พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับแก้ไขใหม่ มีผลบังคับใช้ พ.ย.นี้ 

ราชกิจจานุเบกษา ลงประกาศ ‘พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2568’ เตรียมมีผลใช้บังคับใช้ หลังประกาศ 60 วัน เน้นย้ำ ประเด็นปรับแก้การโฆษณา กำหนดเวลา สถานที่ ขาย ให้กฎหมายเท่าทันสภาพการณ์ปัจจุบัน  

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ ที่ระบุถึงการแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พุทธศักราช พ.ศ.2551 โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตรา พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2568 เพื่อให้การควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน

สำหรับเหตุผลของการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ เนื่องจาก กฎหมายเดิมใช้บังคับมาเป็นเวลานาน สมควรปรับปรุงบทนิยามบทบัญญัติที่เกี่ยวกับองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการชุดต่าง ๆ อำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีผู้รักษาการ อำนาจหน้าที่ของสำนักงาน อำนาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ และบทบัญญัติเกี่ยวกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การโฆษณา การส่งเสริมและสนับสนุนการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน

นอกจากนี้สมควรกำหนดบทบัญญัติเกี่ยวกับการกำหนดเวลาห้ามขายห้ามบริโภคควบคุมแอลกอฮอล์ในสถานที่หรือบริเวณที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือสถานที่ หรือบริเวณที่จัดบริการ เพื่อให้มีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อประโยชน์ทางการค้า และบทลงโทษเพื่อให้มาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีความครบถ้วนและเป็นเอกภาพตลอดจนการบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพมากขึ้นจึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้

ทั้งนี้ในประกาศ ยังระบุว่า กฎหมายนี้จะมีผล หลังพ้น 60 วัน ที่ประกาศ นั่นหมายความว่า จะมีผลบังคับใช้ต้นเดือนพฤศจิกายน 2568 

กฎหมายที่แก้ไขเพิ่มเติมครั้งนี้มาจาก การเสนอพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ พร้อมด้วยร่างที่มีเนื้อหาคล้ายกันอีก 4 ฉบับ คือร่างของ ธีรภัทร์ คหะวงศ์ กับประชาชน, ร่างของ เจริญ เจริญชัย กับประชาชน, ร่างของ เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส. พรรคก้าวไกล(พรรคประชาชน) กับคณะ ครม. และร่างของ ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และคณะ 

เนื้อหาสำคัญที่ถกกัน คือ การแก้มาตรา 32 “การโฆษณา” เดิม ระบุว่า ห้ามมิให้โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแสดงชื่อ เครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงให้ผู้อื่นดื่ม ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมการประชาสัมพันธ์ทำได้เฉพาะการให้ข้อมูลข่าวสารและความรู้เชิงสร้างสรรค์ โดย ห้ามแสดงภาพสินค้า หรือบรรจุภัณฑ์ ยกเว้นในกรณีที่เป็นภาพสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มนั้น

โดยได้ปรับแก้มาตรา 32 ใหม่ มีเนื้อหาสรุปว่า 

  • 32/1 ห้ามโฆษณาเพื่อจูงใจให้คนอยากดื่ม แต่ให้ข้อมูลความรู้ได้ ถ้าทำตามกติกาที่กำหนด 

  • 32/2 ห้ามใช้คนมีชื่อเสียงมาชวนคนดื่มเหล้า เว้นแต่ให้ความรู้เฉพาะกลุ่ม

  •  32/3 ห้ามโฆษณาสินค้าอื่น โดยใช้ชื่อ โลโก้ หรือสัญลักษณ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้คนเข้าใจว่าเป็นการโฆษณาเหล้า เบียร์ หรือแอลกอฮอล์

  • 32/4 ห้ามสนับสนุนกิจกรรมสาธารณะ (เช่น งานเพื่อสังคมหรือกิจกรรมช่วยเหลือชุมชน) โดยแฝงการส่งเสริมให้คนอยากดื่มแอลกอฮอล์

  • 32/5 ห้ามผู้ใดเผยแพร่กิจกรรมหรือข่าวสารเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมอันมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 32/4

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการส่งเสริมบำบัดคนที่ได้รับผลกระทบจากการดื่มแอลกอฮอล์ การขยายเวลาขาย และมาตรฐานในการตั้งจุดขาย ขณะที่ก่อนหน้ามีการถกเรื่องมาตราการในการวางตู้ขายอัตโนมัติ ซึ่งอาจจะมีการออกเป็นกฎหมายลูก กฎกระทรวง หลังจากนี้

ในประเด็นของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจาก กฎหมายฉบับนี้แล้วยังมีกฎหมาย ภาษีสรรพสามิต ที่ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเป็นการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเดิม คือ พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560  มาตรา 153 ที่ว่าด้วยเรื่องการกำหนดขอบเขตในการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการขอนุญาต และการอนุญาตผลิตสุราตามกฎกระทรวง โดยข้อกำหนดบางอย่าง ส่งผลให้เกิดการการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล จึงได้มีการแก้ให้กฎหมาย หนุนสุราชุมชนผู้ประกอบการรายย่อย ผลิตสุราทุกประเภทได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ปลดล็อกขอใบอนุญาตการผลิตสุราได้ง่ายขึ้น

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active