หวังพรรคการเมือง ชูสวัสดิการหนังสือเด็กเล็ก สร้างพื้นที่ปลอดภัย ฟื้นใจเด็กไทยในภาวะสงคราม

สสส. เสนอพรรคการเมืองผลักดันสวัสดิการหนังสือ 3 เล่ม ในบ้านเด็กเล็ก-สร้างพื้นที่ปลอดภัย เป็นของขวัญวันเด็ก ชี้การเรียนรู้จะเกิดขึ้นได้ เด็กต้องรู้สึกปลอดภัย

แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. เสนอให้พรรคการเมืองและทุกภาคส่วน สนับสนุนสวัสดิการหนังสือ 3 เล่มในบ้านเด็กเล็ก ควบคู่การจัดพื้นที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับเด็ก เพื่อเป็นของขวัญวันเด็กและของขวัญปีใหม่ ท่ามกลางสถานการณ์ภัยพิบัติ ความขัดแย้ง และเหตุการณ์ความไม่สงบในหลายพื้นที่ของประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเด็กอย่างรุนแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ

เด็กเป็นกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา เหตุอุทกภัยในหลายพื้นที่ รวมถึงสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เด็กจำนวนมากต้องเผชิญความสูญเสีย ความหวาดกลัว และความไม่มั่นคงในชีวิตประจำวัน ซึ่งอาจทิ้งร่องรอยบาดแผลทางใจและส่งผลต่อพัฒนาการระยะยาว หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม การใช้หนังสือและกิจกรรมการอ่านร่วมกับการจัดพื้นที่ที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับเด็ก สามารถช่วยลดผลกระทบเชิงลบต่อเด็กได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ไม่เพียงช่วยเยียวยาจิตใจในช่วงวิกฤติ แต่ยังเป็นการวางรากฐานให้เด็กมีความคิดยืดหยุ่น เข้มแข็ง ฟื้นตัวได้ดี และกลับมาเรียนรู้ เติบโต และใช้ชีวิตด้วยความหวังอีกครั้ง

ข้อมูลจาก สสส. ชี้ว่า เด็กแรกเกิดจนถึง 3 ขวบ จำนวนกว่า 1.1 ล้านครัวเรือน มีหนังสือนิทานในบ้านไม่ถึง 3 เล่ม ขณะที่ข้อมูลเมื่อปี 2562 จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ร่วมกับ องค์การยูนิเซฟ พบว่า เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีราว 34% หรือ 1 ใน 3 มีหนังสือสำหรับเด็กอย่างน้อย 3 เล่มที่บ้าน ซึ่งลดลงจากจำนวน 41% ในปี 2558 โดยในจำนวนเหล่านี้ประมาณ 65% เป็นเด็กที่อยู่ในครอบครัวร่ำรวยและมีเพียง 14% ที่อยู่ในครัวเรือนยากจน

สุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. กล่าวว่า ทุกภาคส่วนมีบทบาทสำคัญในการร่วมกันปกป้องเด็กให้เข้มแข็งและพร้อมก้าวต่อไป โดยเฉพาะการออกแบบพื้นที่ที่เป็นมิตรกับเด็ก หรือ Child-Friendly Spaces (CFS) ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการคุ้มครอง ฟื้นฟู และส่งเสริมพัฒนาการเด็กอย่างรอบด้าน ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา

สุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส.

พื้นที่ที่เป็นมิตรกับเด็ก (CFS) คือพื้นที่ปลอดภัยที่ออกแบบโดยคำนึงถึงความต้องการและศักยภาพของเด็กเป็นศูนย์กลาง เด็กสามารถเข้ามาใช้พื้นที่เพื่อเล่น เรียนรู้ แสดงออกทางความคิดและความรู้สึก รวมถึงได้รับการดูแลด้านจิตใจจากผู้ใหญ่ที่มีความเข้าใจ แผนงานฯ ได้นำองค์ความรู้จากหนังสือ “ปลูกกล้ากลางไฟ : แนวทางการดูแลจิตใจและเลี้ยงดูเด็กในภาวะสงคราม” เขียนโดย รศ.เทอดพงศ์ ทองศรีราช และคณะ จากภาควิชากุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งอ้างอิงจากคู่มือ Operation Guidance for Child Friendly Spaces มาเผยแพร่เป็นแนวทางปฏิบัติที่เข้าใจง่ายสำหรับการฟื้นฟู เยียวยา และพัฒนาเด็กในภาวะวิกฤติ

ข้อมูลระบุว่า พื้นที่ปลอดภัยขนาดเพียง 1×1 เมตร ที่ปูด้วยแผ่นรองนุ่ม มีหมอนหรือผ้าห่ม พร้อมหนังสือและของเล่นเด็ก สามารถใช้เป็นมุมสงบในศูนย์พักพิงหรือค่ายผู้ประสบภัยได้ งานวิจัยพบว่า เด็กที่ใช้มุมดังกล่าววันละประมาณ 15 นาที มีระดับฮอร์โมนความเครียดต่ำกว่าเด็กที่ไม่มีมุมสงบเฉลี่ยถึงร้อยละ 18 ภายในระยะเวลา 4 สัปดาห์ อีกทั้งในทางจิตวิทยา มุมสงบและปลอดภัยยังช่วยให้ระบบประสาทลิมบิกในสมอง ซึ่งควบคุมอารมณ์ พฤติกรรม แรงจูงใจ และความจำ สามารถปรับจากภาวะตื่นตัวสูง (Hyper-Arousal) กลับสู่ภาวะพักฟื้น (Rest-Digest) ได้

สามารถอ่านเรื่องราวที่เกี่ยวกับการสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับเยาวชนในภาวะสงครามได้ ที่นี่

สุดใจ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2569 แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. เสนอให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม บูรณาการการจัดพื้นที่ปลอดภัยในศูนย์พักพิง ชุมชน โรงเรียน และพื้นที่วิกฤติทั่วประเทศ ควบคู่กับการสนับสนุนนโยบาย สวัสดิการหนังสือ 3 เล่มในบ้านเด็กปฐมวัย เพื่อให้เด็กทุกคนได้เข้าถึงสื่อการอ่านที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับวัย เตรียมความพร้อมทั้งด้านพัฒนาการและความยืดหยุ่นทางจิตใจ

พร้อมกันนี้ ยังเสนอให้พัฒนาศักยภาพบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ครู อาสาสมัคร และผู้ดูแลเด็ก เพื่อใช้การอ่านเป็นเครื่องมือในการเยียวยาเด็กอย่างมีประสิทธิภาพ โดยย้ำว่าพื้นที่ปลอดภัยที่มีหนังสือเป็นเพียงเครื่องมือบรรเทาผลกระทบทางจิตใจ และเป็นรากฐานสำคัญของการเรียนรู้และการเติบโตอย่างเข้มแข็งในระยะยาว

แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สสส. จึงขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมกันมอบ “พื้นที่แห่งความหวัง” ให้กับเด็กไทย เพื่อให้ปีใหม่และวันเด็ก ไม่ใช่เพียงจุดเริ่มต้นของปฏิทิน แต่เป็นจุดเริ่มต้นของอนาคตที่ปลอดภัย งดงาม และเต็มไปด้วยโอกาสของเด็กทุกคน ผู้สนใจข้อมูลด้านการพัฒนาเด็กในภาวะวิกฤติ สามารถดาวน์โหลดและอ่านหนังสือ “ปลูกกล้ากลางไฟ : แนวทางการดูแลจิตใจและเลี้ยงดูเด็กในภาวะสงคราม” ได้ที่เว็บไซต์ www.happyreading.in.th หรือหากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพัฒนาเด็กด้วยการอ่าน ติดต่อเพจ “อ่านยกกำลังสุข”

Author

Alternative Text
AUTHOR

The Active

กองบรรณาธิการ The Active