษาปัญหาชีวิตการงานกับ พี่รังสรรค์ วัย 66 ปี ที่มารับหน้าที่เป็น “คุณลุง” ให้เราลองเช่าบริการในวันนี้ 

รัฐมองว่า ผู้สูงวัยคือภาระของสังคม ทั้งที่ยังเป็นวัยที่แอคทีฟ แต่กลับไม่มีการจ้างงานรองรับ หากปล่อยให้เป็นแบบนี้มากเท่าไหร่ เศรษฐกิจและสังคมเราในอนาคตจะยิ่งแย่มากขึ้นเท่านั้น” เขาพูดกับเราเป็นประโยคแรก

พี่รังสรรค์เคยทำงานอยู่ในธนาคารแห่งหนึ่ง ก่อนจะเกษียณในวัย 60 ปี ตลอดเวลาหลายสิบปีในการทำงานทำให้มีความเชี่ยวชาญด้านบัญชีและการเงินอย่างช่ำชอง แต่หลังจากเกษียณ กลับไม่สามารถหางานที่สอดคล้องกับความถนัดได้อีกแล้ว

“ตอนเกษียนใหม่ ๆ ผมสนุกสนานมาก ผมแต่งตัวออกจากบ้านทุกวัน ไปเดินห้างบ้าง นั่งร้านกาแฟบ้าง ทั้งสังสรรค์ มีตติ้งกับเพื่อน ๆ หรืออกไปเที่ยวต่างจังหวัด วนไปเรื่อย ๆ แบบนี้ก็มีความสุขดี

“แต่พอผ่านไป 2-3 ปี เงินทองก็เริ่มหมดไป เราเริ่มรู้สึกไม่มีคุณค่า ทั้งที่ร่างกายยังแข็งแรง”

จากวันนั้น พี่รังสรรค์คิดว่าต้องทำอะไรสักอย่าง อาจไม่ต้องได้เงินเท่าเดิมก็ได้ แต่ขอให้มีเงินพอใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะอยากมีชีวิตแต่ละวันที่มีความหมาย มีคุณค่า และไม่ต้องพึ่งพาใคร จึงเริ่มออกหางาน

“ผมเริ่มหาข้อมูล ว่าที่ไหนรับคนอายุ 60 ปี เข้าทำงานบ้าง สมัครไปเยอะมาก ทั้งร้านหนังสือ บริษัทประกัน แต่ไม่มีที่ไหนรับเลย”

คุณลุงที่ทำหน้าที่ให้เราเช่าวันนี้ เล่าต่อไปอีกว่า เคยไปสมัครงานตามร้านกาแฟและห้างสรรพสินค้าบางแห่งที่ประกาศอย่างโจ่งแจ้งว่ามีนโยบายรับผู้สูงอายุเข้าทำงาน แต่ในความเป็นจริงกลับเป็นเหมือนแนวคิดเพื่อการโพรชชชกรมากกว่า ดูเหมือนไม่ได้วางระบบไว้สำหรับการตั้งใจจะรับผู้สูงอายุเข้าทำงานอย่างจริงจัง

พี่รังสรรค์ วัย 66 ปี
ที่มา: JoyRide

ด้วยเหตุนี้ ผู้สูงอายุที่ยังแอคทีฟ ต้องต้องพยายามในการหางานด้วยตัวเอง และกลายเป็นอีกหนึ่งช่องโหว่ขนาดใหญ่ เมื่อตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

“ผมเคยเห็นประกาศรับพนักงานร้านกาแฟที่รับผู้สูงวัย ให้เงินเดือนเยอะพอสมควร เขาขอรายละเอียดส่วนตัวไปเยอะมากแล้วยังให้จ่ายค่าสมัครด้วย ผมเคยลงทุนนั่งรถไปดูถึงที่ว่าร้านกาแฟนี้มีจริงไหม แต่ก็เจอว่าไม่มีตัวตน”

ปัจจุบัน พี่รังสรรค์ได้เข้าทำงานที่ร้านกาแฟ THE COFFEE CLUB THAILAND ในตำแหน่ง Senior Barista และเป็น Senior Brand Ambassador ของ Joy Ride 

และยังเป็น “คุณลุง” ที่ถูกจ้างให้เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ของบริษัทรถตู้สำหรับผู้สูงวัย มีหน้าที่ในการให้ข้อมูลแก่ลูกค้า เนื่องจากมีความเข้าใจในสินค้า การใช้งาน และกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้สูงวัยมากกว่า และแน่นอนว่ายังมีค่าตัวถูกกว่า MC หรือพริตตี้สาวสวยที่เป็นเด็กสาวอีกด้วย

พี่รังสรรค์ กับตำแหน่ง Senior Barista ในร้านกาแฟ
ที่มา: JoyRide

นอกจากนี้ ยังมีผู้บริหารบริษัทเช่าพี่รังสรรค์ให้เข้าประชุมแทน ทำหน้าที่จดโน๊ต ให้ความเห็น และสรุปการประชุมแทน ซึ่งเป็นงานที่ใช้ทั้งทักษะทางความคิดและการสื่อสาร สอดคล้องกับความถนัดที่เคยทำมาตลอดชีวิต

เส้นทางการหางานสำหรับคนหลังเกษียณของผู้สูงวัยไม่ใช่เรื่องง่ายนัก พี่รังสรรค์สะท้อนจากประสบการณ์ตรงของตนเองว่า ภาครัฐจำเป็นต้องเป็นต้องหันกลับมา ทบทวนทิศทางเรื่องการจ้างงานให้ผู้สูงอายุอย่างจริงจังเสียที

“ภาครัฐเอาแต่พูดเรื่องการ upskill และ reskill  แต่และใช้การจับคู่ระหว่างผู้สูงวัยกับงาน แต่จับคู่อย่างไรก็ไม่เจอหรอก เพราะคุณสมบัติคนเกษียณมันสูงเกินกว่าตำแหน่งที่บริษัทจะยอมรับ

“ข้อเสนอของผมคือ การมีระบบจับคู่แบบที่รัฐทำอยู่ก็เป็นเรื่องดี แต่รัฐต้องหนุนบริษัทเอกชนด้วย เช่น หากจ้างงานผู้สูงอายุแล้วมีการลดหย่อนภาษี เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์อย่างเท่าเทียม”

คุณป้าเลี้ยงแมว คุณลุงเทสครีม: หลายหลายความเป็นไปได้ของธุรกิจเช่าลุง

แม้ธุรกิจ “เช่าลุง” จะมีให้เราเห็นบ้างแล้วในญี่ปุ่น แต่สำหรับประเทศไทยแล้ว กลายเป็นโมเดลธุรกิจที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีตลอด 2 ปี ที่ผ่านมา เกิดการจ้างงานผู้สูงวัยในรูปแบบที่หลากหลายได้มากกว่าที่เราคิด ที่ไม่ใช่งานที่เกี่ยวกับผู้สูงอายุเสมอไป แต่เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ด้วย

ทั้งการจ้างไปดูแลสัตว์เลี้ยง จ้างไปเป็นกลุ่มตัวอย่างงานวิจัย จ้างไปลอง test ครีม จ้างมาให้ความเห็นต่อผลิตภัณฑ์ หรือแม้กระทั่งจ้างไปเป็นนายแบบ-นางแบบ ของภาพยนตร์โปรเจ็กต์จบของลูกหลานวัยนักศึกษา

“สำหรับคนที่เลี้ยงแมว เวลาไม่อยู่บ้านก็ต้องหอบแมวไปฝากนอนไว้ที่โรงแรมแมว ซึ่งราคาสูงมาก แต่ถ้ามีคุณป้าสักคนที่ไว้ใจได้ รักแมว และมีประสบการณ์การดูแลมาช่วย แมวทั้งเจ็ดตัวของเราก็อยู่อย่างมีความสุข แล้วเราก็หมดห่วงด้วย”

จอยเล่าด้วยเสียงหัวเราะและย้ำว่า แท้จริงแล้ว ผู้สูงอายุมีศักยภาพทำงานได้หลากหลายมาก แต่ทักษะหนึ่งที่ทุกคนจะมีเป็นพื้นฐานเดียวกัน คือ การรับฟัง

“การเป็นเพื่อนรับฟังปัญหาของเหล่าลุงป้า นอกจากเราจะได้ความเห็นจากประสบการณ์ชีวิตของท่านแล้ว หนุ่มสาวก็จะได้มุมมองชีวิตเหมือนกันนะว่า ทุกคนล้วนเคยผ่านปัญหาชีวิตกันมาไม่มากก็น้อย บางทีชีวิตมันก็แค่นี้เอง”

กิจกรรมเต้น Swing Dance ในงาน International Day of Older Persons Elders’ Stories Corner: Grandma (Under)Stand Edition
ที่มา : JoyRide

เธอยังเล่าว่า ขอบเขตการทำงานของธุรกิจเช่าลุง-ป้านั้น ถูกกำหนดไว้อย่างรอบคอบโดยยึดถือเรื่องคุณภาพชีวิต และความเต็มใจของเหล่าลุงป้าเป็นหลัก ภายใต้กรอบว่าต้องไม่ผิดกฎหมาย จริยธรรม และศีลธรรม

ตอนนี้ สังคมไทยมี mindset ว่าคนแก่ต้องไปเป็นจิตอาสาเท่านั้น แต่จิตอาสาก็ต้องใช้เงินใช่ไหม แต่โมเดลเช่า-ลุงป้านี้ เป็น win-win situation คือ ได้ประโยชน์ทั้งคนให้บริการและรับบริการ คนจ้างงานก็ได้งาน คนให้บริการก็ได้เงิน ได้สังคม และยังได้กิจกรรมที่ช่วยชะลอความเสื่อมถอยของร่างกายด้วย

ปัจจุบัน ธุรกิจเช่าลุงป้า ของจอยไรด์ มีราคาเริ่มต้น 955 บาท/วัน (5 ชม.) ชั่วโมงต่อไป 55 บาท ขอบเขตบริการหลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็น เพื่อนออกกำลังกาย เพื่อนไปดูดวง เข้าวัดทำบุญ ช่วยเลือกของขวัญให้คุณแม่ ดูแลสัตว์เลี้ยง เป็นเพื่อนไปงานปาร์ตี้ หรือเพื่อนรับฟังปัญหา นั่งเป็นเพื่อนเวลาร้องไห้ ให้คำปรึกษาเรื่องชีวิต คอยเตือนสติ หรือแม้กระทั่งอยู่ข้าง ๆ ในวันที่ต้องการกำลังใจ

เพราะนี่คือธุรกิจที่มองว่าอายุที่เพิ่มมากขึ้น ไม่ได้หมายถึงความเสื่อมถอยและแก่ชราเสมอไป แต่คุณค่า ความรู้ และประสบการณ์จากการใช้ชีวิต คือสิ่งที่ทรงคุณค่ายิ่งต่อหนุ่มสาวรุ่นหลัง ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สินค้าหรือบริการ แต่ช่วยเปลี่ยนทัศนคติ และลดช่องว่างที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมไทยด้วย

“ถ้าคุณจ้างคนทำงานเพื่อเงิน เขาจะทำงานให้ได้เงินแล้วกลับบ้าน แต่ถ้าคุณจ้างผู้สูงวัย เขาจะทำงานให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเขาทำงานด้วยศักดิ์ศรี ที่มีประสบการณ์ ชื่อเสียงเป็นเดิมพัน” จอยทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้ม

Author

Alternative Text
AUTHOR

ปุณยอาภา ศรีคิรินทร์

เธอไม่ต้องฆ่าฉันด้วยปืนหรอก แค่เธอบอกว่าไม่รัก สักพักฉันก็ตาย